xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอขีดเส้นตาย “ธัมมชโย” รับทราบข้อหา 26 พ.ค.นี้ หากมายินดีให้ประกัน วอนลูกศิษย์หยุดตระเวนร้อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - อธิบดีดีเอสไอขีดเส้นตาย “ธัมมชโย” ต้องมาทราบข้อหาฟอกเงิน-รับของโจร 26 พ.ค.นี้ ยันหากมายินดีให้ประกันตัว ย้ำมีหลักฐานพอดำเนินคดี ส่วนปาราชิกหรือไม่นั้นเป็นหน้าที่ของหน่วยสงฆ์ ฝากลูกศิษย์ธรรมกายอย่าตระเวนร้องเรียน หากข้องใจยินดีชี้แจง พร้อมใช้สิทธิปกป้องชื่อเสียง

วันนี้ (18 พ.ค.) เวลา 10.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร ดีเอสไอ ร่วมแถลงหลังศาลอาญา รัชดาภิเษก อนุมัติออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในคดีความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร มีชื่อเป็นผู้รับเช็คบริจาคจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด

พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวว่า หลังศาลอนุมัติออกหมายจับพระธัมมชโย พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ร่วมหารือกับอัยการ และที่ปรึกษาฝ่ายคดีพิเศษ พร้อมกำหนดแนวทางว่าจะทำหนังสือแจ้งไปยังวัดพระธรรมกายถึงพระธัมมชโย ขอให้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 26 พ.ค.นี้ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว เมื่อท่านมารับทราบข้อกล่าวหาและมอบตัว ทางพนักงานสอบสวนก็ยินดีปล่อยตัวชั่วคราวหรือประกันตัวออกไปตามกระบวนการกฎหมาย ทั้งนี้ หากครบกำหนดแล้วไม่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนก็จะร่วมประชุมกับอัยการและที่ปรึกษาฝ่ายคดีพิเศษ พร้อมกำหนดมาตรการดำเนินการต่อไป ซึ่งผลการดำเนินคดีนั้นจะส่งผลต่อพระธัมมชโยถึงขั้นปาราชิกหรือไม่ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานสงฆ์ที่รับผิดชอบ โดยดีเอสไอดูแลรับผิดชอบคดีอาญาเพียงอย่างเดียว

พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวอีกว่า ในส่วนของเหล่าบรรดาลูกศิษย์วัดพระธรรมกายที่รวมตัวไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ นั้น ทางดีเอสไอขอยืนยันว่าทำตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่างและพร้อมชี้แจงให้ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายรับทราบ ขอให้ส่งตัวแทนมารับฟังรายละเอียดทุกขั้นตอน นอกจากนี้ การดำเนินคดีต่อนายศุภชัย นั้น ดีเอสไอรับคดีไว้ทั้งหมดกว่า 10 คดี ทำผิดตั้งแต่ 2552-2556 และต่างกรรมต่างวาระ โดยบางคดีศาลลงโทษไปแล้ว บางคดีอยู่ระหว่างพิจารณาคดี บางคดีก็อยู่ที่ดีเอสไอ กำลังดำเนินคดี ฉะนั้นแต่ละคดีมีรายละเอียดแตกต่างกันไป และอยากให้ลูกศิษย์ที่ไม่เข้าใจส่งตัวแทนมาดีเอสไอ พร้อมชี้แจงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับสื่อที่ถามว่าทำไมดีเอสไอไม่นำกำลังไปจับกุม ขอยืนยันว่าไม่ต้องการกระทบกระทั่งกัน แต่อยากให้ท่านเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ด้าน พ.ต.ท.ปกรณ์เปิดเผยว่า ทางดีเอสไอไม่เคยดำเนินคดีต่อพระธัมมชโยมาก่อน ส่วนคดีนี้ได้ดำเนินการสอบสวนและไม่มีความซ้ำซ้อน ซึ่งการถอนฟ้อนของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด ไม่เอาเรื่องกับ พระธัมมชโยในทางแพ่งและทางอาญานั้นเป็นคนละส่วนกัน ทางแพ่งก็จบไป ส่วนทางคดีอาญายอมความไม่ได้ ต้องสอบสวนตามกระบวนการ ทั้งนี้ การสอบสวนคดีพิเศษในคดีดังกล่าวเป็นการสอบสวนร่วมกับพนักงานอัยการคดีพิเศษ ซึ่งสำนักงานอัยการฝ่ายสอบสวนส่งพนักงานอัยการมาร่วมด้วย 4 คนที่มีประสบการณ์ โดยเป็นการพิจารณาในรูปของคณะกรรมการ เมื่อคณะกรรมการสอบสวนและพิจารณาอย่างไรแล้วก็นำมติมาให้ ตนซึ่งเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของมติคณะกรรมการ

พ.ต.ท.ปกรณ์เผยอีกว่า ส่วนของลูกศิษย์ที่ไปร้องตามหน่วยงานต่างๆ หากท่านมีความสงสัยให้มาที่ดีเอสไอ ตนยินดีชี้แจงให้เข้าใจ ขอความกรุณาอย่าไปตามหน่วยงานต่างๆ จะเกิดความวุ่นวาย รวมทั้งหากเกิดความเสียหายแก่คณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอก็ต้องปกป้องชื่อเสียงของหน่วยงานด้วย นอกจากนี้ สำหรับศาลอนุมัติออกมายจับพระธัมมชโย ซึ่งศาลพิจารณาแล้วเห้นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอจึงออกหมายจับให้ อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ต้องหาในคดีนี้ทั้งหมด 5 ราย และช่วงบ่ายจะมีผู้ต้องหา 2 รายจะเข้ามาใน ดีเอสไอเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางวัดพระธรรมกายตั้งรางวัลนำจับคนเผยแพร่ภาพพระธัมมชโยปล่อยนกในโซเซียลมีเดียซึ่งอ้างว่าข้อมูลอันเป็นเท็จ ดีเอสไอจะปกป้องหรือไม่ เนื่องจากว่าอาจได้รับอันตราย พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวว่า เป็นสิทธิของทางวัดพระธรรมกาย ต้องว่ากันตามกระบวนการกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับกรณีโฆษกวัดพระธรรมกายแจ้งเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการออกหมายจับพระธัมมชโย จะดำเนินการอย่างไร พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวว่า ต้องถามสื่อมวลชนว่าดีเอสไอนั้นตั้งแต่เริ่มกระบวนการสอบสวนและออกหมายเรียกแต่ละครั้งมีระยะเวลาตามกำหนดกฎหมายทุกอย่าง เราพิจารณาเหตุผลของทางวัดพระธรรมกายมาโดยตลอด ดังนั้น ก่อนออกหมายจับ ดีเอสไอส่งหลักฐานไปยังศาลและศาลให้พิจารณา

ต่อมา เวลา 17.00 น. พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร ดีเอสไอ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่าย นางทองพิน กันล้อม เหรัญญิกของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และ น.ส.ศรัณยา มานหมัด รองผู้จัดการสหกรณ์ฯ เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ตามหมายเรียกครั้งที่ 1 ของกรมสอบคดีพิเศษ หลังเป็น 2 ใน 5 ผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว หลังมีหน้าที่เซ็นเช็คเงินสดร่วมกับนายศุภชัยก่อนมอบให้กับวัดพระธรรมกาย

พ.ต.ท.ปกรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับหมายเรียกนั้นได้ส่งให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและได้รับความร่วมมือเดินทางมารับทราบข้อกล่าวตามวันเวลาที่นัดหมาย ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการปล่อยตัวไป โดยหลังจากนี้จะเรียงทั้ง 2 คนมารายงานตัวทุกเดือนจนกว่าจะสรุปสำนวนส่งฟ้อง อย่างไรก็ตาม ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 รายที่เหลือ เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
 

กำลังโหลดความคิดเห็น