“ศีลธรรมไม่กลับคืนมา โลกาจะวินาศ!”
นั่นเป็นถ้อยธรรมของ “ท่านพุทธทาส” ในหนังสือ “เศรษฐศาสตร์พุทธศาสนา” หัวข้อ “เรากำลังไม่รู้ว่า ปัญหาทุกอย่างนั้น มันมาจากการขาดศีลธรรม”
ความเสื่อมทรามศีลธรรมของมนุษย์ คือ “ต้นเหตุปัญหา” นานัปการในสังคมมนุษย์ ที่ก่อเกิดวิกฤตชั่วร้ายในชาติต่างๆ ทั่วโลก
ด้วยความโลภไม่รู้จักพอของทุนสามานย์มะกัน ทำให้ชาติมหาอำนาจตะวันตกไร้ศีลธรรม ทำตัวเป็น “อันธพาลโลก” เที่ยวปล้นฆ่าล่าทรัพยากรล้ำค่าของชาติอื่นๆ มาตลอด
จนเป็น “ต้นเหตุปัญหา” ก่อความขัดแย้ง-แตกแยก-ก่อการร้าย ฯลฯ รวมทั้งสงครามใหญ่น้อยทุกมุมโลก
“ศีลธรรมไม่กลับคืนมา ชาติไทยจะวินาศ” ดังยุค “ตักขี้” และเครือข่ายเข้ายึดอำนาจรัฐด้วยเงิน เพียงแค่สิบกว่าปี ก็แพร่ความชั่วร้ายระบาดไปทั่วทุกมิติชาติ โดยเฉพาะการโกงชาติและล้มเจ้า ยังอันตรายร้ายแรงมาสู่ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์-ประชาชน...จวบจนทุกวันนี้
นักการเมืองส่วนใหญ่ไร้ศีลธรรม...จึงเป็น “ต้นเหตุปัญหา” ที่แท้จริงของชาติไทย!
อนุสสติจากกรณี ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดี ม.รังสิต ยกเลิกการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาคณะแพทยศาสตร์และเภสัชศาสตร์ (รอบที่ 2) เมื่อวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2559
เพราะมีการทุจริตด้วยการถ่ายภาพข้อสอบผ่านแว่นตาพิเศษ ส่งให้สถาบันกวดวิชาเฉลยคำตอบ แล้วส่งกลับมาให้ผู้เข้าสอบสามคนผ่านสมาร์ทวอทช์ ที่จ่ายค่าโกงการสอบร่วมแสนบาทต่อหัว โดยมีการรับประกันผล!
“ดร.อาทิตย์” แถลงว่า ม.รังสิตได้แบล็กลิสต์ผู้เข้าสอบทั้งสามราย เพราะการสอบเข้าเรียนแพทย์ ไม่ใช่ดูแค่ผลสอบข้อเขียน แต่ต้องดูที่เจตคติ ทัศนคติของผู้เข้าสอบด้วยว่า เหมาะสมจะเข้าเรียนวิชาชีพนี้หรือไม่ ทั้งสามรายที่ทุจริตข้อสอบครั้งนี้ ถือว่ามีคุณสมบัติไม่เหมาะสม
ขณะที่ ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา ระบุว่า เมื่อมีประวัติทุจริตแล้ว การเข้าสอบเพื่อเรียนแพทย์คงยาก หรือต่อให้หลุดเข้ามาเรียนแพทย์ได้ เมื่อเรียนจบจะต้องสอบขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และขึ้นทะเบียนกับแพทยสภา...แพทยสภาจะไม่อนุญาตให้สอบเพื่อเป็นแพทย์โดยเด็ดขาด
เนื่องจากวิชาชีพแพทย์ต้องมีความซื่อสัตย์ และเป็นวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนจำนวนมาก เพราะขนาดข้อสอบยังโกง ในอนาคตก็อาจโกงการตรวจคนไข้ หรือทำเรื่องทุจริตที่ส่งผลกระทบได้อีก จึงต้องคัดออกไปเสียแต่แรก
ส่วน นพ.วิฑูรย์ เหลืองดิลก นพ.สาธารณสุข จ.ตรัง เผยว่า...เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง การตั้งใจที่จะเป็นแพทย์นั้น ต้องมีหลักจริยธรรม คุณธรรม รวมทั้งมีจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพอย่างเต็มเปี่ยม การทุจริตถือเป็นการเอาเปรียบคนอื่น ถึงเข้าไปได้ก็เป็นบุคคลที่ไม่มีความเหมาะสม ในอันที่จะประกอบวิชาชีพแพทย์ ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตคนไข้
งานนี้...เพื่อความเป็นธรรม “ดร.อาทิตย์” ได้กำหนดการสอบใหม่ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2559 ส่วนผู้ที่ได้กระทำความผิดในครั้งนี้ เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมต้องนำตัวมาลงโทษ
เรื่องจะจบลงแบบไหนและเมื่อไหร่นั้น-ไม่รู้! แต่เหตุการณ์นี้ได้เกิดข้อคิดมากมายให้-ใคร่ครวญ !
ที่แน่ๆ คือ ศีลธรรมของคนในสังคมไทย ได้เสื่อมทรามลงอย่างหนัก จนส่อว่า“ถ้าศีลธรรมไม่กลับมา ชาติไทยจะต้องวินาศ” เสียแล้วล่ะสิ
ศีลธรรมเสื่อม-จนวงการสงฆ์มีอลัชชี-เดียรถีย์-พระปลอมมิใช่น้อย “คนชั่วห่มเหลือง” เหล่านี้ได้บิดเบือนคำสอนขององค์พระศาสดา โดยมีพระเถระบางรูปหนุนหลังด้วยการโกหกหน้าด้านๆ ว่า ไม่ต้องทำความดีก็ไปสวรรค์ได้ เพียงบริจาคเงินให้กับ “วัดจานบิน!”
เรียกว่า...มีอลัชชี-เดียรถีย์-พระปลอม ฯลฯ เพ่นพ่านอยู่ทั่ววงการสงฆ์ ทั่วประเทศไทยยั้วเยี้ยเต็มไปหมดเลย
ศีลธรรมเสื่อม-ถึงขนาดกลุ่มทุนสามานย์มากมาย ที่ไร้ศีลธรรมเข้ามาลงทุนทำธุรกิจการเมือง ใช้เงินยึดอำนาจรัฐเพื่อโกงชาติโดยมิรู้จักพอ ชนิดไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรมแม้แต่น้อย
“คน” จะเป็น “แพทย์” ยังต้องผ่านการสอบ ต้องมีคุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรมอย่างสูง เพราะแพทย์มีหน้าที่รักษาชีวิตคน!
แต่ “คน” เป็น “นักการเมืองไทย” ต้องบริหารชาติและคนไทยกว่า 65 ล้านคน และเงินงบประมาณชาติอีกเกือบสามล้านล้านบาท! ยิ่งต้องมีคุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรม-ความซื่อสัตย์สุจริต มากกว่า “แพทย์” และ “คน” ในวิชาชีพอื่นๆ
ดังกรณี นักการเมืองชั่วบางคน ได้ตั้งศาลเตี้ยฆ่าคนไทยนับพันๆ คน! ผลาญและโกงเงินชาติแค่โครงการเดียวหลายแสนล้านบาท! รวมทั้งใช้อำนาจรัฐอธรรมก่อวิกฤตชั่วร้ายให้ชาติอยู่จนทุกวันนี้!
ทว่า...ชาติไทยกลับไร้การ “กลั่นกรอง” กลุ่มคนชั่ว ให้พ้นไปจากแวดวงการเมือง เพราะการเลือกตั้งเพื่อยึดรัฐสภาและรัฐบาลเต็มไปด้วยการโกง จนประชาชนเจ้าของชาติไทยที่แท้จริง มีสิทธิเพียงหย่อนบัตรเลือกตั้ง เพื่อ “พวกโจรการเมือง” ที่ไร้ศีลธรรม จะได้ปล้นชาติด้วยข้ออ้าง “มาจากการเลือกตั้ง(ขี้โกง)!”
ดังนั้น “ศีลธรรมที่เสื่อมสลาย” จากจิตใจคนไทยระดับผู้บริหารชาติ ทั้งที่มาจากการใช้เงินและใช้ปืนยึดอำนาจรัฐนั่นแหละ เป็น “ต้นเหตุปัญหา” ที่แท้จริงของชาติไทย ที่ต้องขจัดให้หมดไปจากชาติไทย โดยเร็วที่สุดเป็น “อันดับแรก”
เฮ้อ!...ถ้ามีอำนาจพิเศษเสกให้ “คนมีศีลธรรม” ได้ จะเสกให้ “นักการเมืองไทยทุกคน” มีศีลธรรม ณ บัดนาวเลยล่ะ!
นั่นเป็นถ้อยธรรมของ “ท่านพุทธทาส” ในหนังสือ “เศรษฐศาสตร์พุทธศาสนา” หัวข้อ “เรากำลังไม่รู้ว่า ปัญหาทุกอย่างนั้น มันมาจากการขาดศีลธรรม”
ความเสื่อมทรามศีลธรรมของมนุษย์ คือ “ต้นเหตุปัญหา” นานัปการในสังคมมนุษย์ ที่ก่อเกิดวิกฤตชั่วร้ายในชาติต่างๆ ทั่วโลก
ด้วยความโลภไม่รู้จักพอของทุนสามานย์มะกัน ทำให้ชาติมหาอำนาจตะวันตกไร้ศีลธรรม ทำตัวเป็น “อันธพาลโลก” เที่ยวปล้นฆ่าล่าทรัพยากรล้ำค่าของชาติอื่นๆ มาตลอด
จนเป็น “ต้นเหตุปัญหา” ก่อความขัดแย้ง-แตกแยก-ก่อการร้าย ฯลฯ รวมทั้งสงครามใหญ่น้อยทุกมุมโลก
“ศีลธรรมไม่กลับคืนมา ชาติไทยจะวินาศ” ดังยุค “ตักขี้” และเครือข่ายเข้ายึดอำนาจรัฐด้วยเงิน เพียงแค่สิบกว่าปี ก็แพร่ความชั่วร้ายระบาดไปทั่วทุกมิติชาติ โดยเฉพาะการโกงชาติและล้มเจ้า ยังอันตรายร้ายแรงมาสู่ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์-ประชาชน...จวบจนทุกวันนี้
นักการเมืองส่วนใหญ่ไร้ศีลธรรม...จึงเป็น “ต้นเหตุปัญหา” ที่แท้จริงของชาติไทย!
อนุสสติจากกรณี ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดี ม.รังสิต ยกเลิกการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาคณะแพทยศาสตร์และเภสัชศาสตร์ (รอบที่ 2) เมื่อวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2559
เพราะมีการทุจริตด้วยการถ่ายภาพข้อสอบผ่านแว่นตาพิเศษ ส่งให้สถาบันกวดวิชาเฉลยคำตอบ แล้วส่งกลับมาให้ผู้เข้าสอบสามคนผ่านสมาร์ทวอทช์ ที่จ่ายค่าโกงการสอบร่วมแสนบาทต่อหัว โดยมีการรับประกันผล!
“ดร.อาทิตย์” แถลงว่า ม.รังสิตได้แบล็กลิสต์ผู้เข้าสอบทั้งสามราย เพราะการสอบเข้าเรียนแพทย์ ไม่ใช่ดูแค่ผลสอบข้อเขียน แต่ต้องดูที่เจตคติ ทัศนคติของผู้เข้าสอบด้วยว่า เหมาะสมจะเข้าเรียนวิชาชีพนี้หรือไม่ ทั้งสามรายที่ทุจริตข้อสอบครั้งนี้ ถือว่ามีคุณสมบัติไม่เหมาะสม
ขณะที่ ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา ระบุว่า เมื่อมีประวัติทุจริตแล้ว การเข้าสอบเพื่อเรียนแพทย์คงยาก หรือต่อให้หลุดเข้ามาเรียนแพทย์ได้ เมื่อเรียนจบจะต้องสอบขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และขึ้นทะเบียนกับแพทยสภา...แพทยสภาจะไม่อนุญาตให้สอบเพื่อเป็นแพทย์โดยเด็ดขาด
เนื่องจากวิชาชีพแพทย์ต้องมีความซื่อสัตย์ และเป็นวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนจำนวนมาก เพราะขนาดข้อสอบยังโกง ในอนาคตก็อาจโกงการตรวจคนไข้ หรือทำเรื่องทุจริตที่ส่งผลกระทบได้อีก จึงต้องคัดออกไปเสียแต่แรก
ส่วน นพ.วิฑูรย์ เหลืองดิลก นพ.สาธารณสุข จ.ตรัง เผยว่า...เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง การตั้งใจที่จะเป็นแพทย์นั้น ต้องมีหลักจริยธรรม คุณธรรม รวมทั้งมีจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพอย่างเต็มเปี่ยม การทุจริตถือเป็นการเอาเปรียบคนอื่น ถึงเข้าไปได้ก็เป็นบุคคลที่ไม่มีความเหมาะสม ในอันที่จะประกอบวิชาชีพแพทย์ ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตคนไข้
งานนี้...เพื่อความเป็นธรรม “ดร.อาทิตย์” ได้กำหนดการสอบใหม่ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2559 ส่วนผู้ที่ได้กระทำความผิดในครั้งนี้ เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมต้องนำตัวมาลงโทษ
เรื่องจะจบลงแบบไหนและเมื่อไหร่นั้น-ไม่รู้! แต่เหตุการณ์นี้ได้เกิดข้อคิดมากมายให้-ใคร่ครวญ !
ที่แน่ๆ คือ ศีลธรรมของคนในสังคมไทย ได้เสื่อมทรามลงอย่างหนัก จนส่อว่า“ถ้าศีลธรรมไม่กลับมา ชาติไทยจะต้องวินาศ” เสียแล้วล่ะสิ
ศีลธรรมเสื่อม-จนวงการสงฆ์มีอลัชชี-เดียรถีย์-พระปลอมมิใช่น้อย “คนชั่วห่มเหลือง” เหล่านี้ได้บิดเบือนคำสอนขององค์พระศาสดา โดยมีพระเถระบางรูปหนุนหลังด้วยการโกหกหน้าด้านๆ ว่า ไม่ต้องทำความดีก็ไปสวรรค์ได้ เพียงบริจาคเงินให้กับ “วัดจานบิน!”
เรียกว่า...มีอลัชชี-เดียรถีย์-พระปลอม ฯลฯ เพ่นพ่านอยู่ทั่ววงการสงฆ์ ทั่วประเทศไทยยั้วเยี้ยเต็มไปหมดเลย
ศีลธรรมเสื่อม-ถึงขนาดกลุ่มทุนสามานย์มากมาย ที่ไร้ศีลธรรมเข้ามาลงทุนทำธุรกิจการเมือง ใช้เงินยึดอำนาจรัฐเพื่อโกงชาติโดยมิรู้จักพอ ชนิดไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรมแม้แต่น้อย
“คน” จะเป็น “แพทย์” ยังต้องผ่านการสอบ ต้องมีคุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรมอย่างสูง เพราะแพทย์มีหน้าที่รักษาชีวิตคน!
แต่ “คน” เป็น “นักการเมืองไทย” ต้องบริหารชาติและคนไทยกว่า 65 ล้านคน และเงินงบประมาณชาติอีกเกือบสามล้านล้านบาท! ยิ่งต้องมีคุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรม-ความซื่อสัตย์สุจริต มากกว่า “แพทย์” และ “คน” ในวิชาชีพอื่นๆ
ดังกรณี นักการเมืองชั่วบางคน ได้ตั้งศาลเตี้ยฆ่าคนไทยนับพันๆ คน! ผลาญและโกงเงินชาติแค่โครงการเดียวหลายแสนล้านบาท! รวมทั้งใช้อำนาจรัฐอธรรมก่อวิกฤตชั่วร้ายให้ชาติอยู่จนทุกวันนี้!
ทว่า...ชาติไทยกลับไร้การ “กลั่นกรอง” กลุ่มคนชั่ว ให้พ้นไปจากแวดวงการเมือง เพราะการเลือกตั้งเพื่อยึดรัฐสภาและรัฐบาลเต็มไปด้วยการโกง จนประชาชนเจ้าของชาติไทยที่แท้จริง มีสิทธิเพียงหย่อนบัตรเลือกตั้ง เพื่อ “พวกโจรการเมือง” ที่ไร้ศีลธรรม จะได้ปล้นชาติด้วยข้ออ้าง “มาจากการเลือกตั้ง(ขี้โกง)!”
ดังนั้น “ศีลธรรมที่เสื่อมสลาย” จากจิตใจคนไทยระดับผู้บริหารชาติ ทั้งที่มาจากการใช้เงินและใช้ปืนยึดอำนาจรัฐนั่นแหละ เป็น “ต้นเหตุปัญหา” ที่แท้จริงของชาติไทย ที่ต้องขจัดให้หมดไปจากชาติไทย โดยเร็วที่สุดเป็น “อันดับแรก”
เฮ้อ!...ถ้ามีอำนาจพิเศษเสกให้ “คนมีศีลธรรม” ได้ จะเสกให้ “นักการเมืองไทยทุกคน” มีศีลธรรม ณ บัดนาวเลยล่ะ!
