รองประธานอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษากลไกปราบปรามทุจริต สปท. ยันหลักฐานมัด ทอท.ปล่อยคิงเพาเวอร์ลอบขายสินค้าเถื่อนในสุวรรณภูมิ เตรียมประสาน สตง. เช็คยอดมูลค่าความเสียหาย
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษากลไกปราบปรามทุจริต ในสังกัดคณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึง การตรวจสอบพบเหตุส่อทุจริตของ บริษัทการท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท.จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัทคิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ว่า จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวมีพฤติกรรมลักลอบขายสินค้าปลอดภาษีในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีหลักฐานว่ามีผู้สั่งซื้อสินค้าไวน์ เหล้า และแชมเปญปลอดภาษี โดยไม่ต้องมีหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ตามระเบียบศุลกากรการซื้อสินค้าปลอดภาษี โดยมีหลักฐานการบันทึกภาพเป็นวิดีโอไว้ด้วย ซึ่งศุลกากรและพนักงานของทอท. ก็ทราบเรื่อง แต่มิได้ดำเนินการ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ ทอท. เกี่ยวพันถึงผลประโยชน์และรายได้ของประเทศชาติ
นายชาญชัย กล่าวว่า โดยเฉพาะสองหน่วยงานคือ ศุลกากร ซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้ออกใบอนุญาต และควบคุมสินค้าคลังทัณฑ์บน (สินค้าปลอดอากร) และทอท. ที่ถือเป็นเจ้าของสถานที่ ผู้ให้เช่าสถานที่ โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้เช่าพื้นที่ขายสินค้าปลอดอากร ต้องไม่ทำผิดกฎหมายตามใบอนุญาตศุลกากร อีกทั้งผลประโยชน์ตามสัญญาจากยอดการขายสินค้าที่กำหนดไว้ว่า ใน 5 ปีแรกของการขายสินค้า ทอท.จะได้รับประโยชน์ 15% จากยอดขายโดยไม่หักค่าใช้จ่าย และเพิ่มอีกปีละ 1% จนครบกำหนดสัญญา10 ปี แต่ ทอท.กลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้หน่วยงานรัฐเสียผลประโยชน์มหาศาล จากกรณีลักลอบขายสินค้าปลอดอากรนี้ ซึ่ง ทอท. มักอ้างว่าได้ให้สัมปทานแก่ บริษัท คิง เพาเวอร์ แต่ผู้เดียว อีกทั้งที่ผ่านมานายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจแผ่นดิน(สตง.) เคยทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ ตผ.0015/0916 ถึง นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ทอท. เพื่อเร่งรัดให้เชื่อมระบบขายหน้าร้าน หรือ พ้อย ออฟ เซล หรือ พีโอเอส (Point of sale) คือจุดขาย หรือจุดชำระเงินที่แคชเชียร์ ที่ควบคุมสต็อกสินค้า โดยเชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์ให้สามารถตรวจสอบยอดขายสินค้าในร้านไปในตัวทันที (เรียล ไทม์) เพื่อที่จะรายงานผลการตรวจสอบการดำเนินกิจการร้านค้าปลอดอากรในท่าอากาศยานของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ว่าถูกต้องตามที่รายงานหรือไม่ อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ สตง.อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบมูลค่าความเสียหาย ซึ่งอนุกมธ. จะได้ตรวจสอบทานกับสตง. ว่ายอดความเสียหายตรงกันหรือไม่ อย่างไร.