ผู้จัดการรายวัน 360 - อธิบดี สบส. ลงนาม สั่งปิด รพ.เดชา 60 วัน ประสานประกันสังคม จัด รพ.ราชวิถี-เลิดสิน รองรับผู้ประกันตน 40,000 คน ชี้หากปรับปรุงมาตรฐานแล้วพร้อมตรวจสอบพิจารณาเพิกถอนคำสั่ง ขณะที่ ก.แรงงานแจ้งความ บ.ศรีอยุธ เบี้ยวจ่ายเงินลูกจ้าง รพ.เดชา หลังเรียกชี้แจงแล้ว 2 ครั้ง แต่กลับเมิน หากไม่จ่ายเล็งใช้กฎหมายบังคับใช้จ่ายเงิน
วานนี้ (12 พ.ค.) น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึ งความคืบหน้าการสั่งปิด รพ.เดชา ว่า ตนได้ลงนามในหนังสือคำสั่งปิด รพ.เดชาแล้ว เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 58 ตามมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 เป็นระยะเวลา 60 วัน นับตั้งแต่วันที่รับทราบคำสั่ง เนื่องจาก รพ.เดชาดำเนินการไม่เป็นไปตามมาตรฐาน คือ 1.ไม่จัดให้มีบุคลากรตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะบุคลากรวิชาชีพ 3 สาขาหลักที่จำเป็นในการดำเนินการบริการของโรงพยาบาล ได้แก่ แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร และ 2.มีการปิดให้บริการแผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งเป็นสาระสำคัญของการให้บริการของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ จนเป็นเหตุให้เกิดอันตราย ก่อความเสียหายหรือความเดือดร้อนอย่างร้ายแรง ทำให้ผู้ป่วยสูญเสียโอกาสในการรับการรักษาพยาบาล
ด้าน นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า หากรพ.เดชาไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว สามารถใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตามกฎหมายได้ ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ทราบคำสั่ง และหากโรงพยาบาลได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขสถานพยาบาลให้ถูกต้องแล้ว สามารถแจ้ง สบส.เพื่อดำเนินการตรวจสอบมาตรฐาน และพิจารณาเพิกถอนคำสั่ง ให้สามารถดำเนินกิจการสถานพยาบาลได้ต่อไปได้
ด้าน นางชลอลักษณ์ แก้วพวง ผู้อำนวยการสำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึง การดูแลผู้ประกันตนที่มีสิทธิการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเดชา ประมาณ 40,000 ราย ว่า ได้หารือกับตัวแทน รพ.ราชวิถี และรพ.เลิดสิน เพื่อให้รองรับผู้ประกันตน ซึ่งได้รับการตอบรับย้ายผู้ประกันตนไปแห่งละกว่า 2 หมื่นคน โดย สปส.กำลังเร่งส่งข้อมูลผู้ประกันตนให้แก่ทั้ง 2 รพ. และจัดทำบัตรรับรองสิทธิ เมื่อเสร็จแล้วจะส่งไปยังสถานประกอบการ โดยบัตรรับรองสิทธิของทั้งสอง รพ. เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.นี้
ส่วนกรณีผู้ประกันตนที่รับการรักษาและรับยาอยู่ที่ รพ.เดชา ให้ขอประวัติจาก รพ.เดชา และไปรับยาที่ รพ.จุฬาลงกรณ์แทน ตั้งแต่วันนี้ - 15 พ.ค. และ สปส.จะไปจ่ายเงินให้รพ.จุฬาฯภายหลัง
สำหรับโรงพยาบาลเดชา ได้ปรับโครงสร้างผู้บริหารตั้งแต่ปี 2549 หลังนพ.เดชา สุขารมณ์ ผู้ก่อตั้งได้ขายกิจการให้กับบริษัท ศรีอยุธ จำกัด เนื่องจากต้องการทำงานทางการเมือง โดยมีนายวีระนารถ วีระไวทยะ เข้ามาบริหาร และเมื่อช่วงปลายปี 2558 นายวีระนารถ ได้ล้มป่วยลงและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2559 จึงมีการเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่และเกิดปัญหาดังกล่าว
วันเดียวกัน นายสุวิทย์ สุมาลา รองปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายอนันตชัย อุทัยพัฒนาชีพ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เดินทางพบลูกจ้างโรงพยาบาลเดชา หลังมีเรื่องร้องเรียนไม่ได้รับการจ่ายเงินเดือนกว่า 4 เดือน ขณะที่ลูกจ้างบางรายถึงขั้นถูกไล่ออกจากห้องเช่าเนื่องจากไม่มีเงินจ่าย เพื่อชี้แจงถึงแนวทางการช่วยเหลือ ขณะเดียวกันกลุ่มผู้บริหาร รพ.เดชา นำโดย จ่าสิบเอกชาญณรงค์ ศรีประเสริฐ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ศรีอยุธ จำกัด ได้เดินทางมาพบและใช้เวลาหารือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับไป
นายสุวิทย์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานไม่เพิกเฉยต่อเรื่องนี้ โดยมีการออกหนังสือเชิญผู้บริหารโรงพยาบาลเดชาเข้าหารือ เพื่อแก้ปัญหา โดยที่ผ่านมามีการทำหนังสือเรียกผู้บริหารชุดใหม่นี้ชี้แจงแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่รับคำตอบ กระทรวงฯ จึงมีการแจ้งความดำเนินคดีที่ สน. พญาไท ในข้อหาไม่ชำระเงินค่าจ้างกับลูกจ้าง และแจ้งความ สน.ดินแดง ในข้อหาไม่มาพบตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน และเตรียมดำเนินคดีทางอา
วานนี้ (12 พ.ค.) น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึ งความคืบหน้าการสั่งปิด รพ.เดชา ว่า ตนได้ลงนามในหนังสือคำสั่งปิด รพ.เดชาแล้ว เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 58 ตามมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 เป็นระยะเวลา 60 วัน นับตั้งแต่วันที่รับทราบคำสั่ง เนื่องจาก รพ.เดชาดำเนินการไม่เป็นไปตามมาตรฐาน คือ 1.ไม่จัดให้มีบุคลากรตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะบุคลากรวิชาชีพ 3 สาขาหลักที่จำเป็นในการดำเนินการบริการของโรงพยาบาล ได้แก่ แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร และ 2.มีการปิดให้บริการแผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งเป็นสาระสำคัญของการให้บริการของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ จนเป็นเหตุให้เกิดอันตราย ก่อความเสียหายหรือความเดือดร้อนอย่างร้ายแรง ทำให้ผู้ป่วยสูญเสียโอกาสในการรับการรักษาพยาบาล
ด้าน นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า หากรพ.เดชาไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว สามารถใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตามกฎหมายได้ ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ทราบคำสั่ง และหากโรงพยาบาลได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขสถานพยาบาลให้ถูกต้องแล้ว สามารถแจ้ง สบส.เพื่อดำเนินการตรวจสอบมาตรฐาน และพิจารณาเพิกถอนคำสั่ง ให้สามารถดำเนินกิจการสถานพยาบาลได้ต่อไปได้
ด้าน นางชลอลักษณ์ แก้วพวง ผู้อำนวยการสำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึง การดูแลผู้ประกันตนที่มีสิทธิการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเดชา ประมาณ 40,000 ราย ว่า ได้หารือกับตัวแทน รพ.ราชวิถี และรพ.เลิดสิน เพื่อให้รองรับผู้ประกันตน ซึ่งได้รับการตอบรับย้ายผู้ประกันตนไปแห่งละกว่า 2 หมื่นคน โดย สปส.กำลังเร่งส่งข้อมูลผู้ประกันตนให้แก่ทั้ง 2 รพ. และจัดทำบัตรรับรองสิทธิ เมื่อเสร็จแล้วจะส่งไปยังสถานประกอบการ โดยบัตรรับรองสิทธิของทั้งสอง รพ. เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.นี้
ส่วนกรณีผู้ประกันตนที่รับการรักษาและรับยาอยู่ที่ รพ.เดชา ให้ขอประวัติจาก รพ.เดชา และไปรับยาที่ รพ.จุฬาลงกรณ์แทน ตั้งแต่วันนี้ - 15 พ.ค. และ สปส.จะไปจ่ายเงินให้รพ.จุฬาฯภายหลัง
สำหรับโรงพยาบาลเดชา ได้ปรับโครงสร้างผู้บริหารตั้งแต่ปี 2549 หลังนพ.เดชา สุขารมณ์ ผู้ก่อตั้งได้ขายกิจการให้กับบริษัท ศรีอยุธ จำกัด เนื่องจากต้องการทำงานทางการเมือง โดยมีนายวีระนารถ วีระไวทยะ เข้ามาบริหาร และเมื่อช่วงปลายปี 2558 นายวีระนารถ ได้ล้มป่วยลงและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2559 จึงมีการเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่และเกิดปัญหาดังกล่าว
วันเดียวกัน นายสุวิทย์ สุมาลา รองปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายอนันตชัย อุทัยพัฒนาชีพ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เดินทางพบลูกจ้างโรงพยาบาลเดชา หลังมีเรื่องร้องเรียนไม่ได้รับการจ่ายเงินเดือนกว่า 4 เดือน ขณะที่ลูกจ้างบางรายถึงขั้นถูกไล่ออกจากห้องเช่าเนื่องจากไม่มีเงินจ่าย เพื่อชี้แจงถึงแนวทางการช่วยเหลือ ขณะเดียวกันกลุ่มผู้บริหาร รพ.เดชา นำโดย จ่าสิบเอกชาญณรงค์ ศรีประเสริฐ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ศรีอยุธ จำกัด ได้เดินทางมาพบและใช้เวลาหารือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับไป
นายสุวิทย์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานไม่เพิกเฉยต่อเรื่องนี้ โดยมีการออกหนังสือเชิญผู้บริหารโรงพยาบาลเดชาเข้าหารือ เพื่อแก้ปัญหา โดยที่ผ่านมามีการทำหนังสือเรียกผู้บริหารชุดใหม่นี้ชี้แจงแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่รับคำตอบ กระทรวงฯ จึงมีการแจ้งความดำเนินคดีที่ สน. พญาไท ในข้อหาไม่ชำระเงินค่าจ้างกับลูกจ้าง และแจ้งความ สน.ดินแดง ในข้อหาไม่มาพบตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน และเตรียมดำเนินคดีทางอา