ผู้จัดการรายวัน360 - "แย้ นนทพร" แถลงทั้งน้ำตาเลิกสามีหมอ "นพ.นพรัตน์" หลังแต่งได้ 3 เดือน ลั่นไม่เคยอยากแต่งแถมไลฟ์ไสตล์ที่แตกต่างตนติดเที่ยวส่วนอีกฝ่ายติดบ้าน ยอมรับสร้างภาพเรื่องสินสอด 30 ล้านบาท
หลังเข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อวันที่ 14 ก.พ. โดยมีข่าวถึงค่าสินสอดทั้งเรือนหอ เงินสด เครื่องเพชร ฯ อลังการร่วม 100 ล้านบาท ล่าสุดทางด้านของพริตตี้ชื่อดัง "หญิงแย้ นนทพร" ก็ได้ออกมาแถลงข่าวยอมรับว่าตนเองได้เลิกรากับกับสามี "หมอสอง นพรัตน์" ที่คบหากันมาก่อนหน้านั้นร่วม 8 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ที่ผ่านมาตั้งแต่เลิกกับสามีตนอยากจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ทว่าเหตุที่ต้องออกมาแถลงข่าวเพราะในโลกโซเชียลได้มีการโพสต์ขอความที่กระทบถึงตัวเองและครอบครัว ส่วนสาเหตุที่เลิกกันก็เป็นเพราะเรื่องของทัศนคติและไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน โดยเฉพาะตนเองที่ยังติดเรื่องเที่ยวสังสรรค์กลางคืนกับเพื่อนๆ อยู่
ตนแต่งงานทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่พร้อมโดยก่อนหน้านั้นตนได้เคยบอกเลิกไปแล้วแต่ทางฝ่ายสามีกลับปล่อยคลิปขอแต่งงานออกมา ทำให้ตนเองต้องจำใจแต่ง ส่วนที่มีข่าวว่าตนได้รับเงินไป 100 ล้านบาทเป็นค่าเลิกรานั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง รวมถึงค่าสินสอด 30 ล้านบาทที่ตนเคยบอกไว้ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน
" หลักๆ เลยคือทัศนคติ คุณหมอชอบอยู่ในบ้าน แต่แย้ชอบออกมาข้างนอกแย้รู้มาตลอดและปรับเปลี่ยนตัวเองมาตลอด อยากให้ถามเขาว่าเคยเปลี่ยนแปลงเพื่อเราบ้างไหม"
"เรื่องสินสอดไม่เกี่ยวข้องในการเลิกกันครั้งนี้เลย รพ.ของคุณหมอเป็นชื่อของคุณหมอผู้เดียว รถยนต์ก็ของคุณหมอ ไม่มีชื่อแย้ ส่วนสินสอด 30 ล้าน แย้ต้องขอประทานอภัยสังคมทุกๆ คนเลย ตอนหมั้นแย้บอก 30 ล้าน แต่จริงๆ ไม่ได้อะไรนอกจากแหวนเพชร ซึ่งคืนไปแล้ว ต่างหูเพชรอยู่บ้านคุณหมอ กำไรเพชรอยู่ที่แย้ "
เรื่องนอกใจ ไม่มีแน่นอน ไปเกาหลียกขโยงไปเยอแยะมาก ฝ่ายคุณหมอก็ไม่มีแน่นอน แย้เสียใจนะ ตอนนี้ 29 อยู่กับเขามา 9 ปี 10 ปี เราไม่โทษเขา ทุกคนมีข้อเสีย และแย้ผิดเองที่คิดว่าความรักทำให้ทุกอย่างผ่านมาได้ (ร้องไห้) ทั้งๆ ที่เมื่อสามเดือนที่แล้วยังอยู่ด้วยกัน ถามจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไหม เป็นเรื่องอนาคตค่ะ "
"ถ้าวันนี้ย้อนกลับไปต้องเจอแบบนี้ แย้คงไม่อยากแต่งแล้วค่ะ...อยากฝากถึงหมอว่าขอบคุณสำหรับ 8-9 ปี ที่ผ่านมา ทำให้แย้ได้เข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ อย่างที่พี่หมอบอกว่าถ้าวันหนึ่งเขาไม่อยู่ แย้มีลูก แย้ต้องเข้มแข็งและดูแลลูกได้ แย้อยากให้เก็บความทรงจำดีๆ เรื่องราวดีๆ (ร้องไห้) เอาไว้ดีกว่า แย้ไม่ได้จดทะเบียนตั้งแต่ต้นค่ะ"
"บทเรียนของแย้คือความรักไม่ใช่ทุกอย่าง ชีวิตคู่มีอุปสรรคเยอะมาก ถอยหลังคนละก้าว ถ้าเราต้องเปลี่ยนตัวเองมากๆ เพื่อใครสักคน สักวันก็ต้องเป็นตัวเองอยู่ดี เข็ดกับการแต่งงานนะ ถ้าไม่มีคนรู้จัก หรือมีกระแสสังคมมาต่อว่า แย้โอเคกว่านี้นะ ทำไมต้องว่าแย้เกาะเขา แย้จะหาเงินเองไม่ได้เลยเหรอ..."
หลังเข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อวันที่ 14 ก.พ. โดยมีข่าวถึงค่าสินสอดทั้งเรือนหอ เงินสด เครื่องเพชร ฯ อลังการร่วม 100 ล้านบาท ล่าสุดทางด้านของพริตตี้ชื่อดัง "หญิงแย้ นนทพร" ก็ได้ออกมาแถลงข่าวยอมรับว่าตนเองได้เลิกรากับกับสามี "หมอสอง นพรัตน์" ที่คบหากันมาก่อนหน้านั้นร่วม 8 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ที่ผ่านมาตั้งแต่เลิกกับสามีตนอยากจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ทว่าเหตุที่ต้องออกมาแถลงข่าวเพราะในโลกโซเชียลได้มีการโพสต์ขอความที่กระทบถึงตัวเองและครอบครัว ส่วนสาเหตุที่เลิกกันก็เป็นเพราะเรื่องของทัศนคติและไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน โดยเฉพาะตนเองที่ยังติดเรื่องเที่ยวสังสรรค์กลางคืนกับเพื่อนๆ อยู่
ตนแต่งงานทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่พร้อมโดยก่อนหน้านั้นตนได้เคยบอกเลิกไปแล้วแต่ทางฝ่ายสามีกลับปล่อยคลิปขอแต่งงานออกมา ทำให้ตนเองต้องจำใจแต่ง ส่วนที่มีข่าวว่าตนได้รับเงินไป 100 ล้านบาทเป็นค่าเลิกรานั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง รวมถึงค่าสินสอด 30 ล้านบาทที่ตนเคยบอกไว้ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน
" หลักๆ เลยคือทัศนคติ คุณหมอชอบอยู่ในบ้าน แต่แย้ชอบออกมาข้างนอกแย้รู้มาตลอดและปรับเปลี่ยนตัวเองมาตลอด อยากให้ถามเขาว่าเคยเปลี่ยนแปลงเพื่อเราบ้างไหม"
"เรื่องสินสอดไม่เกี่ยวข้องในการเลิกกันครั้งนี้เลย รพ.ของคุณหมอเป็นชื่อของคุณหมอผู้เดียว รถยนต์ก็ของคุณหมอ ไม่มีชื่อแย้ ส่วนสินสอด 30 ล้าน แย้ต้องขอประทานอภัยสังคมทุกๆ คนเลย ตอนหมั้นแย้บอก 30 ล้าน แต่จริงๆ ไม่ได้อะไรนอกจากแหวนเพชร ซึ่งคืนไปแล้ว ต่างหูเพชรอยู่บ้านคุณหมอ กำไรเพชรอยู่ที่แย้ "
เรื่องนอกใจ ไม่มีแน่นอน ไปเกาหลียกขโยงไปเยอแยะมาก ฝ่ายคุณหมอก็ไม่มีแน่นอน แย้เสียใจนะ ตอนนี้ 29 อยู่กับเขามา 9 ปี 10 ปี เราไม่โทษเขา ทุกคนมีข้อเสีย และแย้ผิดเองที่คิดว่าความรักทำให้ทุกอย่างผ่านมาได้ (ร้องไห้) ทั้งๆ ที่เมื่อสามเดือนที่แล้วยังอยู่ด้วยกัน ถามจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไหม เป็นเรื่องอนาคตค่ะ "
"ถ้าวันนี้ย้อนกลับไปต้องเจอแบบนี้ แย้คงไม่อยากแต่งแล้วค่ะ...อยากฝากถึงหมอว่าขอบคุณสำหรับ 8-9 ปี ที่ผ่านมา ทำให้แย้ได้เข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ อย่างที่พี่หมอบอกว่าถ้าวันหนึ่งเขาไม่อยู่ แย้มีลูก แย้ต้องเข้มแข็งและดูแลลูกได้ แย้อยากให้เก็บความทรงจำดีๆ เรื่องราวดีๆ (ร้องไห้) เอาไว้ดีกว่า แย้ไม่ได้จดทะเบียนตั้งแต่ต้นค่ะ"
"บทเรียนของแย้คือความรักไม่ใช่ทุกอย่าง ชีวิตคู่มีอุปสรรคเยอะมาก ถอยหลังคนละก้าว ถ้าเราต้องเปลี่ยนตัวเองมากๆ เพื่อใครสักคน สักวันก็ต้องเป็นตัวเองอยู่ดี เข็ดกับการแต่งงานนะ ถ้าไม่มีคนรู้จัก หรือมีกระแสสังคมมาต่อว่า แย้โอเคกว่านี้นะ ทำไมต้องว่าแย้เกาะเขา แย้จะหาเงินเองไม่ได้เลยเหรอ..."