ผู้จัดการรายวัน 360 - “ดีเอสไอ” เผยส่งหมายเรียกถึง "ธัมมชโย" มีผลสมบูรณ์ หลังส่ง 3 ช่องทางตามขั้นตอน ตอนนี้รอติดต่อกลับ แย้มขยายผลผู้เกี่ยวข้องรายอื่นด้วย ด้าน “วัดธรรมกาย” ปลดโปสเตอร์แปะทับหมายเรียก หลังเป็นกระแสในเน็ต ก่อนยกโครงไม้ขึงป้ายไวนิลมาบังเป็นพิธี "ทนายธัมมชโย" แจ้งความ ตร. อ้างไม่รู้เห็นเช็คร้อยล้าน ใช้เอาไปใช้อ้างเสียหาย ดำเนินคดีแน่
วานนี้ (28 เม.ย.) พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการส่งหมายเรียกครั้งที่ 3 ถึง พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาฐาน สมคบกันฟอกเงินและรับของโจร ในวันที่ 16 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.ที่ดีเอสไอว่า ดีเอสไอได้ส่งหมายเรียกดังกล่าวไปถึง 3 ช่องทาง ได้แก่ ช่องทางแรก ส่งถึงเจ้าคณะตำบลคลอง 4 ในฐานะผู้ปกครองทางสงฆ์ของ พระธัมมชโย ซึ่งได้รับหมายเรียกแล้ว ช่องทางที่ 2 ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึง พระธัมมชโย โดยตรง และช่องทางที่ 3 ติดประกาศหมายเรียกที่หน้าวัดพระธรรมกาย โดยมีตำรวจจากสถานีตำรวจภูธร (สภ.) คลองหลวงเป็นพยาน และได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว
“การส่งหมายเรียกถือว่ามีผลทางกฎหมายสมบูรณ์แล้ว ไม่ว่าวัดพระธรรมกายจะรับหมายหรือไม่รับหมายก็ตาม หลังจากนี้ดีเอสไอจะรอการติดต่อจาก พระธัมมชโย ให้มารับทราบข้อหา นอกจากนี้ยังเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มกับผู้เกี่ยวข้องรายอื่นๆด้วย” พ.ต.ท.ปกรณ์ ระบุ
** พบใช้โปสเตอร์แปะทับหมายเรียก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอพร้อมด้วยตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้นำหมายเรียก พระธัมมชโย ครั้งที่ 3 ไปติดไว้บริเวณจุดติดต่อสอบถาม ด้านหน้าวัดพระธรรมกาย ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อแจ้งให้ พระธัมมชโย เดินทางไปไปรับทราบข้อกล่าวหาและใช้สิทธิในการต่อสู้คดีตามกระบวนการตามกฎหมาย แต่หลังจากเจ้าหน้าที่เดินทางกลับ ทางวัดฯได้มีการนำป้ายแจ้งข่าว "ร่วมบุญ 1 บาท ปลื้มพันล้านเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้สามเณรรุ่นประวัติศาสตร์ จัดประกวดการเทศน์ของทุกศูนย์อบรม 10,000 ศูนย์ ในงานบุญตักบาตรแสนรูป จ.อุบลราชธานี" มาปิดทับหมายเรียกทันที อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีภาพเผยแพร่ออกไปตามสังคมออนไลน์จนเกิดเวียงวิพากษ์วิจารณ์อบย่างกว้างขวางก็พบว่า ได้มีการแกะป้ายแจ้งข่าวร่วมบุญฯดังกล่าวออกไปแล้ว ทำให้มองเห็นข้อความและเอกสารหมายเรียกของกรมสอบสวนคดีพิเศษทั้ง 2 แผ่น ที่ติดอยู่บริเวณกระจกทาบเข้าห้องจุดติดต่อสอบถาม แต่ก็ได้มีการนำโครงไม้ขึงป้ายไวนิลโครงการธรรมทายาทอุปสมบทหมู่ ระดับอุดมศึกษารุ่นที่ 44 มาตั้งบริเวณจุดดังกล่าวแทน
** ส่งทนายแจ้งความเช็คร้อยล้านปลอม
วันเดียวกัน นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจาก พระธัมมชโย ได้เดินทางไปยัง สภ.คลองหลวง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษโดย พ.ต.ท.ปกรณ์ และคณะ นำเอกสารสำเนาเช็คธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาการเคหะแห่งชาติ เลขที่ 0104455 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2552 สั่งจ่าย พระราชภาวนาวิสุทธิ์ จำนวนเงิน 100 ล้านบาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) มาแสดง ต่อ พระธัมมชโย เพื่อสอบถามว่า ได้เคยเห็นเช็คหรือได้รับเช็คฉบับดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งพระธัมมชโยได้แจ้งแก่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษทราบว่า ไม่เคยเห็นและไม่ได้เป็นผู้เซ็นกำกับหลังเช็ค ทั้งนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้บันทึกการให้ปากคำไว้แล้ว และแจ้งว่ามีการนำเช็คฉบับดังกล่าวไปใช้ในนามพระธัมมชโย เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย
“พระเทพญาณมหามุนี จึงมอบอำนาจให้ผม มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้ หากมีผู้ใดได้นำเช็คฉบับดังกล่าวไปใช้เป็นหลักฐานหรืออ้างอิงทำให้พระเทพญาณมหามุนีได้รับความเสียหาย ผู้แจ้งขอสงวนสิทธิที่จะร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อไป” นายสัมพันธ์ ระบุ.
วานนี้ (28 เม.ย.) พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการส่งหมายเรียกครั้งที่ 3 ถึง พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาฐาน สมคบกันฟอกเงินและรับของโจร ในวันที่ 16 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.ที่ดีเอสไอว่า ดีเอสไอได้ส่งหมายเรียกดังกล่าวไปถึง 3 ช่องทาง ได้แก่ ช่องทางแรก ส่งถึงเจ้าคณะตำบลคลอง 4 ในฐานะผู้ปกครองทางสงฆ์ของ พระธัมมชโย ซึ่งได้รับหมายเรียกแล้ว ช่องทางที่ 2 ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึง พระธัมมชโย โดยตรง และช่องทางที่ 3 ติดประกาศหมายเรียกที่หน้าวัดพระธรรมกาย โดยมีตำรวจจากสถานีตำรวจภูธร (สภ.) คลองหลวงเป็นพยาน และได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว
“การส่งหมายเรียกถือว่ามีผลทางกฎหมายสมบูรณ์แล้ว ไม่ว่าวัดพระธรรมกายจะรับหมายหรือไม่รับหมายก็ตาม หลังจากนี้ดีเอสไอจะรอการติดต่อจาก พระธัมมชโย ให้มารับทราบข้อหา นอกจากนี้ยังเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มกับผู้เกี่ยวข้องรายอื่นๆด้วย” พ.ต.ท.ปกรณ์ ระบุ
** พบใช้โปสเตอร์แปะทับหมายเรียก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอพร้อมด้วยตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้นำหมายเรียก พระธัมมชโย ครั้งที่ 3 ไปติดไว้บริเวณจุดติดต่อสอบถาม ด้านหน้าวัดพระธรรมกาย ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อแจ้งให้ พระธัมมชโย เดินทางไปไปรับทราบข้อกล่าวหาและใช้สิทธิในการต่อสู้คดีตามกระบวนการตามกฎหมาย แต่หลังจากเจ้าหน้าที่เดินทางกลับ ทางวัดฯได้มีการนำป้ายแจ้งข่าว "ร่วมบุญ 1 บาท ปลื้มพันล้านเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้สามเณรรุ่นประวัติศาสตร์ จัดประกวดการเทศน์ของทุกศูนย์อบรม 10,000 ศูนย์ ในงานบุญตักบาตรแสนรูป จ.อุบลราชธานี" มาปิดทับหมายเรียกทันที อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีภาพเผยแพร่ออกไปตามสังคมออนไลน์จนเกิดเวียงวิพากษ์วิจารณ์อบย่างกว้างขวางก็พบว่า ได้มีการแกะป้ายแจ้งข่าวร่วมบุญฯดังกล่าวออกไปแล้ว ทำให้มองเห็นข้อความและเอกสารหมายเรียกของกรมสอบสวนคดีพิเศษทั้ง 2 แผ่น ที่ติดอยู่บริเวณกระจกทาบเข้าห้องจุดติดต่อสอบถาม แต่ก็ได้มีการนำโครงไม้ขึงป้ายไวนิลโครงการธรรมทายาทอุปสมบทหมู่ ระดับอุดมศึกษารุ่นที่ 44 มาตั้งบริเวณจุดดังกล่าวแทน
** ส่งทนายแจ้งความเช็คร้อยล้านปลอม
วันเดียวกัน นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจาก พระธัมมชโย ได้เดินทางไปยัง สภ.คลองหลวง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษโดย พ.ต.ท.ปกรณ์ และคณะ นำเอกสารสำเนาเช็คธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาการเคหะแห่งชาติ เลขที่ 0104455 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2552 สั่งจ่าย พระราชภาวนาวิสุทธิ์ จำนวนเงิน 100 ล้านบาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) มาแสดง ต่อ พระธัมมชโย เพื่อสอบถามว่า ได้เคยเห็นเช็คหรือได้รับเช็คฉบับดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งพระธัมมชโยได้แจ้งแก่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษทราบว่า ไม่เคยเห็นและไม่ได้เป็นผู้เซ็นกำกับหลังเช็ค ทั้งนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้บันทึกการให้ปากคำไว้แล้ว และแจ้งว่ามีการนำเช็คฉบับดังกล่าวไปใช้ในนามพระธัมมชโย เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย
“พระเทพญาณมหามุนี จึงมอบอำนาจให้ผม มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้ หากมีผู้ใดได้นำเช็คฉบับดังกล่าวไปใช้เป็นหลักฐานหรืออ้างอิงทำให้พระเทพญาณมหามุนีได้รับความเสียหาย ผู้แจ้งขอสงวนสิทธิที่จะร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อไป” นายสัมพันธ์ ระบุ.
