นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษา เสนอแนะมาตรการและกลไกในการปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบ ในคณะกมธ.วิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ แถลงว่า ที่ประชุม ได้พิจารณาถึงแนวทาง การต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับบริษัทเอกชน ในคดีการทุจริตโครงการออกแบบรวมก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ หรือ "ค่าโง่คลองด่าน" ในงวดที่ 2 จำนวน 6,000 ล้านบาท ในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งจากการศึกษาของ คณะกมธ. เห็นควรให้มีการชะลอการจ่ายเงินงวดที่ 2 ออกไปก่อน โดยให้นำเงินจำนวน 6,000 ล้านบาท ที่จะต้องจ่ายวางเป็นหลักประกันไว้ที่ศาล เพื่อรอคำวินิจฉัยของศาลอาญา ว่าเอกชนมีส่วนในการทุจริต หรือ เป็นสัญญามิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเพื่อเป็นหลักประกันให้เอกชนมั่นใจว่า รัฐไม่ได้เบี้ยวการชำระเงิน
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นว่า ควรให้กรมควบคุมมลพิษดำเนินการฟ้องคดีแพ่ง และ คดีอาญาแก่กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG ที่ร่วมกันทุจริตกับอธิบดีกรมควบคุมมลพิษและพวก โดยให้ชดใช้เงินค่าก่อสร้างทั้งหมด คือแก่ทางราชการพร้อมดอกเบี้ย 7.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี นับตั้งแต่วันทำสัญญา ขณะเดียวกันยังเสนอให้กรมควบคุมมลพิษ ดำเนินคดีอาญาแก่กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG และ กลุ่มบริษัทจัดหาที่ดิน ที่ร่วมกันปกปิดบิดเบือนเอื้อประโยชน์ระหว่างกันด้วย และให้ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยเรื่องโครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ (คลองด่าน) ว่าเป็นไปตาม มาตรา 13 (ข) ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552 ซึ่งแนวทางดังกล่าว จะเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี รับทราบเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นว่า ควรให้กรมควบคุมมลพิษดำเนินการฟ้องคดีแพ่ง และ คดีอาญาแก่กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG ที่ร่วมกันทุจริตกับอธิบดีกรมควบคุมมลพิษและพวก โดยให้ชดใช้เงินค่าก่อสร้างทั้งหมด คือแก่ทางราชการพร้อมดอกเบี้ย 7.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี นับตั้งแต่วันทำสัญญา ขณะเดียวกันยังเสนอให้กรมควบคุมมลพิษ ดำเนินคดีอาญาแก่กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG และ กลุ่มบริษัทจัดหาที่ดิน ที่ร่วมกันปกปิดบิดเบือนเอื้อประโยชน์ระหว่างกันด้วย และให้ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยเรื่องโครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ (คลองด่าน) ว่าเป็นไปตาม มาตรา 13 (ข) ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552 ซึ่งแนวทางดังกล่าว จะเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี รับทราบเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป