ผู้จัดการรายวัน360-ทนายความ "พระธัมมชโย" ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ "บิ๊กต๊อก" หลังถูกดีเอสไอออกหมายเรียกรับทราบข้อหารับของโจรและฟอกเงิน ยัน 22 เม.ย.นี้จะไปหารือว่าจะเอาอย่างไร ก่อนแย้มมีแนวโน้มขอเลื่อนนัด อ้างมีสิทธิ์เลื่อนได้ 2 ครั้ง ยังมั่นใจว่าบริสุทธิ์ เหตุจะไปรู้ได้ไงว่าเงินเป็นเงินโจร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 เม.ย.) นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายารมว.ยุติธรรม ที่ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม กรณีพระธัมมชโย ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาคดีรับของโจรและฟอกเงิน ก่อนเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม จะเป็นผู้รับเรื่อง
นายสัมพันธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 22 เม.ย.นี้ ตนจะไปคุยกับพระธัมมชโยว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ซึ่งมีแนวโน้มอาจจะขอเลื่อนนัดรับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง เพราะมีสิทธิ์เลื่อนนัดได้ 2 ครั้ง แต่เรื่องนี้สุดท้ายแล้วจะต้องมีคำตอบให้กับสังคม โดยช่วงแรกที่เกิดปัญหานี้ พระธัมมชโย ก็กังวลใจ และสงสัยว่าทำไม ทำความดี แต่คนเข้าใจท่านผิด แต่หลังจากดีเอสไอ ไปสอบปากคำที่วัดพระธรรมกาย เรื่องรับเช็คจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยไม่มีมูลหนี้ ท่านก็ได้ยอมรับความจริงแล้วว่า เป็นคนรับเช็คจริง แต่ท่านไม่รู้ว่าเงินที่ได้รับบริจาคเป็นเงินผิดกฎหมาย ท่านก็หยิบเงินใส่ถุง แล้วก็นำไปเข้าบัญชีวัดพระธรรมกาย และนำเงินทั้งหมดไปก่อสร้างวัด ทุกวันนี้ท่านยังเป็นหนี้ค่าก่อสร้างหลายล้าน จึงต้องรับบริจาคไปเรื่อยๆ เงินก่อสร้างวัดส่วนใหญ่ ก็เป็นเงินบริจาคทั้งนั้น แล้วท่านจะฟอกเงินได้อย่างไร
"มั่นใจว่า ท่านบริสุทธิ์ และสุดท้ายคดีนี้ ก็จะจบ เพราะท่านไม่ผิด จะกล่าวหาว่าท่านรับของโจรได้อย่างไร เมื่อท่านได้รับเงินบริจาคมา ท่านก็นำไปก่อสร้างวัดและเจดีย์ รับของโจรตรงไหน เพราะไม่ได้นำเงินไปแอบซ่อนไว้ที่ไหน เรื่องผ่านมาแล้ว 4 ปี เขามาอ้างว่าไปรับของโจร และฟอกเงิน หลวงพ่อท่านจะรู้ยังไงว่ารับของๆ ใครแล้วคนนั้นจะเป็นโจรหรือไม่ ใครบริจาค ก็รับไว้หมด อย่าลืมว่านายศุภชัย ไม่ได้ทำบุญเพียงวัดเดียว แล้วทำไมที่อื่น ไม่มีความผิด ส่วนที่กล่าวหาว่านายศุภชัย บริจาคให้พระลูกวัดด้วยนั้น ก็ไม่เป็นความจริง"นายสัมพันธ์กล่าว
ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการประสานอย่างเป็นทางการว่า พระธัมมชโย จะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเองหรือไม่ คงต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งพนักงานสอบสวน จะรอความชัดเจนจากทีมทนายความ ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 เม.ย.) นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายารมว.ยุติธรรม ที่ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม กรณีพระธัมมชโย ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาคดีรับของโจรและฟอกเงิน ก่อนเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม จะเป็นผู้รับเรื่อง
นายสัมพันธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 22 เม.ย.นี้ ตนจะไปคุยกับพระธัมมชโยว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ซึ่งมีแนวโน้มอาจจะขอเลื่อนนัดรับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง เพราะมีสิทธิ์เลื่อนนัดได้ 2 ครั้ง แต่เรื่องนี้สุดท้ายแล้วจะต้องมีคำตอบให้กับสังคม โดยช่วงแรกที่เกิดปัญหานี้ พระธัมมชโย ก็กังวลใจ และสงสัยว่าทำไม ทำความดี แต่คนเข้าใจท่านผิด แต่หลังจากดีเอสไอ ไปสอบปากคำที่วัดพระธรรมกาย เรื่องรับเช็คจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยไม่มีมูลหนี้ ท่านก็ได้ยอมรับความจริงแล้วว่า เป็นคนรับเช็คจริง แต่ท่านไม่รู้ว่าเงินที่ได้รับบริจาคเป็นเงินผิดกฎหมาย ท่านก็หยิบเงินใส่ถุง แล้วก็นำไปเข้าบัญชีวัดพระธรรมกาย และนำเงินทั้งหมดไปก่อสร้างวัด ทุกวันนี้ท่านยังเป็นหนี้ค่าก่อสร้างหลายล้าน จึงต้องรับบริจาคไปเรื่อยๆ เงินก่อสร้างวัดส่วนใหญ่ ก็เป็นเงินบริจาคทั้งนั้น แล้วท่านจะฟอกเงินได้อย่างไร
"มั่นใจว่า ท่านบริสุทธิ์ และสุดท้ายคดีนี้ ก็จะจบ เพราะท่านไม่ผิด จะกล่าวหาว่าท่านรับของโจรได้อย่างไร เมื่อท่านได้รับเงินบริจาคมา ท่านก็นำไปก่อสร้างวัดและเจดีย์ รับของโจรตรงไหน เพราะไม่ได้นำเงินไปแอบซ่อนไว้ที่ไหน เรื่องผ่านมาแล้ว 4 ปี เขามาอ้างว่าไปรับของโจร และฟอกเงิน หลวงพ่อท่านจะรู้ยังไงว่ารับของๆ ใครแล้วคนนั้นจะเป็นโจรหรือไม่ ใครบริจาค ก็รับไว้หมด อย่าลืมว่านายศุภชัย ไม่ได้ทำบุญเพียงวัดเดียว แล้วทำไมที่อื่น ไม่มีความผิด ส่วนที่กล่าวหาว่านายศุภชัย บริจาคให้พระลูกวัดด้วยนั้น ก็ไม่เป็นความจริง"นายสัมพันธ์กล่าว
ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการประสานอย่างเป็นทางการว่า พระธัมมชโย จะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเองหรือไม่ คงต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งพนักงานสอบสวน จะรอความชัดเจนจากทีมทนายความ ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ อีกครั้ง