MGR Online - “ดีเอสไอ” แถลงยืนยันออกหมายเรียก “ธัมมชโย” ฐานะผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน-รับของโจร กรณีรับเช็คจากอดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นโดยไม่มีมูลหนี้ ยันมีหลักฐานเพียงพอแจ้งข้อหา
วันนี้ (31 มี.ค.) ทีมโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้แถลงถึงการออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในฐานะผู้ต้องหาฐานความผิดสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร คดีรับเงินที่ได้จากการยักยอกและฉ้อโกงทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ว่าดีเอสไอขอชี้แจงต่อสาธารณชนในประเด็นดังกล่าวว่า ตามที่ดีเอสไอมีการสอบสวนดำเนินคดีต่อนายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวกในความผิดเรื่องยักยอกทรัพย์ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท ต่อมาพนักงานอัยการมีคำแนะนำให้ดีเอสไอพิจารณาดำเนินการกับกลุ่มบุคคลที่ได้รับเงินที่ถูกยักยอกไปจากสหกรณ์ฯ ซึ่งกรณีนี้ดีเอสไอได้แถลงข่าวให้สาธารณชนรับทราบไปแล้ว
ต่อมามีผู้เสียหายจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษให้ดำเนินคดีกับผู้ที่รับเช็คสหกรณ์ฯ โดยไม่มีมูลหนี้และได้รับเป็นคดีพิเศษ ที่ 27/2559 โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานคดีมาระยะหนึ่ง จนเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2559 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ร่วมประชุมกับพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาพยานหลักฐาน
ที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าทางคดีมีพยานหลักฐานเพียงพอจะแจ้งข้อหาต่อนายศุภชัย ศรีศุภอักษร, พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และ น.ส.ศศิธร โชคประสิทธิ์ ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร จึงได้มีมติร่วมกันให้ออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุนี และ น.ส.ศศิธร ในฐานะผู้ต้องหา พร้อมกำหนดวันให้มารับทราบข้อกล่าวหาและให้ถ้อยคำที่สำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในวันที่ 8 เม.ย. 2559 เวลา 09.00 น.
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวถึงการออกหมายเรียกพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในฐานะผู้ต้องหาเพื่อรับทราบข้อหา สมคบร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร ว่า จากการตรวจสอบคดีดังกล่าวมีหลักฐานและพยานชัดเจนเพียงพอแล้ว เหลือเพียงการเรียกพระธัมมชโย มารับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น แต่ในทางคดีผู้ต้องหาจะปฏิเสธอย่างไรก็ได้
สำหรับการออกหมายเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำนั้นหากไม่มาตามกำหนดหรือมีเหตุอ้างว่าเจ็บป่วยไม่สามารถเดินทางมารับทราบข้อกล่าวได้ ดีเอสไอจะประชุมพิจารณาตามขั้นตอนกฎหมายเพราะโดยทั่วไปสามารถเลื่อนได้ 1 ครั้ง
ส่วนที่ทางวัดพระธรรมกายระบุว่า ที่ผ่านมากลุ่มลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้รวมตัวระดมเงินกองทุนเยียวยาและคืนเงินให้กับสมาชิกสหกรณ์แล้ว พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า จะต้องดูว่าพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกายรับเงินจากการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ แต่ท้ายสุดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าเป็นการสมคบคิดกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร
นอกจากนี้ดีเอสไอจะดำเนินคดีกับทุกคนทุกกลุ่ม รวมถึงวัดพระธรรมกายและเครือข่ายพระลูกวัดพระธรรมกาย เนื่องจากมีความชัดเจนแล้วว่าทั้ง 7 กลุ่มเป็นผู้รับเช็ค จากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานบริหารสหกรณ์ฯ โดยไม่มีมูลหนี้ ส่วนน.ส.ศศิธร โชคประสิทธิ์ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ดีเอสไอออกหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาในวันและเวลาเดียวกับพระธัมมชโย แต่ขณะนี้ น.ส.ศศิธร ยังไม่ประสานมาว่าจะเดินทางมาหรือไม่