นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีเสียงคัดค้านการนำ รธน.4 ฉบับ มาผสมปรับใช้ใหม่ หากร่างรธน.ฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ไม่ผ่านประชามติ ว่า สื่อมวลชนสรุปเอาเอง ตนแค่บอกว่า สามารถทำได้ เช่น หยิบฉบับใดฉบับหนึ่งขึ้นมาเป็นต้นแบบ หรืออาจจะเอา ร่างรธน. ปี 58 , 59 หรือรธน.ปี 40 , 50 มาปรับใช้ก็ได้ ซึ่งที่จริงรธน.ปี 40 , 50 และ ร่างรธน. ปี 58 ,59 มันก็หลอกกัน เพราะเวลาเรามอง เรามองสองร้อยมาตรา ต่างกับนักการเมืองมองแค่ 2-3 ประเด็น คือ เรื่องครม. เรื่องนายกฯ คนนอก และอำนาจส.ว. แต่เวลาตนพูด ตนพูดทั้งฉบับ ซึ่งรธน.ไทยที่มีมา19 ฉบับ ได้ลอก ดัดแปลง ขยายความกันมา ไม่ได้ผิดไปจากกันมากเท่าไร ก็คล้ายๆ กัน
เมื่อถามว่า ถ้ากรณีประชามติไม่ผ่าน มีการเสนอให้นำรธน.ปี 50 มาใช้ แล้วเอาบทเฉพาะกาล ของร่างรธน.ปี 59 มาใส่เลย นายวิษณุ กล่าวว่า เท่ากับใช้รธน. ปี 50 เป็นหลัก ถ้าอย่างนั้นก็จะตอบไม่ได้ว่า ยึดอำนาจทำไม ในเมื่อกลับไปใช้กฎเกณฑ์กติกาเดิม และถ้าหากเอา รธน.ปี 40 มา แล้วบทเฉพาะกาลใส่ลงไป ก็จะเกิดคำถามว่าพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. ยึดอำนาจทำไม
ดังนั้น ควรเอาส่วนดีของแต่ละฉบับมา อย่าไปคิดว่าทำไม่ได้ พอถึงเวลาค่อยว่ากัน และแน่นอนว่า การร่าง ยังต้องอยู่ในภายใต้ มาตรา 35 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 และต้องร่างให้เสร็จตามกำหนด ที่กำหนดโรดแมป ปักธงเลือกตั้งปี 60 จะไม่เคลื่อนธงไปไหน
"เรื่องทางออก หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ถ้าจะให้ชัด ต้องให้ คสช. เป็นคนพูดเอง ผมพูดเองไม่ได้ ซึ่งทางเลือกมันก็มีอยู่แค่นี้ ส่วนจะเป็นทางการเลือกไหนนั้น ขอให้ใจเย็น อีก 3 เดือนก็จะรู้ และตอนนี้ ก็ยังไม่ได้เตรียมทางออกไว้ ว่าจะเป็นแนวทางไหน ตอนนี้ยังคิดแต่เส้นทางที่จะเดินทางไปสู่การทำประชามติเท่านั้น" นายวิษณุ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุด มีกลุ่มเครือข่ายนักวิชาการ นักการเมือง ออกมาเคลื่อนไหว โหวตโน ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ นายวิษณุ กล่าวว่า เท่าที่อ่านดู เป็นการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการ และยังอยู่ในร่องในรอย ที่ใช้ได้ ไม่ได้เข้าข่ายความผิด
เมื่อถามว่า จะถือว่าเป็นการชี้นำ หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ความผิดฐานชี้นำ มันไม่มีว่าจะชี้นำได้ หรือไม่ได้ เพียงแต่ถ้าชี้นำโดยวิธีสัญญา บิดเบือน หลอกล่อ ก็จะมีความผิดตาม มาตรา 62 ของ พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ อย่างที่นักวิชาการชี้ มีจุดอ่อน 3-4 ข้อ ถือเป็นการแสดงออกที่มีเหตุมีผล ไม่มีการเมืองซ่อนเร้น ทั้งนี้ มันอยู่ที่บุคคล คำพูด และเวลา
เมื่อถามว่า ประเมินสถานการณ์จนถึงขณะนี้ แนวโน้มทำประชามติ จะไม่ผ่านหรือไม่ เพราะมีหลายกลุ่มออกมาคัดค้าน นายวิษณุ กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้แถลงแล้วว่า ผู้มีสิทธิมี 50 ล้านคน ดังนั้น เขาจะเป็นผู้ตัดสิน ตนจะไม่พูดชี้นำใดๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากประชามติไม่ผ่าน คสช.ควรจะปลดประเด็นที่ฝ่ายต่างๆ ไม่เห็นด้วย หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ต้องรอให้ผลออกมา แล้วค่อยมาแปลกัน เพราะจะมีความหมายอะไรหลายอย่างเหมือนกัน และตนได้พูดไปหลายครั้งแล้วว่า ทั้งคำถามหลัก และคำถามพ่วง จะส่งสัญญาณหลายอย่างว่า จะผ่านหรือไม่ และจะเป็นตัวจะบอกหน้าตาของรัฐธรรมนูญต่อไป เมื่อถามว่าหากประชามติไม่ผ่าน เป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้ กรธ.ชุดเดิมร่าง รธน.ใหม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นไปได้ทุกทาง และเป็นไปได้ที่จะตั้งทั้ง นายมีชัย นายบวรศักดิ์ ร่างรัฐธรรมนูญ กรณีไม่ผ่านประชามติ รวมถึงตน ก็เป็นไปได้
เมื่อถามว่า ถ้ากรณีประชามติไม่ผ่าน มีการเสนอให้นำรธน.ปี 50 มาใช้ แล้วเอาบทเฉพาะกาล ของร่างรธน.ปี 59 มาใส่เลย นายวิษณุ กล่าวว่า เท่ากับใช้รธน. ปี 50 เป็นหลัก ถ้าอย่างนั้นก็จะตอบไม่ได้ว่า ยึดอำนาจทำไม ในเมื่อกลับไปใช้กฎเกณฑ์กติกาเดิม และถ้าหากเอา รธน.ปี 40 มา แล้วบทเฉพาะกาลใส่ลงไป ก็จะเกิดคำถามว่าพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. ยึดอำนาจทำไม
ดังนั้น ควรเอาส่วนดีของแต่ละฉบับมา อย่าไปคิดว่าทำไม่ได้ พอถึงเวลาค่อยว่ากัน และแน่นอนว่า การร่าง ยังต้องอยู่ในภายใต้ มาตรา 35 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 และต้องร่างให้เสร็จตามกำหนด ที่กำหนดโรดแมป ปักธงเลือกตั้งปี 60 จะไม่เคลื่อนธงไปไหน
"เรื่องทางออก หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ถ้าจะให้ชัด ต้องให้ คสช. เป็นคนพูดเอง ผมพูดเองไม่ได้ ซึ่งทางเลือกมันก็มีอยู่แค่นี้ ส่วนจะเป็นทางการเลือกไหนนั้น ขอให้ใจเย็น อีก 3 เดือนก็จะรู้ และตอนนี้ ก็ยังไม่ได้เตรียมทางออกไว้ ว่าจะเป็นแนวทางไหน ตอนนี้ยังคิดแต่เส้นทางที่จะเดินทางไปสู่การทำประชามติเท่านั้น" นายวิษณุ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุด มีกลุ่มเครือข่ายนักวิชาการ นักการเมือง ออกมาเคลื่อนไหว โหวตโน ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ นายวิษณุ กล่าวว่า เท่าที่อ่านดู เป็นการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการ และยังอยู่ในร่องในรอย ที่ใช้ได้ ไม่ได้เข้าข่ายความผิด
เมื่อถามว่า จะถือว่าเป็นการชี้นำ หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ความผิดฐานชี้นำ มันไม่มีว่าจะชี้นำได้ หรือไม่ได้ เพียงแต่ถ้าชี้นำโดยวิธีสัญญา บิดเบือน หลอกล่อ ก็จะมีความผิดตาม มาตรา 62 ของ พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ อย่างที่นักวิชาการชี้ มีจุดอ่อน 3-4 ข้อ ถือเป็นการแสดงออกที่มีเหตุมีผล ไม่มีการเมืองซ่อนเร้น ทั้งนี้ มันอยู่ที่บุคคล คำพูด และเวลา
เมื่อถามว่า ประเมินสถานการณ์จนถึงขณะนี้ แนวโน้มทำประชามติ จะไม่ผ่านหรือไม่ เพราะมีหลายกลุ่มออกมาคัดค้าน นายวิษณุ กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้แถลงแล้วว่า ผู้มีสิทธิมี 50 ล้านคน ดังนั้น เขาจะเป็นผู้ตัดสิน ตนจะไม่พูดชี้นำใดๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากประชามติไม่ผ่าน คสช.ควรจะปลดประเด็นที่ฝ่ายต่างๆ ไม่เห็นด้วย หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ต้องรอให้ผลออกมา แล้วค่อยมาแปลกัน เพราะจะมีความหมายอะไรหลายอย่างเหมือนกัน และตนได้พูดไปหลายครั้งแล้วว่า ทั้งคำถามหลัก และคำถามพ่วง จะส่งสัญญาณหลายอย่างว่า จะผ่านหรือไม่ และจะเป็นตัวจะบอกหน้าตาของรัฐธรรมนูญต่อไป เมื่อถามว่าหากประชามติไม่ผ่าน เป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้ กรธ.ชุดเดิมร่าง รธน.ใหม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นไปได้ทุกทาง และเป็นไปได้ที่จะตั้งทั้ง นายมีชัย นายบวรศักดิ์ ร่างรัฐธรรมนูญ กรณีไม่ผ่านประชามติ รวมถึงตน ก็เป็นไปได้
