xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการแถลงไม่รับรธน. ชำแหละให้อำนาจบางกลุ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กลุ่มนักวิชาการต้าน รธน. ยก 5 เหตุผล ไม่รับร่างฯ เผยเตรียมจับมือ "นิติราษฎร์" แจกแจงข้อบกพร่องรายมาตรา ด้านโฆษกรัฐบาลย้ำ ไม่เคยเห็นใครเป็นศัตรู ชี้ทุกคนมีหน้าที่ เป็นโฆษกฯ ก็ต้องชี้แจงแทนรัฐบาล เผยพรรคใดจะจับมือกับพรรคใด คงไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย อยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจ

กลุ่มนักวิชาการในนาม "เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง" ซึ่งเป็นอาจารย์หลายสถาบัน ที่เคยเคลื่อนไหวในนาม" เครือข่ายคณาจารย์ผู้ห่วงใยศิษย์ที่ถูกคุมขัง" ที่ออกเรียกร้องปล่อยตัวนักศึกษากลุ่มเพื่อน "จ่านิว" ที่ถูก คสช.ควบคุมตัว สวนเสื้อยืด"โหวตโน ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ กับอนาคตที่ไม่ได้เลือก" แถลงข่าว คัดค้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย

กลุ่มนักวิชาการดังกล่าว นำโดย นายอนุสรณ์ อุนโน คณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ นายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อ.คณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรฯ นายเดชชรัฐ สุขกำเนิด อ.คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ นายบารมี ชัยรัตน์ ผู้ประสานงานสมัชชาคนจน และ นางพวงทอง ภวกพันธุ์ อ.คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ทางกลุ่มมองว่าปัญหาสิทธิ เสรีภาพ ของรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ นี้ ไม่ได้กระทบเพียงนักศึกษา แต่กระทบในวงกว้าง จึงเปลี่ยนชื่อเครือข่าย เพื่อให้การเคลื่อนไหวกว้างขวางขึ้น
"รธน.ฉบับนี้ มีที่มา กระบวนการที่ลิดรอนสิทธิ เสรีภาพ ประชาชนอย่างมาก จนมีกลุ่มต่างๆ แสดงความเห็นว่า ไม่รับร่างฯ ทางกลุ่มเองเห็นว่า หากร่าง รธน. ผ่านประชามติ จะกระทบสิทธิ เสรีภาพ จึงเห็นควรออกแถลงการณ์ร่วมกัน" นายอนุสรณ์ กล่าว

เครือข่ายนักวิชาการดังกล่าว ได้ผลัดกันอ่านคำแถลงการณ์ ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะให้ทำประชามติด้วยเหตุผล 5 ข้อดังนี้

1. ร่าง รธน.นี้ เป็นเพียงกฎหมายเพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่มบางฝ่ายเท่านั้น 2. มีความจงใจสร้างความอ่อนแอแก่รัฐสภา อาทิ นายกฯอาจไม่ได้มาจากคนที่ผ่านการเลือกตั้งได้ 3. ทำลายหลักนิติธรรมเรื่องหลักการแบ่งแยกอำนาจ มอบอำนาจทางการเมืองการปกครอง แก่องค์กรตุลาการ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ 4. เอื้อให้รัฐละเมิดอำนาจ และสิทธิเสรีภาพของประชาชน ด้วยการสร้างเงื่อนไขในนามของความมั่นคง โดยการตีความของกลุ่มคนที่อยู่นอกองค์กรการบริหารของรัฐ และ 5. มีระดับความยากอย่างยิ่งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
"หากในที่สุดร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่เป็นที่ยอมรับตามเสียงส่วนใหญ่ คสช.พึงคืนอำนาจด้วยการจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว และให้รัฐสภา ภายหลังการเลือกตั้งดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญ และการปฏิรูปที่คำนึงถึงหลักการเสรีประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ และการพัฒนาสังคม การเมืองเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนสืบไป" แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า หลังจากนี้ทางกลุ่มจะดำเนินกิจกรรมภายใต้กรอบที่ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ อนุญาตให้ทำ โดยไม่มีการแสดงออกว่ารับ หรือไม่รับ ซึ่งเราเองก็เคารพกฎหมาย แต่ก็จำเป็นต้องทำอะไรบางอย่าง เช่น การจัดงานเสวนาทางวิชาการ เป็นต้น

"ทางนิติราษฎร์ ก็ทำงานด้านกฎหมายอย่างละเอียด จัดเป็นมาตราๆ มาวิเคราะห์อย่างละเอียดให้เห็นปัญหาข้อจำกัด แล้วให้เป็นดุลพินิจของสังคม ที่จะพิจารณา นอกจากการอภิปรายแล้ว ก็อาจจะจัดกิจกรรมโรดแมปที่เป็นทางเลือกอื่นของสังคมไทยอีกด้วย" นายอนุสรณ์ กล่าว

คณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ กล่าวชี้แจงกรณีที่กลุ่มใส่เสื้อยืดเชิงสัญลักษณ์ มาแถลงข่าวว่า ทางกลุ่มได้ศึกษาข้อกฎหมายมาอย่างดี จึงใส่ ก่อนที่ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ จะประกาศลงราชกิจจาฯ เพราะหากประกาศเมื่อไร อาจจะโดนข้อหา ที่มีโทษจำคุก 10 ปี

ด้านนางพวงทอง กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อบัญญัติในกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่จะจำกัดความคิดเห็น เพราะคสช.เองก็มีเครื่องมือแสดงความคิดเห็นมากมาย ประชาชนก็ควรมีสิทธิ์แสดงความเห็นได้ ติดป้ายหน้าบ้านได้ เป็นปรกติที่เป็นวัฒนธรรมการเมืองไทย คสช.กลัวอะไร กลัวชาวบ้านไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ หรืออย่างไร
ต่อข้อถามว่า มองว่าบรรยากาศหลังกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติบังคับใช้แล้ว จะกระทบความชอบธรรมในการทำประชามติหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า เรากังวลเรื่องการให้ข่าวสารด้านเดียวกับประชาชน และเกรงจะมีการเลือกบังคับใช้กฎหมาย คนที่คัดค้านจะถูกเพ่งเล็ง ส่วนคนที่สนับสนุนจะได้รับความชื่นชม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อยากจะเห็น

"ห้ามพูดแต่คิดได้ เป็นกฎหมายที่ตลก แถมยังมีโทษจำคุกหนักถึง 10 ปี" นายพิชิต กล่าว

"การลงประชามติแบบเก็บกด มีผลเสียต่อสังคมไทย ไม่ว่าร่างจะผ่านหรือไม่ ก็จะเกิดปัญหา" นายเดชชรัฐ กล่าวเสริม

ต่อข้อถามว่า ถ้าไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าจะเจอฉบับที่มีเนื้อหาที่หนักกว่าเดิมนั้น นายบารมี กล่าวว่า เราเห็นว่าการลุกขึ้นมาสู้ ดีกว่าอยู่เฉยๆ สู้แล้วอาจจะเจอสิ่งที่ดีกว่า ดีกว่าไม่มีทางเลือก

ต่อข้อถามว่า ทางกลุ่มเคยนำเสนอความเห็นระหว่างที่ กรธ. เปิดรับฟังความคิดเห็นหรือไม่ นายเดชชรัฐ กล่าวว่า เคยเสนอไปหลายรูปแบบ บางอย่าง กรธ. ก็ปรับแก้ เช่น เรื่องของสิทธิชุมชน แต่บางอย่างก็รับฟังแต่แม่น้ำ 4 สาย ที่แทรกมาทีหลัง และเป็นสาระสำคัญที่เติมเข้ามาโดยไม่ฟังเสียงทุกภาคส่วน จึงไม่ถือเป็นสัญญาประชาคมอย่างแท้จริง

"เป้าหมายเราไม่ได้อยู่ที่คสช.จะอยู่สั้น หรืออยู่ยาว แต่อยู่ที่รัฐธรรมนูญ ว่าที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายหรือไม่" นายอนุสรณ์ กล่าว

นางพวงทอง กล่าวว่า ช่วงเดือนที่ผ่านมา เห็นปฏิกิริยากลุ่มต่างๆ ที่เห็นพ้องว่า ร่าง รธน.ไม่เคารพสิทธิ เสรีภาพ ประชาชน และคำว่า ถ้าไม่ผ่านคสช.จะอยู่ยาว นั้นเป็นคำขู่ และเป็นปัญหาของ คสช.เอง ที่จะถูกตั้งคำถามเรื่องความชอบธรรมของตนเอง ขณะที่มองไม่เห็นว่า ถ้าร่างนี้ผ่าน จะนำสังคมไปสู่ความปรองดองได้อย่างไร

" ถ้าดูจากเนื้อหาแล้ว ถ้าผ่านการลงประชามติ จะกลับไปสู่วังวนพรรคเล็ก พรรคน้อย เบี้ยหัวแตก เป็นวังวนปัญหาเดิม" นายพิชิต กล่าว

**"ไก่อู" ย้ำไม่เคยเห็นใครเป็นศัตรู

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หน้าที่ของโฆษกรัฐบาล นอกจากการชี้แจงผลงานนโยบายของรัฐบาลแล้ว ยังมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เรื่องราวใดที่อาจจะทำให้เกิดความสับสน ความวุ่นวาย ก็จำเป็นต้องชี้แจงทำความเข้าใจและหากมีฝ่ายใดโจมตีรัฐบาลโดยไม่เป็นธรรม ในฐานะโฆษกฯ ก็จำเป็นต้องขอใช้สิทธิ์อธิบาย ถือเป็นการทำงานตามหน้าที่ ไม่เคยเห็นใครเป็นศัตรู เพราะรู้ดีว่า ทุกคนก็ต่างต้องทำหน้าที่ตามแนวทางและจุดยืน จะกระทบกระทั่งกันบ้างไม่เคยนำมาเป็นอารมณ์ เพราะมีภารกิจต้องทำเพื่อประเทศชาติอีกมาก ให้คุ้มค่าเงินเดือนข้าราชการที่รับทุกเดือน

"สำหรับกรณีที่ ระดับแกนนำพรรคการเมืองหนึ่ง ออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองตั้งคำถามว่า หากพรรคการเมืองใหญ่สองพรรคจะจับมือกัน รัฐบาลจะรับได้หรือไม่ คงตอบได้แต่เพียงว่า แม้จะมีความคิด หรือความรู้สึกไปทางใดทางหนึ่ง แต่รัฐบาลคงไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายการตัดสินใจ หรือ เจตจำนงของผู้หนึ่งผู้ใด คงต้องมอบให้พี่น้องประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่ารู้สึกอย่างไร" พล.ต.สรรเสริญกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น