เผย 6 วันเทศกาลสงกรานต์ เกิดอุบัติเหตุ 3,104 ครั้ง ตาย 397 ราย เจ็บ 3,271 คน โคราชครองแชมป์ 18 ศพ สาเหตุหลักเมาแล้วขับ นายกฯ ห่วงคลื่นประชาชนเดินทางกลับกรุง เตือนผู้ขับขี่เตรียมความพร้อมร่างกายและยานพาหนะ กำชับเจ้าหน้าที่อำนวยการจราจรเต็มที่ ขอบคุณเสียสละวันหยุดเพื่อความสุขของคนไทย
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประธานแถลงสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2559 โดยเปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน หรือ ศปถ. โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เมษายน 2559 ซึ่งถือเป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์ "สงกรานต์ปลอดภัย ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร" เกิดอุบัติเหตุ 380 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 59 ราย ผู้บาดเจ็บ 380 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 31.05 เมาสุรา ร้อยละ 28.16 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 80.88รองลงมา รถปิกอัพ ร้อยละ 10.08 ทั้งนี้ เมื่อรวม 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 - 16 เมษายน เกิดอุบัติเหตุ รวม 3,104 ครั้ง ผู้เสียชีวิต รวม 397 รายผู้บาดเจ็บ รวม 3,271 คน
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ เชียงใหม่ 22 ครั้ง ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ ฉะเชิงเทรานครราชสีมา พะเยาจังหวัดละ 4 ราย และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด คือ เชียงใหม่ 22 คน ขณะที่ยอดอุบัติเหตุรวม 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 - 16 เมษายน 2559 พบว่า จังหวัดที่มีอุบัติเหตุสะสมสูงสุด คือ เชียงใหม่ 158 ครั้ง ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด คือ นครราชสีมา 18 ราย และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด คือ เชียงใหม่ 166 คน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 69.21 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 36.32 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 34.47 ซึ่งผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 49.54
นายอาคมกล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนถึงเรื่องความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์โดยบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งยอมรับว่า การเดินทางโดยใช้รถส่วนตัวเป็นสาเหตุทำให้ตัวเลขอุบัติเหตุสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และสาเหตุหลักเกิดจากการเมาแล้วขับ การใช้รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย รวมถึงการใช้ความเร็วเกินกำหนด รัฐบาลจึงใช้มาตรการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นแนวทางในการปฏิบัติ คือ "ยึดใบขับขี่ และยึดรถ" ขณะเดียวกัน ทางกระทรวงคมนาคมได้ติดตั้งจีพีเอส ในรถของ บริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) ทุกคัน โดยสามารถจับความเร็วของรถสาธารณะได้ ส่วนในอนาคตจะมีการติดตั้งที่รถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อตรวจสอบและควบคุมความเร็วทั้งนี้ สถิติที่สูงขึ้นนั้น จะต้องกลับมาดูเรื่องของพฤติกรรมผู้ขับรถ ซึ่งวันแรกจะเห็นว่า อุบัติเหตุเกิดจากผู้ขับรถปิคอัพและรถยนต์ส่วนบุคคล
บรรยากาศการเดินทางกลับมาทำงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ในช่วงเช้าวานนี้ เริ่มมีประชาชนใช้บริการรถไฟในการเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครจำนวนมาก แต่ยังไม่หนาแน่น พื้นที่รองรับผู้โดยสารบริเวณโถงสถานี ยังสามารถเดินเข้าออกได้สะดวก โดยผู้ที่เดินทางส่วนใหญ่จะเดินมาเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะ พร้อมกับกระเป๋าสัมภาระจำนวนมาก ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยนั้นเป็นไปอย่างเข้มงวด มีตำรวจรถไฟ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คอยยืนประจำตามจุดต่าง ๆ รวมถึงบางส่วนเดินตรวจตราความปลอดภัยและให้บริการประชาชนที่มาใช้บริการที่สถานีรถไฟทั้งขาเข้าและขาออกรอบพื้นที่ นอกจากนี้ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ได้มาตั้งจุดบริการประชาชนเพื่อช่วยดูแลความเรียบร้อยของประชาชน ในช่วงเดินทางกลับมาทำงานของประชาชน 7 วันอันตราย อีกด้วย
ส่วนบรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ - หมอชิต ยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีประชาชนทยอยเดินทางกลับจากภูมิลำเนา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นจำนวนมาก เพื่อเข้าทำงานที่กรุงเทพมหานคร
ผู้สื่อข่าวรายงานที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ จตุจักรหรือ หมอชิต 2 โดยมีประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ามาในช่วงบ่ายค่อนข้างบางตากว่าช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนก็ได้หอบหิ้วสัมภาระที่นำมาจากต่างจังหวัดจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม บขส. คาดว่าผู้โดยสารจะยังคงทยอยเดินทางกลับอีกเป็นจำนวนมาก โดยในพรุ่งนี้จะทยอยเข้ามาอีก 130,000 คน จึงทำให้เชื่อว่าจะยังมีผู้โดยสารเดินทางกลับมากรุงเทพมหานคร ถึงเช้าวันที่ 19 เมษายน นี้ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งที่หมอชิต 2 มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อยตลอดทั้งวันเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายขณะเดินทางได้ ขณะนี้ยังไม่พบเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสาร หรือการร้องเรียนแต่อย่างใด
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงเรื่องการจราจรโดยเฉพาะเส้นทางเข้ากรุงเทพฯ ที่จะมีพี่น้องประชาชนเดินทางจำนวนมาก หลังสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ โดยท่านนายกฯ แนะนำว่าในส่วนของผู้ขับขี่ยวดยานทุกประเภท ต้องตรวจสอบความพร้อมของร่างกายตนเอง และยานพาหนะ และหากโดยสารรถสาธารณะก็ควรช่วยกันสอดส่องพฤติกรรมของคนขับว่ามีความพร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นหรือไม่
ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดกิจกรรม “รับคนกลับบ้าน” ในวันที่ 16- 18 เม.ย.นี้ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนพร้อมกันเป็นจำนวนมาก โดยเพิ่มจุดจอดรถบขส. และขอความร่วมมือเครือข่ายรถแท็กซี่ และขสมก. มาให้บริการประชาชนในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งหวังว่าจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการระบายรถ และการเดินทางกลับของพี่น้องประชาชน ซึ่งคาดว่าจะหนาแน่นมากที่สุด ในช่วงวันที่ 17 เม.ย.
"นายกฯ ยังได้ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่เสียสละวันหยุด เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่อำนวยความปลอดภัยในการจราจรเพื่อความสุขของประชาชนคนไทยในส่วนรวม" พล.ต.สรรเสริญกล่าว.
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประธานแถลงสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2559 โดยเปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน หรือ ศปถ. โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เมษายน 2559 ซึ่งถือเป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์ "สงกรานต์ปลอดภัย ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร" เกิดอุบัติเหตุ 380 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 59 ราย ผู้บาดเจ็บ 380 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 31.05 เมาสุรา ร้อยละ 28.16 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 80.88รองลงมา รถปิกอัพ ร้อยละ 10.08 ทั้งนี้ เมื่อรวม 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 - 16 เมษายน เกิดอุบัติเหตุ รวม 3,104 ครั้ง ผู้เสียชีวิต รวม 397 รายผู้บาดเจ็บ รวม 3,271 คน
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ เชียงใหม่ 22 ครั้ง ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ ฉะเชิงเทรานครราชสีมา พะเยาจังหวัดละ 4 ราย และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด คือ เชียงใหม่ 22 คน ขณะที่ยอดอุบัติเหตุรวม 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 - 16 เมษายน 2559 พบว่า จังหวัดที่มีอุบัติเหตุสะสมสูงสุด คือ เชียงใหม่ 158 ครั้ง ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด คือ นครราชสีมา 18 ราย และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด คือ เชียงใหม่ 166 คน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 69.21 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 36.32 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 34.47 ซึ่งผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 49.54
นายอาคมกล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนถึงเรื่องความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์โดยบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งยอมรับว่า การเดินทางโดยใช้รถส่วนตัวเป็นสาเหตุทำให้ตัวเลขอุบัติเหตุสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และสาเหตุหลักเกิดจากการเมาแล้วขับ การใช้รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย รวมถึงการใช้ความเร็วเกินกำหนด รัฐบาลจึงใช้มาตรการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นแนวทางในการปฏิบัติ คือ "ยึดใบขับขี่ และยึดรถ" ขณะเดียวกัน ทางกระทรวงคมนาคมได้ติดตั้งจีพีเอส ในรถของ บริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) ทุกคัน โดยสามารถจับความเร็วของรถสาธารณะได้ ส่วนในอนาคตจะมีการติดตั้งที่รถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อตรวจสอบและควบคุมความเร็วทั้งนี้ สถิติที่สูงขึ้นนั้น จะต้องกลับมาดูเรื่องของพฤติกรรมผู้ขับรถ ซึ่งวันแรกจะเห็นว่า อุบัติเหตุเกิดจากผู้ขับรถปิคอัพและรถยนต์ส่วนบุคคล
บรรยากาศการเดินทางกลับมาทำงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ในช่วงเช้าวานนี้ เริ่มมีประชาชนใช้บริการรถไฟในการเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครจำนวนมาก แต่ยังไม่หนาแน่น พื้นที่รองรับผู้โดยสารบริเวณโถงสถานี ยังสามารถเดินเข้าออกได้สะดวก โดยผู้ที่เดินทางส่วนใหญ่จะเดินมาเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะ พร้อมกับกระเป๋าสัมภาระจำนวนมาก ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยนั้นเป็นไปอย่างเข้มงวด มีตำรวจรถไฟ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คอยยืนประจำตามจุดต่าง ๆ รวมถึงบางส่วนเดินตรวจตราความปลอดภัยและให้บริการประชาชนที่มาใช้บริการที่สถานีรถไฟทั้งขาเข้าและขาออกรอบพื้นที่ นอกจากนี้ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ได้มาตั้งจุดบริการประชาชนเพื่อช่วยดูแลความเรียบร้อยของประชาชน ในช่วงเดินทางกลับมาทำงานของประชาชน 7 วันอันตราย อีกด้วย
ส่วนบรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ - หมอชิต ยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีประชาชนทยอยเดินทางกลับจากภูมิลำเนา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นจำนวนมาก เพื่อเข้าทำงานที่กรุงเทพมหานคร
ผู้สื่อข่าวรายงานที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ จตุจักรหรือ หมอชิต 2 โดยมีประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ามาในช่วงบ่ายค่อนข้างบางตากว่าช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนก็ได้หอบหิ้วสัมภาระที่นำมาจากต่างจังหวัดจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม บขส. คาดว่าผู้โดยสารจะยังคงทยอยเดินทางกลับอีกเป็นจำนวนมาก โดยในพรุ่งนี้จะทยอยเข้ามาอีก 130,000 คน จึงทำให้เชื่อว่าจะยังมีผู้โดยสารเดินทางกลับมากรุงเทพมหานคร ถึงเช้าวันที่ 19 เมษายน นี้ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งที่หมอชิต 2 มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อยตลอดทั้งวันเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายขณะเดินทางได้ ขณะนี้ยังไม่พบเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสาร หรือการร้องเรียนแต่อย่างใด
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงเรื่องการจราจรโดยเฉพาะเส้นทางเข้ากรุงเทพฯ ที่จะมีพี่น้องประชาชนเดินทางจำนวนมาก หลังสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ โดยท่านนายกฯ แนะนำว่าในส่วนของผู้ขับขี่ยวดยานทุกประเภท ต้องตรวจสอบความพร้อมของร่างกายตนเอง และยานพาหนะ และหากโดยสารรถสาธารณะก็ควรช่วยกันสอดส่องพฤติกรรมของคนขับว่ามีความพร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นหรือไม่
ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดกิจกรรม “รับคนกลับบ้าน” ในวันที่ 16- 18 เม.ย.นี้ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนพร้อมกันเป็นจำนวนมาก โดยเพิ่มจุดจอดรถบขส. และขอความร่วมมือเครือข่ายรถแท็กซี่ และขสมก. มาให้บริการประชาชนในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งหวังว่าจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการระบายรถ และการเดินทางกลับของพี่น้องประชาชน ซึ่งคาดว่าจะหนาแน่นมากที่สุด ในช่วงวันที่ 17 เม.ย.
"นายกฯ ยังได้ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่เสียสละวันหยุด เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่อำนวยความปลอดภัยในการจราจรเพื่อความสุขของประชาชนคนไทยในส่วนรวม" พล.ต.สรรเสริญกล่าว.