**คำสั่งชะลอการแต่งตั้งตำรวจระดับ"นายพัน" ตำแหน่ง สารวัตร (สว.)-รองผู้บังคับการ (รองผบก.) วาระประจำปี 2558 ไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ที่ พล.ต.ต.นิทัศน์ ลิ้มศิริพันธ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (รอง ผบช.สกพ.) ปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล เซ็นหนังสือแจ้งไปทุกกองบัญชาการ ช่วงกลางสงกรานต์ที่ผ่านมา ทำเอาอากาศร้อนๆ แตะหลัก 45 องศาตอนนี้ สู้อุณหภูมิร้อนระอุในแวดวง ”สีกากี” ที่พุ่งทะลุปรอทไม่ได้เลย
เหมือนความหวังการเฝ้ารอของเหล่าบรรดา"สีกากี" ถูกพังทลายลง เพราะต่างก็รอการแต่งตั้ง"นายพัน"มาครึ่งปีเต็ม จากกำหนดเวลาที่ต้องมีการแต่งตั้งโยกย้าย จู่ๆ ก็มีคำสั่งให้ชะลอการแต่งตั้งแบบไร้อนาคตอีก แถมมีกระแสข่าวลือสะพัดออกมาว่า การแต่งตั้ง สว.-รองผบก. ครั้งนี้ จะเลื่อนออกไปอีก 15 วัน หรือ 2 อาทิตย์ จากเส้นใต้ที่ขีดไว้ จะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 25 เม.ย.นี้
แม้การชะลอคำสั่งแต่งตั้งอย่างไม่มีกำหนด จะอ้างเรื่องความ"ลักลั่น" ของตำแหน่งว่าง กับข้าราชการตำรวจ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะได้รับเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในหน่วยต่างๆ แต่เหตุผลเบื้องลึก เบื้องหลัง การออกคำสั่ง ชะลอการแต่งตั้งมาจากปัญหา "ยัดตั๋ว" ชนิดล้นทะลักเกินเก้าอี้ว่างในแต่ละกองบัญชาการ
**จนทำให้"ผู้บัญชาการ"รับกันไม่ไหว จนตรอกต้อง"แข็งข้อ" นำมาสู่บัญชีตั๋วที่พันกันไปไขว้กันมา สะดุดหัวทิ่มหัวตำ !!!
หนึ่งในกองบัญชาการที่ว่ากันว่า "แข็งข้อ" มีชื่อ"กองบัญชาการตำรวจนครบาล" หรือ"บช.น." ที่มี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการประจำ สง.ผบ.ตร. ที่นั่งทำหน้าที่ รักษาการ ผบช.น. เพราะบัญชีนโยบายที่ถูกส่งลงมาให้ดำเนินการในระดับ"ผกก." จากเก้าอี้ว่างเพียง 18-19 ตำแหน่ง มีชื่อส่งมายาวเป็นหางว่าว เกือบ 30 ราย
เมื่อดีมานด์ซัพพลายไม่สมดุล การบริหารภายในไม่สามารถดำเนินการได้อย่างที่ควรจะเป็น ก็มีเสียงสะพัดอาการ"แข็งข้อ" จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ขอเลือกที่จะ"คัดตั๋ว" เลือกตัวบุคลากร แบบเน้นๆ เพื่อประสิทธิภาพหน่วยงาน
** กระแสลือ อาการ"แข็งข้อ" ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลดังกล่าว ก็เลยถูกหยิบมาเชื่อมโยง น่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญ การออกคำสั่งชะลอการแต่งตั้ง สว.-รองผบก. ประจำปี 2558 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะเมื่อฟันเฟืองวงล้อข้อหนึ่งสะดุด วงล้อก็ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ พร้อมๆ กับแรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้นตามมาว่า อาการ"แข็งข้อ" ที่เกิดขึ้น เหมือนเป็นการ"วัดกำลัง" ระหว่าง 2 บิ๊กสีกากี ที่ในแวดวงสีกากี ต่างก็รับรู้ว่าต่างฝ่ายต่างมี"แบ็คดี"ทั้งคู่
ฝ่ายหนึ่ง คือพล.ต.ท.ศานิตย์ นรต.34 สายตรง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาควาสงบแห่งชาติ อีกฝ่ายคือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ในฐานะผู้นำสีกากี
ผบ.ตร. ที่ต้องเกี่ยวข้องกับการบริหารงานภายในทุกๆ ด้าน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจโดยตรง เป็นน้องเลิฟ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเป็นพี่สุดที่รักของ"โจ๊ก" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว
ตลอดช่วงสงกรานต์ 4-5 วัน เลยเกิดไทมไลน์การ"วัดกำลัง" ที่เกิดขึ้นระหว่าง 2 บิ๊กสีกากีใหญ่ เกี่ยวข้องกับ อาการ"แข็งข้อ" สะพัดออกมาเขย่าแวดวง"สีกากี" เป็นระยะ ตั้งแต่ข่าวลือเก้าอี้"ผบ.ตร." ของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ สั่นคลอน หลังช่วงสงกรานต์ อาจมีข่าวใหญ่ถูกไปช่วยราชการสำนักนายกฯ และให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. อาวุโส มารักษาการตำแหน่งไปพลางๆ ก่อน
จากนั้น ก็มีข่าวลือสะพัดออกมาในมุมกลับอีกด้าน ในท้องทำนอง อาจจะมีคำสั่งยกเลิกการรักษาการตำแหน่ง ผบช.น. ของ พล.ต.ท.ศานิตย์ ให้กลับไปดำรงตำแหน่ง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. เพียงอย่างเดียว พร้อมมอบหมายให้ พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงมารักษาการ ผบช.น. และสานต่อการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย
ว่ากันว่า กระแสลืออย่างหลัง ดูจะมีน้ำหนักมากกว่ากระแสแรก เพราะด้วยแบ็คที่มีพลังของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ รวมทั้งตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งในฐานะผู้บริหารงานองค์กรที่สามารถใช้ความชอบทำในการบริหารงานบุคคลก็น่าจะทำให้ "ผู้ใหญ่"ไม่กล้าล้วงลูกมากนัก ยิ่ง"ผู้ใหญ่" ฝั่งโน้นก็กำลังเผชิญมรสุมหลายๆ เข้ามากวนใจ และกลายเป็นกระแสทางสังคมอยู่พอดี
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากกระแสทั้งสองมุม ถ้าเกิดขึ้นจริงไม่ว่าจะออกฝั่งไหน ก็กลายเป็นการหักด้ามพร้าด้วยเข่า ไม่ดีต่อทุกๆ ฝ่าย โดยเฉพาะภาพพจน์ฝ่ายบริหาร ที่เข้ามาแทรกแซงข้าราชการ เชื่อว่าการเจรจาตามประสาพวกเดียวกัน แบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ยกเว้นจะคุยกันรู้เรื่อง!!!
ทว่าดูเปอร์เซ็นต์แล้ว มีโอกาสน้อยที่จะคุยไม่รู้เรื่อง วิน-วิน น่าจะถูกหยิบออกมาเป็นทางแก้ปัญหา เพราะหากปล่อยยืดเยื้อ ถึงขั้นต้องมีการขยายเวลาการแต่งตั้งตำรวจระดับ"นายพัน" ตำแหน่ง สว.-รองผบก. ประจำปี 2558 ออกไปจากเดินเมษายน ไม่น่าจะเป็นผลดีทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล คสช. หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากยืดเยื้อมายาวนานข้ามปี
ขวัญและกำลังใจข้าราชการตำรวจ เริ่มจะลดน้อยถอยลง ซึ่งเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.น่าจะรับรู้ความรู้สึกดี ในฐานะอดีตข้าราชการเก่า รวมทั้งตัว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็ต้องเร่งแก้ปัญหาทุกอย่างให้จบเร็วที่สุด ไม่ยืดเยื้อ ไม่เลื่อนแต่งตั้งอีกแล้ว ไม่เช่นนั้น ความน่าเชื่อถือในฐานะ ผู้นำสีกากี จะหมดลงเรื่อยๆ ยิ่งมีบางคนรอเสียบแทนอยู่ด้วยแล้ว“บิ๊กแป๊ะ”ยิ่งต้องรีบปิดช่องโหว่ ช่องว่าง เร็วที่สุด
**ภายในอาทิตย์นี้ การแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน”น่าจะได้เดินหน้าต่อไป แบบที่ไม่ต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีกเหมือนที่ผ่านมา.
เหมือนความหวังการเฝ้ารอของเหล่าบรรดา"สีกากี" ถูกพังทลายลง เพราะต่างก็รอการแต่งตั้ง"นายพัน"มาครึ่งปีเต็ม จากกำหนดเวลาที่ต้องมีการแต่งตั้งโยกย้าย จู่ๆ ก็มีคำสั่งให้ชะลอการแต่งตั้งแบบไร้อนาคตอีก แถมมีกระแสข่าวลือสะพัดออกมาว่า การแต่งตั้ง สว.-รองผบก. ครั้งนี้ จะเลื่อนออกไปอีก 15 วัน หรือ 2 อาทิตย์ จากเส้นใต้ที่ขีดไว้ จะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 25 เม.ย.นี้
แม้การชะลอคำสั่งแต่งตั้งอย่างไม่มีกำหนด จะอ้างเรื่องความ"ลักลั่น" ของตำแหน่งว่าง กับข้าราชการตำรวจ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะได้รับเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในหน่วยต่างๆ แต่เหตุผลเบื้องลึก เบื้องหลัง การออกคำสั่ง ชะลอการแต่งตั้งมาจากปัญหา "ยัดตั๋ว" ชนิดล้นทะลักเกินเก้าอี้ว่างในแต่ละกองบัญชาการ
**จนทำให้"ผู้บัญชาการ"รับกันไม่ไหว จนตรอกต้อง"แข็งข้อ" นำมาสู่บัญชีตั๋วที่พันกันไปไขว้กันมา สะดุดหัวทิ่มหัวตำ !!!
หนึ่งในกองบัญชาการที่ว่ากันว่า "แข็งข้อ" มีชื่อ"กองบัญชาการตำรวจนครบาล" หรือ"บช.น." ที่มี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการประจำ สง.ผบ.ตร. ที่นั่งทำหน้าที่ รักษาการ ผบช.น. เพราะบัญชีนโยบายที่ถูกส่งลงมาให้ดำเนินการในระดับ"ผกก." จากเก้าอี้ว่างเพียง 18-19 ตำแหน่ง มีชื่อส่งมายาวเป็นหางว่าว เกือบ 30 ราย
เมื่อดีมานด์ซัพพลายไม่สมดุล การบริหารภายในไม่สามารถดำเนินการได้อย่างที่ควรจะเป็น ก็มีเสียงสะพัดอาการ"แข็งข้อ" จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ขอเลือกที่จะ"คัดตั๋ว" เลือกตัวบุคลากร แบบเน้นๆ เพื่อประสิทธิภาพหน่วยงาน
** กระแสลือ อาการ"แข็งข้อ" ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลดังกล่าว ก็เลยถูกหยิบมาเชื่อมโยง น่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญ การออกคำสั่งชะลอการแต่งตั้ง สว.-รองผบก. ประจำปี 2558 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะเมื่อฟันเฟืองวงล้อข้อหนึ่งสะดุด วงล้อก็ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ พร้อมๆ กับแรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้นตามมาว่า อาการ"แข็งข้อ" ที่เกิดขึ้น เหมือนเป็นการ"วัดกำลัง" ระหว่าง 2 บิ๊กสีกากี ที่ในแวดวงสีกากี ต่างก็รับรู้ว่าต่างฝ่ายต่างมี"แบ็คดี"ทั้งคู่
ฝ่ายหนึ่ง คือพล.ต.ท.ศานิตย์ นรต.34 สายตรง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาควาสงบแห่งชาติ อีกฝ่ายคือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ในฐานะผู้นำสีกากี
ผบ.ตร. ที่ต้องเกี่ยวข้องกับการบริหารงานภายในทุกๆ ด้าน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจโดยตรง เป็นน้องเลิฟ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเป็นพี่สุดที่รักของ"โจ๊ก" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว
ตลอดช่วงสงกรานต์ 4-5 วัน เลยเกิดไทมไลน์การ"วัดกำลัง" ที่เกิดขึ้นระหว่าง 2 บิ๊กสีกากีใหญ่ เกี่ยวข้องกับ อาการ"แข็งข้อ" สะพัดออกมาเขย่าแวดวง"สีกากี" เป็นระยะ ตั้งแต่ข่าวลือเก้าอี้"ผบ.ตร." ของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ สั่นคลอน หลังช่วงสงกรานต์ อาจมีข่าวใหญ่ถูกไปช่วยราชการสำนักนายกฯ และให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. อาวุโส มารักษาการตำแหน่งไปพลางๆ ก่อน
จากนั้น ก็มีข่าวลือสะพัดออกมาในมุมกลับอีกด้าน ในท้องทำนอง อาจจะมีคำสั่งยกเลิกการรักษาการตำแหน่ง ผบช.น. ของ พล.ต.ท.ศานิตย์ ให้กลับไปดำรงตำแหน่ง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. เพียงอย่างเดียว พร้อมมอบหมายให้ พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงมารักษาการ ผบช.น. และสานต่อการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย
ว่ากันว่า กระแสลืออย่างหลัง ดูจะมีน้ำหนักมากกว่ากระแสแรก เพราะด้วยแบ็คที่มีพลังของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ รวมทั้งตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งในฐานะผู้บริหารงานองค์กรที่สามารถใช้ความชอบทำในการบริหารงานบุคคลก็น่าจะทำให้ "ผู้ใหญ่"ไม่กล้าล้วงลูกมากนัก ยิ่ง"ผู้ใหญ่" ฝั่งโน้นก็กำลังเผชิญมรสุมหลายๆ เข้ามากวนใจ และกลายเป็นกระแสทางสังคมอยู่พอดี
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากกระแสทั้งสองมุม ถ้าเกิดขึ้นจริงไม่ว่าจะออกฝั่งไหน ก็กลายเป็นการหักด้ามพร้าด้วยเข่า ไม่ดีต่อทุกๆ ฝ่าย โดยเฉพาะภาพพจน์ฝ่ายบริหาร ที่เข้ามาแทรกแซงข้าราชการ เชื่อว่าการเจรจาตามประสาพวกเดียวกัน แบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ยกเว้นจะคุยกันรู้เรื่อง!!!
ทว่าดูเปอร์เซ็นต์แล้ว มีโอกาสน้อยที่จะคุยไม่รู้เรื่อง วิน-วิน น่าจะถูกหยิบออกมาเป็นทางแก้ปัญหา เพราะหากปล่อยยืดเยื้อ ถึงขั้นต้องมีการขยายเวลาการแต่งตั้งตำรวจระดับ"นายพัน" ตำแหน่ง สว.-รองผบก. ประจำปี 2558 ออกไปจากเดินเมษายน ไม่น่าจะเป็นผลดีทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล คสช. หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากยืดเยื้อมายาวนานข้ามปี
ขวัญและกำลังใจข้าราชการตำรวจ เริ่มจะลดน้อยถอยลง ซึ่งเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.น่าจะรับรู้ความรู้สึกดี ในฐานะอดีตข้าราชการเก่า รวมทั้งตัว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็ต้องเร่งแก้ปัญหาทุกอย่างให้จบเร็วที่สุด ไม่ยืดเยื้อ ไม่เลื่อนแต่งตั้งอีกแล้ว ไม่เช่นนั้น ความน่าเชื่อถือในฐานะ ผู้นำสีกากี จะหมดลงเรื่อยๆ ยิ่งมีบางคนรอเสียบแทนอยู่ด้วยแล้ว“บิ๊กแป๊ะ”ยิ่งต้องรีบปิดช่องโหว่ ช่องว่าง เร็วที่สุด
**ภายในอาทิตย์นี้ การแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน”น่าจะได้เดินหน้าต่อไป แบบที่ไม่ต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีกเหมือนที่ผ่านมา.