พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยความคืบหน้าการประชุมคดีของ นายเจนภพ วีรพร ผู้ก่อเหตุขับรถเมอร์เซเดสเบนซ์ ชนรถฟอร์ด ของ 2 นักศึกษาปริญญาโท เสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา ว่า การประชุมในวานนี้ (20 มี.ค.) มีการพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม 2 ข้อหา คือขัดขวางการปฏิบัติของเจ้าพนักงานและข้อหาขับรถในขณะหย่อนความสามารถหรือมึนเมาเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต
ซึ่งข้อหาหลักคือขับรถในขณะหย่อนความสามารถ โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะต้องสอบปากคำพยาน ทางการแพทย์พยาบาลและตำรวจ เพื่อนำมาพิจารณาว่ามีน้ำหนักเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มได้หรือไม่
“หากการสอบปากคำได้ข้อมูล พยานหลักฐานเพียงพอ ก็อาจจะสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ ส่วนผู้ต้องหา จะยอมรับข้อกล่าวหาหรือไม่ก็เป็นสิทธิ ที่จะต่อสู้ หาพยานหลักฐานมาหักล้างข้อกล่าวหา ตามขั้นตอนทางกฎหมาย” พล.ต.ต.สุทธิกล่าว
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่าจะมีความชัดเจนจากคณะพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการแจ้งข้อหากับ นายเจนภพ อีก 2 ข้อหา คือ ขัดขวางการปฏิบัติของเจ้าพนักงานและข้อหาขับรถมึนเมาเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต
“พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการประสานกับทาง รพ. ที่ นายเจนภพ เข้าพักรักษาอาการบาดเจ็บ เพื่อดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งผู้ต้องหาต้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอน แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการประกันตัวข้อหาขับรถประมาทก็ตาม ส่วนการสอบสวนข้อเท็จจริงในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่ทำหน้าที่ล่าช้า จนเกิดความเคลือบแคลงสงสัยของสังคม โดยเฉพาะเรื่องการตรวจสารเสพติด หรือสารแอลกอฮอล์นั้น ขณะนี้ผลการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ แต่คาดว่าทราบผลภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากตนได้ให้เวลาในการสอบขอเท็จจริงภายใน 7 วัน”
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแจ้งด้วยว่า วันนี้ (21 มี.ค.) จะเดินทางไปพบครอบครัวของ นายกฤษณะ หรือ โต้ง ถาวร อายุ 32 ปี ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่บ้านพักจังหวัดจันทบุรี เพื่อแสดงความเสียใจและมอบเงินช่วยเหลือจาก ผบ.ตร.
ส่วนที่วัดวันยาวบน ต.ขลุง อ.ขลุง จ.จันทบุรี ครอบครัวถาวรพร้อมด้วยญาติและเพื่อนของ นายกฤษณะ ถาวร นิสิต ป.โท มจร. เหยื่อเบนซ์ซิ่ง ได้เดินทางมาร่วมพิธีเก็บอัฐิ ครอบครัวถาวรยังคงอยู่ในอาการที่โศกเศร้าเสียใจ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีทำบุญเก็บอัฐิ ทางครอบครัวได้มีความประสงค์จะนำอัฐิ นายกฤษณะ นำกลับไปเก็บรักษาไว้ที่บ้าน อีกส่วนได้เตรียมจะนำไปเก็บรักษาไว้ที่วัดแห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นความประสงค์และเจตนารมย์ของ นายกฤษณะ ที่เคยใฝ่ฝันไว้ว่าหากมีโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต ก็อยากจะไปแสวงบุญรักษาศิลที่ประเทศอินเดีย ดินแดนประสูตรของพระพุทธเจ้า ส่วนในเรื่องคดีความ ทางครอบครัวยังคงไม่พร้อมดำเนินการใดๆ เนื่องสภาพจิตใจยังย่ำแย่ โดยจะให้ทนายที่ทางครอบครัวแต่งตั้งไว้ดำเนินการแทน.
ซึ่งข้อหาหลักคือขับรถในขณะหย่อนความสามารถ โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะต้องสอบปากคำพยาน ทางการแพทย์พยาบาลและตำรวจ เพื่อนำมาพิจารณาว่ามีน้ำหนักเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มได้หรือไม่
“หากการสอบปากคำได้ข้อมูล พยานหลักฐานเพียงพอ ก็อาจจะสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ ส่วนผู้ต้องหา จะยอมรับข้อกล่าวหาหรือไม่ก็เป็นสิทธิ ที่จะต่อสู้ หาพยานหลักฐานมาหักล้างข้อกล่าวหา ตามขั้นตอนทางกฎหมาย” พล.ต.ต.สุทธิกล่าว
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่าจะมีความชัดเจนจากคณะพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการแจ้งข้อหากับ นายเจนภพ อีก 2 ข้อหา คือ ขัดขวางการปฏิบัติของเจ้าพนักงานและข้อหาขับรถมึนเมาเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต
“พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการประสานกับทาง รพ. ที่ นายเจนภพ เข้าพักรักษาอาการบาดเจ็บ เพื่อดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งผู้ต้องหาต้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอน แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการประกันตัวข้อหาขับรถประมาทก็ตาม ส่วนการสอบสวนข้อเท็จจริงในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่ทำหน้าที่ล่าช้า จนเกิดความเคลือบแคลงสงสัยของสังคม โดยเฉพาะเรื่องการตรวจสารเสพติด หรือสารแอลกอฮอล์นั้น ขณะนี้ผลการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ แต่คาดว่าทราบผลภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากตนได้ให้เวลาในการสอบขอเท็จจริงภายใน 7 วัน”
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแจ้งด้วยว่า วันนี้ (21 มี.ค.) จะเดินทางไปพบครอบครัวของ นายกฤษณะ หรือ โต้ง ถาวร อายุ 32 ปี ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่บ้านพักจังหวัดจันทบุรี เพื่อแสดงความเสียใจและมอบเงินช่วยเหลือจาก ผบ.ตร.
ส่วนที่วัดวันยาวบน ต.ขลุง อ.ขลุง จ.จันทบุรี ครอบครัวถาวรพร้อมด้วยญาติและเพื่อนของ นายกฤษณะ ถาวร นิสิต ป.โท มจร. เหยื่อเบนซ์ซิ่ง ได้เดินทางมาร่วมพิธีเก็บอัฐิ ครอบครัวถาวรยังคงอยู่ในอาการที่โศกเศร้าเสียใจ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีทำบุญเก็บอัฐิ ทางครอบครัวได้มีความประสงค์จะนำอัฐิ นายกฤษณะ นำกลับไปเก็บรักษาไว้ที่บ้าน อีกส่วนได้เตรียมจะนำไปเก็บรักษาไว้ที่วัดแห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นความประสงค์และเจตนารมย์ของ นายกฤษณะ ที่เคยใฝ่ฝันไว้ว่าหากมีโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต ก็อยากจะไปแสวงบุญรักษาศิลที่ประเทศอินเดีย ดินแดนประสูตรของพระพุทธเจ้า ส่วนในเรื่องคดีความ ทางครอบครัวยังคงไม่พร้อมดำเนินการใดๆ เนื่องสภาพจิตใจยังย่ำแย่ โดยจะให้ทนายที่ทางครอบครัวแต่งตั้งไว้ดำเนินการแทน.
