“พงศพัศ” ลงพื้นที่ติดตามคดีรถเบนซ์ซิ่งชน 2 นศ.ปริญญาโทเสียชีวิต หลังถูกสังคมวิพากษ์หนักคดีไม่คืบ สั่งโอนคดีให้ บก.ภ.จว.พระนครศรีฯ รับผิดชอบ ตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาโดยเฉพาะ ขีดเส้น 3 วันต้องมีความคืบหน้า สั่งตั้งกรรมการสอบ สภ.พระอินทร์ราชา หาสาเหตุคดีล่าช้า
วันนี้ (17 มี.ค.) ที่ สภ.พระอินทร์ราชา พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.เดินทางติดตามความคืบหน้าคดีนายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ ป้ายทะเบียน ษง 3333 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถยนต์ของนักศึกษาปริญญาโท 2 คนจนไฟคลอกเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนพหลโยธิน กิโลเมตรที่ 53 บริเวณทางแยกต่างระดับบางปะอินเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า คดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการดำเนินคดีเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม แม้ที่ผ่านมาตนเองจะติดตามคดีนี้มาโดยตลอด และได้กำชับให้เร่งรัดการดำเนินคดีแล้ว แต่ก็ยังคงมีคำถามมากมายจากสังคม วันนี้จึงมีคำสั่งโอนคดีจาก สภ.พระอินทร์ราชา ไปให้บก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการโดยตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาโดยเฉพาะ มีพนักงานสอบสวนที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมกำหนดระยะเวลาภายใน 3 วันต้องมีความคืบหน้า นอกจากนี้ยังตั้งคณะทำงานอีกชุดตรวจสอบการทำงานของพนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา เพื่อสืบหาสาเหตุว่าเหตุใดคดีถึงไม่คืบหน้าจนทำให้เกิดข้อทวงติงจากประชาชน หากพบกระทำผิดวินัยจะลงโทษตามขั้นตอน
“เท่าที่ทราบคดีนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำประจักษ์พยานไปแล้ว 2 ปาก และมีการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปแล้วส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ฝากประชาสัมพันธ์ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งอาจจะผ่านไปในที่เกิดเหตุในวันดังกล่าว สามารถให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวน โดยติดต่อ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้ทันที” รอง ผบ.ตร.ระบุ