กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เผยชื่อ 2 หัวโจก ยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ถล่มฐานทหาร ด้านทัพภาค 4 สั่งปิดเทือกเขา เร่งไล่ล่า ขณะที่ โรงพยาบาลเจาะไอร้อง ยังเปิดให้บริการตามปกติ นายกฯสั่งด่วน เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง ตรวจเข้มพื้นที่เสี่ยง และดูแลผู้บาดเจ็บ ย้ำจะขจัดโจรใจบาปและผู้มีอิทธิพลให้เห็นผลใน 6 เดือนวอนประชาชนแจ้งเบาะแส ร่วมมือนำความสงบคืนสู่สังคม
วานนี้ (14 มี.ค.) พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ชี้แจงกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดยคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงจากโรงพยาบาลเจาะไอร้องใส่ฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากช่วงเย็นวันที่ 13 มี.ค. มีรายงานว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด 3 จุดใน อ.เจาะไอร้อง เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย และหลังเกิดเหตุได้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ก่อเหตุโดยการปะทะเกิดขึ้นบริเวณโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงว่า
1. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของกลุ่มคนร้ายที่มุ่งสร้างสถานการณ์ และความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะกรณีคนร้ายได้เข้าไปหลบซ่อนตัวในโรงพยาบาล โดยใช้ผู้ป่วย แพทย์ พยาบาล และประชาชนผู้บริสุทธิ์ เป็นโล่กำบังในการกระทำความผิดของตน ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่สุดโต่งไร้ซึ่งมนุษยธรรม
2. พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.รมน. ภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยบูรณาการกำลัง 3 ฝ่าย เข้าควบคุมสถานการณ์ และบริหารจัดการสถานที่เกิดเหตุตามขั้นตอนของแผนรักษาความปลอดภัย พร้อมเข้ารับฟังการรายงานเหตุการณ์จากเจ้าหน้าที่ ณ ที่ว่าการอำเภอเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
3.ในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในพื้นที่เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติ ณ ด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัดให้มากขึ้น พร้อมเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อใช้ในการติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย
4. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วน
หน้า ยังคงดำรงความมุ่งหมายในการแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างสันติวิธี และการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรม เพื่อปกป้อง คุ้มครอง และดูแลความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชน ทั้งนี้ จะขยายแนวคิดยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยชุมชนมากขึ้น ซึ่งหากพบเหตุสิ่งผิดปกติ หรือเหตุต้องสงสัยสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ที่ สายด่วนหมายเลข 1341 ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะเดียวกัน พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 นายสิทธิชัย ศักดา ผวจ.นราธิวาส พ.ต.อ.รัฐบวร บำรุงรส รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง นายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส น.ส.บุญรัตน์ ประพันธ์วงศ์ ผอ.โรงพยาบาลเจาะไอร้อง และ พ.อ.สบิรพงศ์ อาจหาญ ผบ.กรมทหารพรานที่ 48 ได้ร่วมนำคณะแม่ทัพภาค 4 ดูสถานที่เกิดเหตุ
จากการสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าคนร้ายประมาณ 50 คน ได้แยกย้ายกำลังออกเป็น 6 กลุ่ม กระจายอยู่ตามตึกต่างๆ เพื่อควบคุมสถานการณ์ภายในโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ก่อนใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่ทหารทหารพรานที่ 4816 ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สามารถรวบรวมปลอกกระสุนชนิดต่างๆได้มากกว่า 2,000 ปลอก
ในระหว่างเดินดูสถานที่เกิดเหตุจุดต่างๆ พล.ท.วิวรรธน์ ได้ย้ำให้ พ.อ.สฐิรพงศ์ อาจหาญ ผบ.กรมทหารพรานที่ 48 และพ.อ.พสิษฐ์ ชาญเลขา ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 ให้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย เปิดยุทธการติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่ายังคงกบดานอยู่บนเทือกเขาเขตรอยต่อระหว่าง อ.เจาะไอร้อง กับ อ.จะแนะ เพื่อควานหาตัวกลุ่มกองกำลังติดอาวุธกลุ่มนายลุกมาน ลาเต๊ะบือริง และ นายซือดี ปูเต๊ะ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้
พล.ท.วิวรรธน์ ยังได้มีการมอบเงินเยียวยาปลอบขวัญ และสร้างกำลังใจแก่ แพทย์ พยาบาล และบุคลากรของโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ซึ่งทุกคนมีขวัญกำลังใจ และยอมรับว่า ช่วงเกิดเหตุต่างรู้สึกหวาดกลัว แต่เมื่อผ่านพ้นไปแล้ว สามารถทำใจได้ และส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ก็เป็นคนชาวนราธิวาส ที่จะไม่ยอมทิ้งแผ่นดินบ้านเกิด
ด้าน นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง สสจ. นราธิวาส เปิดเผยว่า เราต่างพากันประเมิน และลงความเห็นว่าจะไม่ปิดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ยิ่งเหตุการณ์รุนแรงเราในฐานะองค์กรกลางยิ่งต้องดูแลสุขภาพของประชาชน หลังจากมีเหตุการณ์ ก็ได้ลงมาดูแลน้องๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ เราทุกคนยังคงอยู่กันได้ ซึ่งผู้บริหารระดับสูงก็โทร.มาหาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
ส่วนความคืบหน้า เหตุ 4 คนร้าย ใช้อาวุธปืนยิงใส่ที่พักชั่วคราวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หมวดเฉพาะกิจ นปพ. นราธิวาสที่ 31 ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟเจาะไอร้องนั้น เจ้าหน้าที่พบภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์สีดำทั้ง 2 คัน โดยคนร้ายที่ทำหน้าที่เป็นมือปืน แต่งกายเป็นผู้หญิง คลุมผมด้วยผ้าฮีญาบ โดยเฉพาะมือปืนที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันแรก เป็นคนพิการขาด้านขวา ภาพวงจรปิดสามารถบันทึกไว้ได้ โดยใช้ขาเทียมแบบเหล็กท่อนเดียว
นอกจากการก่อเหตุใน จ.นราธิวาส ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงใน จ.ยะลา ด้วย จำนวน 6 จุด แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่ เมื่อช่วงเช้าวานนี้( 14 มี.ค.) เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยโรงเรียนบ้านตะเหลี่ยง ม.4 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 ราย ไปสอบประวัติที่ศูนย์ซักถาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในช่วงระยะนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้หน่วยงานความมั่นคงได้แจ้งเตือนให้ทุกหน่วยมีการเฝ้าระวังการก่อความไม่สงบเนื่องจากตรงกับช่วงวันครบรอบเหตุการณ์สำคัญ เช่นเหตุการณ์กรือเซะ และวันครบรอบการสถาปนาของกลุ่มก่อควาไมม่สงบซึ่งเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงแต่คนร้ายก็ยังฉวยโอกาสก่อเหตุจนได้
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี คนร้ายก่อความไม่สงบในพื้นที่ จ.นราธิวาส และจ.ยะลา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการด่วน ให้เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับประชาชน ตรวจเข้มพื้นที่เสี่ยง เช่น จุดจอดรถ หรือบริเวณที่มีประชาชนจำนวนมาก และให้หน่วยรักษาพยาบาล ช่วยเหลือ ดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ รวมทั้งได้กำชับให้ติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็ว
"รัฐบาลยอมไม่ได้ กับพฤติกรรมที่อยู่เหนือกฎหมายโดยจะเร่งปราบปรามผู้ก่อการร้าย ผู้มีอิทธิพล ผู้ค้ายาเสพติด น้ำมันเถื่อน และค้ามนุษย์ให้เห็นผลภายใน 6 เดือน เพื่อคืนความสงบสุขสู่สังคม ขจัดปัญหาความรุนแรง หรือการทำลายล้างชีวิตผู้อื่น ผู้ที่กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีโดยเร็ว"
พล.ต. สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า นายกฯได้ขอให้พี่น้องประชาชนร่วมมือกับรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ เพื่อนำสันติสุขกลับคืนมา ทุกฝ่ายจะร่วมกันยุติความรุนแรง และการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยผู้ที่มีเบาะแสเกี่ยวกับผู้กระทำผิดให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบโดยด่วน หรือส่งข้อมูลถึงนายกฯโดยตรง ทั้งนี้ รัฐบาลจะไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้แจ้ง และหากข้อมูลเป็นความจริง และนำไปสู่การทำลายขบวนการได้ รัฐบาลจะมอบรางวัลพิเศษให้กับผู้ที่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง
"ท่านนายกฯ ย้ำว่าการขจัดความเลวร้ายต่างๆ ภายใน 6 เดือนนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนโดยเฉพาะปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้นั้น ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาและการลงทุน ดังนั้นหากพี่น้องชาวใต้ ต้องการให้บ้านเมืองดีขึ้นจะต้องร่วมใจกัน อย่าให้ผู้ร้ายที่ทำลายชีวิตทั้งชาวพุทธ หรือมุสลิม และแทรกซึมอยู่กับประชาชนมากดดัน คนเหล่านี้จะต้องไม่มีที่ยืนในสังคมอีกต่อไป"
วานนี้ (14 มี.ค.) พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ชี้แจงกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดยคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงจากโรงพยาบาลเจาะไอร้องใส่ฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากช่วงเย็นวันที่ 13 มี.ค. มีรายงานว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด 3 จุดใน อ.เจาะไอร้อง เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย และหลังเกิดเหตุได้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ก่อเหตุโดยการปะทะเกิดขึ้นบริเวณโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงว่า
1. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของกลุ่มคนร้ายที่มุ่งสร้างสถานการณ์ และความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะกรณีคนร้ายได้เข้าไปหลบซ่อนตัวในโรงพยาบาล โดยใช้ผู้ป่วย แพทย์ พยาบาล และประชาชนผู้บริสุทธิ์ เป็นโล่กำบังในการกระทำความผิดของตน ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่สุดโต่งไร้ซึ่งมนุษยธรรม
2. พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.รมน. ภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยบูรณาการกำลัง 3 ฝ่าย เข้าควบคุมสถานการณ์ และบริหารจัดการสถานที่เกิดเหตุตามขั้นตอนของแผนรักษาความปลอดภัย พร้อมเข้ารับฟังการรายงานเหตุการณ์จากเจ้าหน้าที่ ณ ที่ว่าการอำเภอเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
3.ในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในพื้นที่เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติ ณ ด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัดให้มากขึ้น พร้อมเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อใช้ในการติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย
4. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วน
หน้า ยังคงดำรงความมุ่งหมายในการแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างสันติวิธี และการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรม เพื่อปกป้อง คุ้มครอง และดูแลความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชน ทั้งนี้ จะขยายแนวคิดยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยชุมชนมากขึ้น ซึ่งหากพบเหตุสิ่งผิดปกติ หรือเหตุต้องสงสัยสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ที่ สายด่วนหมายเลข 1341 ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะเดียวกัน พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 นายสิทธิชัย ศักดา ผวจ.นราธิวาส พ.ต.อ.รัฐบวร บำรุงรส รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง นายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส น.ส.บุญรัตน์ ประพันธ์วงศ์ ผอ.โรงพยาบาลเจาะไอร้อง และ พ.อ.สบิรพงศ์ อาจหาญ ผบ.กรมทหารพรานที่ 48 ได้ร่วมนำคณะแม่ทัพภาค 4 ดูสถานที่เกิดเหตุ
จากการสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าคนร้ายประมาณ 50 คน ได้แยกย้ายกำลังออกเป็น 6 กลุ่ม กระจายอยู่ตามตึกต่างๆ เพื่อควบคุมสถานการณ์ภายในโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ก่อนใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่ทหารทหารพรานที่ 4816 ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สามารถรวบรวมปลอกกระสุนชนิดต่างๆได้มากกว่า 2,000 ปลอก
ในระหว่างเดินดูสถานที่เกิดเหตุจุดต่างๆ พล.ท.วิวรรธน์ ได้ย้ำให้ พ.อ.สฐิรพงศ์ อาจหาญ ผบ.กรมทหารพรานที่ 48 และพ.อ.พสิษฐ์ ชาญเลขา ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 ให้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย เปิดยุทธการติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่ายังคงกบดานอยู่บนเทือกเขาเขตรอยต่อระหว่าง อ.เจาะไอร้อง กับ อ.จะแนะ เพื่อควานหาตัวกลุ่มกองกำลังติดอาวุธกลุ่มนายลุกมาน ลาเต๊ะบือริง และ นายซือดี ปูเต๊ะ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้
พล.ท.วิวรรธน์ ยังได้มีการมอบเงินเยียวยาปลอบขวัญ และสร้างกำลังใจแก่ แพทย์ พยาบาล และบุคลากรของโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ซึ่งทุกคนมีขวัญกำลังใจ และยอมรับว่า ช่วงเกิดเหตุต่างรู้สึกหวาดกลัว แต่เมื่อผ่านพ้นไปแล้ว สามารถทำใจได้ และส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ก็เป็นคนชาวนราธิวาส ที่จะไม่ยอมทิ้งแผ่นดินบ้านเกิด
ด้าน นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง สสจ. นราธิวาส เปิดเผยว่า เราต่างพากันประเมิน และลงความเห็นว่าจะไม่ปิดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ยิ่งเหตุการณ์รุนแรงเราในฐานะองค์กรกลางยิ่งต้องดูแลสุขภาพของประชาชน หลังจากมีเหตุการณ์ ก็ได้ลงมาดูแลน้องๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ เราทุกคนยังคงอยู่กันได้ ซึ่งผู้บริหารระดับสูงก็โทร.มาหาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
ส่วนความคืบหน้า เหตุ 4 คนร้าย ใช้อาวุธปืนยิงใส่ที่พักชั่วคราวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หมวดเฉพาะกิจ นปพ. นราธิวาสที่ 31 ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟเจาะไอร้องนั้น เจ้าหน้าที่พบภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์สีดำทั้ง 2 คัน โดยคนร้ายที่ทำหน้าที่เป็นมือปืน แต่งกายเป็นผู้หญิง คลุมผมด้วยผ้าฮีญาบ โดยเฉพาะมือปืนที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันแรก เป็นคนพิการขาด้านขวา ภาพวงจรปิดสามารถบันทึกไว้ได้ โดยใช้ขาเทียมแบบเหล็กท่อนเดียว
นอกจากการก่อเหตุใน จ.นราธิวาส ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงใน จ.ยะลา ด้วย จำนวน 6 จุด แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่ เมื่อช่วงเช้าวานนี้( 14 มี.ค.) เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยโรงเรียนบ้านตะเหลี่ยง ม.4 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 ราย ไปสอบประวัติที่ศูนย์ซักถาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในช่วงระยะนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้หน่วยงานความมั่นคงได้แจ้งเตือนให้ทุกหน่วยมีการเฝ้าระวังการก่อความไม่สงบเนื่องจากตรงกับช่วงวันครบรอบเหตุการณ์สำคัญ เช่นเหตุการณ์กรือเซะ และวันครบรอบการสถาปนาของกลุ่มก่อควาไมม่สงบซึ่งเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงแต่คนร้ายก็ยังฉวยโอกาสก่อเหตุจนได้
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี คนร้ายก่อความไม่สงบในพื้นที่ จ.นราธิวาส และจ.ยะลา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการด่วน ให้เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับประชาชน ตรวจเข้มพื้นที่เสี่ยง เช่น จุดจอดรถ หรือบริเวณที่มีประชาชนจำนวนมาก และให้หน่วยรักษาพยาบาล ช่วยเหลือ ดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ รวมทั้งได้กำชับให้ติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็ว
"รัฐบาลยอมไม่ได้ กับพฤติกรรมที่อยู่เหนือกฎหมายโดยจะเร่งปราบปรามผู้ก่อการร้าย ผู้มีอิทธิพล ผู้ค้ายาเสพติด น้ำมันเถื่อน และค้ามนุษย์ให้เห็นผลภายใน 6 เดือน เพื่อคืนความสงบสุขสู่สังคม ขจัดปัญหาความรุนแรง หรือการทำลายล้างชีวิตผู้อื่น ผู้ที่กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีโดยเร็ว"
พล.ต. สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า นายกฯได้ขอให้พี่น้องประชาชนร่วมมือกับรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ เพื่อนำสันติสุขกลับคืนมา ทุกฝ่ายจะร่วมกันยุติความรุนแรง และการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยผู้ที่มีเบาะแสเกี่ยวกับผู้กระทำผิดให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบโดยด่วน หรือส่งข้อมูลถึงนายกฯโดยตรง ทั้งนี้ รัฐบาลจะไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้แจ้ง และหากข้อมูลเป็นความจริง และนำไปสู่การทำลายขบวนการได้ รัฐบาลจะมอบรางวัลพิเศษให้กับผู้ที่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง
"ท่านนายกฯ ย้ำว่าการขจัดความเลวร้ายต่างๆ ภายใน 6 เดือนนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนโดยเฉพาะปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้นั้น ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาและการลงทุน ดังนั้นหากพี่น้องชาวใต้ ต้องการให้บ้านเมืองดีขึ้นจะต้องร่วมใจกัน อย่าให้ผู้ร้ายที่ทำลายชีวิตทั้งชาวพุทธ หรือมุสลิม และแทรกซึมอยู่กับประชาชนมากดดัน คนเหล่านี้จะต้องไม่มีที่ยืนในสังคมอีกต่อไป"