ตร.สระบุรี คุมตัวผู้ต้องหาฆ่าพนง.การท่าฯ ดอนเมือง ทำแผนรับสารภาพปากซ.สรงประภา ขณะทำแผนพบของใช้ส่วนตัวผู้ตายถูกเผาเพื่อทำลายหลักฐานพร้อมเก็บส่งพฐ.ทำการตรวจสอบ ด้าน คนร้ายสารภาพโดนกิ๊กผู้ตายส่งภาพคู่ให้ดู เกิดปากเสียงรุนแรง จึงแทงผู้ตายก่อนนำศพไปทิ้ง
วานนี้ (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่สภ.เมืองสระบุรี ได้นำตัวนายธนัฐพงศ์ กุลรักษา หรือ บิ๊ก ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้งสิ้น 5 จุด ประกอบไปด้วย จุดแรกที่บริเวณปากซอยสรงประภา 1 แยก4-1 หรือซอยสวรรณี 2 แขวง/เขตดอนเมือง ซึ่งเป็นจุดที่นายธนัฐพงษ์ ได้จอดรถคุยกับผู้ตายจนมีปากเสียงกัน ก่อนที่คนร้ายจะใช้มีดพับ สีดำ แทงเข้าที่หน้าอกของผู้ตาย 1 ครั้ง และได้ขับรถมุ่งหน้าออกไปที่จ.นครราชสีมา
จุดที่สอง ที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ แห่งหนึ่ง เป็นจุดที่หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้สวมรอยเล่นเฟสบุ๊คของผู้ตาย เพื่อคุยกับเพื่อนๆว่าผู้ตายมีแฟนใหม่ชื่ออาร์ท และปลอดภัยดีไม่ได้เป็นอะไร
และจุดที่สาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปพงหญ้า ภายในซอยเทิดราชัน 9 ถ.เทิดราชัน แขวงสีกัน เขตดอนเมือง ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาให้การว่า หลังจากทิ้งศพผู้ตายแล้ววันต่อมาก็ได้นำกระเป๋าถือของผู้ตาย ที่ประกอบด้วย เอกสาร บัตรประจำตัว และทรัพย์สินต่างๆ ไปเผาทิ้งขยะที่พงหญ้าดังกล่าว
ขณะที่ทำการชี้จุดนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณพงหญ้าดังกล่าวก็พบเศษเหรียญ พาวเวอร์แบงค์ สายชาร์ทโทรศัพท์มือถือ และน้ำหอมของใช้ส่วนตัวที่เชื่อว่าน่าจะเป็นของผู้ตายที่ถูกผู้ต้องหานำมาเผาทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน
นายธนัฐพงษ์ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่5มี.ค. เวลาประมาณ 17.00 น.ตนขับรถเก๋งมารับผู้ตายที่อาคารผู้โดยสาร 1 สนามบินดอนเมือง จากนั้นพาไปกินข้าว และดูภาพยนต์กันที่ห้างฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ก่อนที่จะพาผู้ตายไปส่งที่บ้านพัก ซึ่งระหว่างทางมีปากเสียงกันตลอด เพราะตนจับได้ว่าผู้ตายแอบคบหากับชายอื่น จนกระทั่งถึงบริเวณหน้าปากซอยไดรไอซ์ ตนได้จอดรถคุยกับผู้ตาย และมีปากเสียงกัน ตนจึงใช้มีดพับ สีดำ แทงเข้าที่หน้าอกของผู้ตาย 1 ครั้ง แล้วรีบขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้าน จ.นครราชสีมา ระหว่างทางผู้ตายพยายามดิ้น ตนจึงใช้มีดแทงเข้าที่ลำตัวอีก 1 ครั้ง จนผู้ตายนิ่งไป แต่ยังหายใจอยู่
เมื่อมาถึงบริเวณ ถนนบายพาส อ.เมือง จ.สระบุรี ซึ่งเป็นที่เปลี่ยว ตนจึงโยนโทรศัพท์มือถือของผู้ตายลงข้างทาง แล้วขับรถเข้าไปในบริเวณเนินดินแล้วนำผู้ตายโยนลงจากรถ และกลับมาที่ห้องพัก ก่อนจะนำกระเป๋าถือของผู้ตายไปเผาทิ้งขยะ ใกล้ๆ กองบิน 6 ดอนเมือง และในวันต่อมาวันที่ 6 มี.ค.ตนนำพรมรองเท้าภายในรถที่เปื้อนเลือดมาซัก แล้วใส่ถุง ก่อนจะไปฝากเพื่อนที่อยู่ภายในคอนโดเดียวกัน และซื้อพรมรองเท้าชุดใหม่มาแทน ก่อนจะถูกจับกุมตัวได้
ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การว่า กำลังจะแต่งงานอีก 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งที่ผ่านมาตนและผู้ตายมีปากเสียงบ่อยครั้ง จนถึงขั้นเลิกรา จนกระทั่งผู้ตายย้ายมาทำงาน ตนจึงสงสัยว่าผู้ตายจะมีคนอื่น แต่ผู้ตายปฏิเสธมาโดยตลอด โดยครั้งล่าสุดกิ๊กของผู้ตายได้ส่งรูปคู่มาให้ตนดู ตนจึงไปคุยกับผู้ตาย แต่ผู้ตายปฏิเสธ ตนจึงเอารูปของผู้ตายและกิ๊กให้ดู ก่อนที่ผู้ตายจะด่าทอ และมีปากเสียงกันตลอด จนกระทั่งลงมือแทงผู้ตายและนำศพไปทิ้งบริเวณดังกล่าว
วานนี้ (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่สภ.เมืองสระบุรี ได้นำตัวนายธนัฐพงศ์ กุลรักษา หรือ บิ๊ก ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้งสิ้น 5 จุด ประกอบไปด้วย จุดแรกที่บริเวณปากซอยสรงประภา 1 แยก4-1 หรือซอยสวรรณี 2 แขวง/เขตดอนเมือง ซึ่งเป็นจุดที่นายธนัฐพงษ์ ได้จอดรถคุยกับผู้ตายจนมีปากเสียงกัน ก่อนที่คนร้ายจะใช้มีดพับ สีดำ แทงเข้าที่หน้าอกของผู้ตาย 1 ครั้ง และได้ขับรถมุ่งหน้าออกไปที่จ.นครราชสีมา
จุดที่สอง ที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ แห่งหนึ่ง เป็นจุดที่หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้สวมรอยเล่นเฟสบุ๊คของผู้ตาย เพื่อคุยกับเพื่อนๆว่าผู้ตายมีแฟนใหม่ชื่ออาร์ท และปลอดภัยดีไม่ได้เป็นอะไร
และจุดที่สาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปพงหญ้า ภายในซอยเทิดราชัน 9 ถ.เทิดราชัน แขวงสีกัน เขตดอนเมือง ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาให้การว่า หลังจากทิ้งศพผู้ตายแล้ววันต่อมาก็ได้นำกระเป๋าถือของผู้ตาย ที่ประกอบด้วย เอกสาร บัตรประจำตัว และทรัพย์สินต่างๆ ไปเผาทิ้งขยะที่พงหญ้าดังกล่าว
ขณะที่ทำการชี้จุดนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณพงหญ้าดังกล่าวก็พบเศษเหรียญ พาวเวอร์แบงค์ สายชาร์ทโทรศัพท์มือถือ และน้ำหอมของใช้ส่วนตัวที่เชื่อว่าน่าจะเป็นของผู้ตายที่ถูกผู้ต้องหานำมาเผาทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน
นายธนัฐพงษ์ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่5มี.ค. เวลาประมาณ 17.00 น.ตนขับรถเก๋งมารับผู้ตายที่อาคารผู้โดยสาร 1 สนามบินดอนเมือง จากนั้นพาไปกินข้าว และดูภาพยนต์กันที่ห้างฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ก่อนที่จะพาผู้ตายไปส่งที่บ้านพัก ซึ่งระหว่างทางมีปากเสียงกันตลอด เพราะตนจับได้ว่าผู้ตายแอบคบหากับชายอื่น จนกระทั่งถึงบริเวณหน้าปากซอยไดรไอซ์ ตนได้จอดรถคุยกับผู้ตาย และมีปากเสียงกัน ตนจึงใช้มีดพับ สีดำ แทงเข้าที่หน้าอกของผู้ตาย 1 ครั้ง แล้วรีบขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้าน จ.นครราชสีมา ระหว่างทางผู้ตายพยายามดิ้น ตนจึงใช้มีดแทงเข้าที่ลำตัวอีก 1 ครั้ง จนผู้ตายนิ่งไป แต่ยังหายใจอยู่
เมื่อมาถึงบริเวณ ถนนบายพาส อ.เมือง จ.สระบุรี ซึ่งเป็นที่เปลี่ยว ตนจึงโยนโทรศัพท์มือถือของผู้ตายลงข้างทาง แล้วขับรถเข้าไปในบริเวณเนินดินแล้วนำผู้ตายโยนลงจากรถ และกลับมาที่ห้องพัก ก่อนจะนำกระเป๋าถือของผู้ตายไปเผาทิ้งขยะ ใกล้ๆ กองบิน 6 ดอนเมือง และในวันต่อมาวันที่ 6 มี.ค.ตนนำพรมรองเท้าภายในรถที่เปื้อนเลือดมาซัก แล้วใส่ถุง ก่อนจะไปฝากเพื่อนที่อยู่ภายในคอนโดเดียวกัน และซื้อพรมรองเท้าชุดใหม่มาแทน ก่อนจะถูกจับกุมตัวได้
ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การว่า กำลังจะแต่งงานอีก 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งที่ผ่านมาตนและผู้ตายมีปากเสียงบ่อยครั้ง จนถึงขั้นเลิกรา จนกระทั่งผู้ตายย้ายมาทำงาน ตนจึงสงสัยว่าผู้ตายจะมีคนอื่น แต่ผู้ตายปฏิเสธมาโดยตลอด โดยครั้งล่าสุดกิ๊กของผู้ตายได้ส่งรูปคู่มาให้ตนดู ตนจึงไปคุยกับผู้ตาย แต่ผู้ตายปฏิเสธ ตนจึงเอารูปของผู้ตายและกิ๊กให้ดู ก่อนที่ผู้ตายจะด่าทอ และมีปากเสียงกันตลอด จนกระทั่งลงมือแทงผู้ตายและนำศพไปทิ้งบริเวณดังกล่าว