เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานพร้อมเจ้าหน้าที่ทหารจาก ร้อย รส.ปตอ.พัน 3 ได้เข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งย่าน ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เนื่องจากได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดจนบ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากแก๊สระเบิด โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 04.15 น.
ที่เกิดเหตุพบ เป็นลักษณะบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น สภาพถูกแรงระเบิดเสียหายจนหลังคาบ้านทะลุรวมถึงรถจักรยานยนต์ ที่จอดอยู่จำนวน 7 คัน เสียหายเช่นกัน ทางเจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบว่าแรงระเบิดนั้นได้ทำให้กำแพงผนังของบ้านซึ่งอยู่ติดกันพัง จนสามารถเดินเข้าหากันได้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ขณะเกิดเหตุมีผู้พักอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 คน โดยทั้งหมดไม่ได้รับบาดเจ็บ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านแฝดสองชั้น ปลูกอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 20 ตารางวา แรงระเบิดทำให้บ้านพังเสียหายเกือบทั้งหลัง พื้นบ้านชั้นสองถูกแรงระเบิดจนพื้นแตก บันไดพังถล่มลงมากองกับพื้น ผนังบ้านพังเป็นแถบ หลังคาแตกโหว่ เศษอิฐเศษปูน และกระเบื้องหลังคากระจายเกลื่อน มีรถ จยย. ที่จอดอยู่หน้าบ้านและในตัวบ้านพังเสียหาย 5 คัน โดยมีนายนภัสรกิตติ์ วงศ์นาค อายุ 37 ปี และนางจันทิมา สรงประภา อายุ 38 ปี สองสามีภรรยาเช่าอยู่บ้านดังกล่าว รอให้ปากคำอยู่
สอบสวนนายนภัสรกิตติ์ให้การว่า ตนกับภรรยามีอาชีพเปิดร้านขายซีดีกับร้านก๋วยเตี๋ยว เช่าบ้านของนายอัมพร ต้นแทน อายุ 72 ปี เจ้าของบ้านมานานหลายปี ช่วงเกิดเหตุออกไปขายก๋วยเตี๋ยวที่ย่านบางใหญ่ โดยมี น.ส.ชนิดา ปฏิสังข์ อายุ 18 ปี บุตรสาว นอนอยู่ชั้นบนด้านหน้า ส่วนคนงานขายซีดีอีก 6 คน นอนอยู่ห้องนอนด้านหลัง ระหว่างนั้นลูกสาวโทรศัพท์มาบอกว่าเกิดระเบิดบริเวณห้องเก็บของใต้บันไดชั้นล่าง กลับมาดูพบว่าบ้านพังยับ มีคนงานได้รับบาดเจ็บ 1 คน ชื่อนายชายเล็ก ผดุงชัชวาล อายุ 54 ปี ถูกกระเบื้องหลังคาตกใส่หน้าขณะนอนอยู่ในห้อง แรงระเบิดยังทำให้ฝาบ้านเลขที่ 58/22 ของนางศิริลักษณ์ ขันธ์วราพันธิชัย อายุ 68 ปี ที่อยู่ติดกันพนังฝาบ้านพังและข้าวของภายในบ้านเสียหายแต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด
ส่วน น.ส.ชนิดา ปฏิสังข์ ให้การว่า ขณะนอนหลับอยู่ในห้องนอนชั้นบน จู่ๆเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นบ้านสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจนสะดุ้งตื่น ตอนแรกคิดว่าหม้อแปลงไฟฟ้าหน้าบ้านระเบิด มองออกไปทางหน้าต่างเห็นชาวบ้านมุงดูกันเต็มหน้าบ้าน พร้อมตะโกนว่าเกิดระเบิดบ้านพังเสียหาย รีบเปิดประตูห้องออกมาดูพบว่าบ้านพังบันไดบ้านถล่มลงมากองกับพื้น เพื่อนบ้านต้องหาบันไดไม้ไผ่พาดให้ตนกับคนงานลงจากชั้นบน
ด้านนายธนากฤช สงเคราะห์ อายุ 31 ปี หนึ่งในผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านเล่าว่าขณะเกิดเหตุตนและรุ่นพี่นอนอยู่ด้านล่างส่วนด้านบน ได้นอนพักผ่อนอยู่จำนวน 4 คน โดยทุกคนเป็นลูกจ้างขายของตามตลาดนัด ซึ่งมีนายจ้างเป็นผู้เช่าบ้านให้อยู่อาศัยรวมกัน ในระหว่างที่นอนอยู่ได้เกิดมีการระเบิดขึ้นเสียงดังมาก และยังไม่ทราบสาเหตุทำให้ตนเองและรุ่นพี่ที่นอนอยู่ด้วยกันถูกแรงอัดกระเด็นออกมาด้านนอก แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีแสงเพลิงเกิดขึ้นแม้แต่น้อย
หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจที่เกิดเหตุ เก็บเศษเหล็กและชิ้นส่วนวงจรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนหนึ่งไปตรวจสอบ จากนั้น พ.ต.อ.มานะ เทียนเมืองปัก พงส.ผทค.สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบไม่พบคราบเขม่าของดินปืนและสะเก็ดระเบิด เชื่อว่าสาเหตุที่เกิดเหตุไม่ใช่วัตถุระเบิดแต่อย่างใด แต่น่าเกิดจากสารเคมีชนิดใดชนิดหนึ่งที่เกิดการปะทุอย่างรุนแรง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสารเคมีชนิดใด หรือเป็นสารเคมีที่ใช้ในการประกอบวัตถุระเบิดโดยตรงหรือไม่ อย่างไรก็ตามต้องสอบปากคำบุคคลในบ้านทั้งหมดว่ามีใครนำสารเคมีที่เป็นอันตรายมาเก็บไว้หรือไม่ และต้องรอผลตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดเพื่อยืนยันสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง
ที่เกิดเหตุพบ เป็นลักษณะบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น สภาพถูกแรงระเบิดเสียหายจนหลังคาบ้านทะลุรวมถึงรถจักรยานยนต์ ที่จอดอยู่จำนวน 7 คัน เสียหายเช่นกัน ทางเจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบว่าแรงระเบิดนั้นได้ทำให้กำแพงผนังของบ้านซึ่งอยู่ติดกันพัง จนสามารถเดินเข้าหากันได้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ขณะเกิดเหตุมีผู้พักอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 คน โดยทั้งหมดไม่ได้รับบาดเจ็บ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านแฝดสองชั้น ปลูกอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 20 ตารางวา แรงระเบิดทำให้บ้านพังเสียหายเกือบทั้งหลัง พื้นบ้านชั้นสองถูกแรงระเบิดจนพื้นแตก บันไดพังถล่มลงมากองกับพื้น ผนังบ้านพังเป็นแถบ หลังคาแตกโหว่ เศษอิฐเศษปูน และกระเบื้องหลังคากระจายเกลื่อน มีรถ จยย. ที่จอดอยู่หน้าบ้านและในตัวบ้านพังเสียหาย 5 คัน โดยมีนายนภัสรกิตติ์ วงศ์นาค อายุ 37 ปี และนางจันทิมา สรงประภา อายุ 38 ปี สองสามีภรรยาเช่าอยู่บ้านดังกล่าว รอให้ปากคำอยู่
สอบสวนนายนภัสรกิตติ์ให้การว่า ตนกับภรรยามีอาชีพเปิดร้านขายซีดีกับร้านก๋วยเตี๋ยว เช่าบ้านของนายอัมพร ต้นแทน อายุ 72 ปี เจ้าของบ้านมานานหลายปี ช่วงเกิดเหตุออกไปขายก๋วยเตี๋ยวที่ย่านบางใหญ่ โดยมี น.ส.ชนิดา ปฏิสังข์ อายุ 18 ปี บุตรสาว นอนอยู่ชั้นบนด้านหน้า ส่วนคนงานขายซีดีอีก 6 คน นอนอยู่ห้องนอนด้านหลัง ระหว่างนั้นลูกสาวโทรศัพท์มาบอกว่าเกิดระเบิดบริเวณห้องเก็บของใต้บันไดชั้นล่าง กลับมาดูพบว่าบ้านพังยับ มีคนงานได้รับบาดเจ็บ 1 คน ชื่อนายชายเล็ก ผดุงชัชวาล อายุ 54 ปี ถูกกระเบื้องหลังคาตกใส่หน้าขณะนอนอยู่ในห้อง แรงระเบิดยังทำให้ฝาบ้านเลขที่ 58/22 ของนางศิริลักษณ์ ขันธ์วราพันธิชัย อายุ 68 ปี ที่อยู่ติดกันพนังฝาบ้านพังและข้าวของภายในบ้านเสียหายแต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด
ส่วน น.ส.ชนิดา ปฏิสังข์ ให้การว่า ขณะนอนหลับอยู่ในห้องนอนชั้นบน จู่ๆเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นบ้านสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจนสะดุ้งตื่น ตอนแรกคิดว่าหม้อแปลงไฟฟ้าหน้าบ้านระเบิด มองออกไปทางหน้าต่างเห็นชาวบ้านมุงดูกันเต็มหน้าบ้าน พร้อมตะโกนว่าเกิดระเบิดบ้านพังเสียหาย รีบเปิดประตูห้องออกมาดูพบว่าบ้านพังบันไดบ้านถล่มลงมากองกับพื้น เพื่อนบ้านต้องหาบันไดไม้ไผ่พาดให้ตนกับคนงานลงจากชั้นบน
ด้านนายธนากฤช สงเคราะห์ อายุ 31 ปี หนึ่งในผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านเล่าว่าขณะเกิดเหตุตนและรุ่นพี่นอนอยู่ด้านล่างส่วนด้านบน ได้นอนพักผ่อนอยู่จำนวน 4 คน โดยทุกคนเป็นลูกจ้างขายของตามตลาดนัด ซึ่งมีนายจ้างเป็นผู้เช่าบ้านให้อยู่อาศัยรวมกัน ในระหว่างที่นอนอยู่ได้เกิดมีการระเบิดขึ้นเสียงดังมาก และยังไม่ทราบสาเหตุทำให้ตนเองและรุ่นพี่ที่นอนอยู่ด้วยกันถูกแรงอัดกระเด็นออกมาด้านนอก แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีแสงเพลิงเกิดขึ้นแม้แต่น้อย
หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจที่เกิดเหตุ เก็บเศษเหล็กและชิ้นส่วนวงจรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนหนึ่งไปตรวจสอบ จากนั้น พ.ต.อ.มานะ เทียนเมืองปัก พงส.ผทค.สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบไม่พบคราบเขม่าของดินปืนและสะเก็ดระเบิด เชื่อว่าสาเหตุที่เกิดเหตุไม่ใช่วัตถุระเบิดแต่อย่างใด แต่น่าเกิดจากสารเคมีชนิดใดชนิดหนึ่งที่เกิดการปะทุอย่างรุนแรง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสารเคมีชนิดใด หรือเป็นสารเคมีที่ใช้ในการประกอบวัตถุระเบิดโดยตรงหรือไม่ อย่างไรก็ตามต้องสอบปากคำบุคคลในบ้านทั้งหมดว่ามีใครนำสารเคมีที่เป็นอันตรายมาเก็บไว้หรือไม่ และต้องรอผลตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดเพื่อยืนยันสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง