xs
xsm
sm
md
lg

เป็นอะไรก็ได้ แต่ขอให้เป็นให้ดีที่สุด (คมความคิดจากข้างหลังภาพ หนึ่งในวรรณกรรมอมตะของศรีบูรพา)

เผยแพร่:   โดย: อภินันท์ สิริรัตนจิตต์

โดย...อภินันท์ สิริรัตนจิตต์

โลกกลมๆ ใบนี้ มีสิ่งใหม่ๆ ให้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา

ผู้ใดสามารถเรียนรู้ และใช้ชีวิตเกาะตามกระแส แต่ไม่หลงไปกับกระแสนั้น

ผู้นั้น ย่อมมีชีวิตอยู่ได้อย่างสมดุล

สถานการณ์ทางสังคม เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในยุคปัจจุบันนี้ ผันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่า แปรผันไปเป็นรายวินาที จึงส่งผลกระทบต่อทุกวิถีชีวิต ทุกอาชีพ ทุกผู้คน เพราะสิ่งต่างๆ ในโลกนี้ ผูกพันเชื่อมโยงกันอย่างที่เรียกว่า Globalization ด้วยความแปรผันนี้ ทำให้ธรรมชาติของมนุษย์มีการปรับตัวไปตามความเปลี่ยนแปลงของสภาวการณ์ และการปรับตัวนี้เอง ถือว่า เป็นศักยภาพซ่อนเร้น อันทรงพลังที่ทำให้มนุษย์ ดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ได้

ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงนี้ เรียกง่ายๆ ว่า ความสามารถในการเรียนรู้ เมื่อการเรียนรู้เกิดขึ้นในชีวิตของมนุษย์ ก็ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในมิติต่างๆ ทั้งด้านวัตถุสิ่งของ สภาพแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ การเมือง การศึกษา ฯลฯ และด้านภายในจิตใจ ซึ่งมีพลวัต คือ ถูกขับเคลื่อนอยู่อย่างต่อเนื่อง กระแสความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ก่อให้เกิด “การคิดเพื่อสร้างสิ่งใหม่” และ “การล่มสลายของสิ่งเก่า” ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ถือว่าเป็นไปตามวัฏจักรธรรมชาติที่เป็นสัจธรรม คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ (เปลี่ยนแปลง) ดับสลายไป

ในปัจจุบันนี้ จะพบเห็นได้ว่า มีสิ่งใหม่ หรืออาชีพใหม่เกิดขึ้นอีกมากมาย อย่างเช่น อาชีพรับจ้างล้างรถมอเตอร์ไซค์แบบ Delivery อาชีพเน็ตไอดอล อาชีพออนไลน์ทุกชนิด อาชีพบริการด่วนๆ อาชีพที่อยู่กับบ้าน หรือแม้กระทั่งอาชีพ part-time ต่างๆ อีกด้านหนึ่งจะพบเห็นในความล่มสลายของสิ่งเก่า หรืออาชีพเก่าๆ อย่างเช่น เปิดร้านโชห่วย ร้านค้าแผงลอยหาบเร่ ฯลฯ ปรากฏการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของโลก ที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขการเรียนรู้ของมนุษย์ เพื่อจะปรับตัว หรือไม่ปรับตัวก็ตาม

ความเป็นอยู่ของมนุษย์ จึงเป็นไปตามเงื่อนไขของกระแสโลก ถ้าผู้ใดเรียนรู้ ยอมรับ ปรับตัว ก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ แต่ถ้าผู้ใด กระทำในทางตรงกันข้าม ก็จะพบกับวิกฤตต่างๆ ตามมา ในเมื่อทราบความเป็นจริงของชีวิตเยี่ยงนี้แล้ว ก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องยืนยัน ผลักดันศักยภาพความเป็นตัวเราออกมาใช้ให้เห็นถึงความสามารถที่แท้จริงว่า เราจะเป็นอะไรก็ตาม แต่ขอให้เป็นให้ดีที่สุด ซึ่งนั่นหมายความว่า จะต้องเรียนรู้ที่จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงตนเอง ให้สมดุลกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ และสิ่งสำคัญที่สุดในการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์นั้นอยู่ที่ใจ ดังพุทธภาษิตที่ว่า ทุกอย่างอยู่ที่ใจ เริ่มต้นที่ใจ สำเร็จได้ด้วยใจ

เมื่อกระแสโลกาภิวัตน์เป็นเช่นนี้ ผู้เข้าใจความจริงข้อนี้ ย่อมมีวิธีคิดและวิธีการในการครองชีวิตให้มีความสมดุลทั้งภายนอกและภายใน เทคนิคง่ายๆ หนึ่ง ในการใช้ชีวิตให้สมดุล คือ การมีนิสัยรักการเรียนรู้อยู่เสมอ ในเมื่อโลกยุคปัจจุบันเป็นโลกฐานความรู้ ความคิด เทคโนโลยี และการมีทักษะชีวิตเป็นสำคัญ การใช้ชีวิตด้วยฐานและทักษะสำคัญทั้ง 4 อย่างนั้น ก็ทำให้เกิดสมดุล ซึ่งสร้างความสุขในชีวิตได้ อย่างน้อยที่สุด ถ้ารู้วิธีการเสริมสร้างความรู้ พัฒนาความคิด รู้จักใช้เทคโนโลยี และมีทักษะชีวิตที่จำเป็น ก็ทำให้ง่ายต่อการดำเนินชีวิตและทำกิจการงานต่างๆ ตามที่เราอยากจะเป็น และขอให้เป็นให้ดีที่สุด เหมือนอย่างข้อความสำคัญในข้างหลังภาพ หนึ่งในวรรณกรรมอมตะของศรีบูรพา (ที่จารึกไว้ในความคิดของผู้เขียน) ว่า

“แม้นเรามิได้เกิดเห็นดอกซากุระ ก็อย่ารังเกียจที่เกิดเป็นบุปผาพรรณอื่นเลย

ขอแต่ให้เป็นดอกที่งามที่สุดในพรรณของเรา


ภูเขาฟูจี มีอยู่ลูกเดียว แต่ภูเขาทั้งหลายก็หาไร้ค่าไม่

แม้นมิได้เป็นซามูไร ก็จงเป็นลูกสมุนของซามูไรเถิด

เราจะเป็นกัปตันหมดทุกคนไม่ได้ ด้วยว่าถ้าปราศจากลูกเรือแล้ว เราจะไปกันได้อย่างไร

แม้เรามิอาจเป็นถนน ขอจงเป็นบาทวิถี

ในโลกนี้ มีตำแหน่งและงานสำหรับเราทุกคน งานใหญ่บ้างเล็กบ้าง

แต่เราย่อมจะมีตำแหน่ง และงานทำเป็นแน่ละ

แม้เป็นดวงอาทิตย์ไม่ได้ จงเป็นดวงดาวเถิด

แม้มิได้เกิดเป็นชาย ก็อย่าน้อยใจที่เกิดมาเป็นหญิง


จะเป็นอะไรก็ตาม จงเป็นเสียอย่างหนึ่ง


จะเป็นอะไรมิใช่ปัญหา

สำคัญอยู่ที่ว่า จงเป็นอย่างดีที่สุด ไม่ว่าเราจะเป็นอะไรก็ตาม”

ในเมื่อ ไม่สามารถบังคับหรือเปลี่ยนแปลงอะไรภายนอก ให้เป็นไปดั่งใจที่เราปรารถนาได้ทั้งหมด จึงน่าจะมีสิ่งที่ง่ายกว่านั้น คือ การเปลี่ยนแปลงตัวเอง บทสรุปแห่งความสมดุลในชีวิตทั้งด้านภายนอกและภายใน จึงเป็นศิลปะในการสร้างความสมดุลให้ชีวิต ซึ่งก็เท่ากับความสุขในชีวิตนั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น