00 ไม่ต้องสืบเลย เหตุที่“เสี่ยไก่”วัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ถูก“พี่ทหาร”บุกล้อมบ้านพัก เพื่อนำตัวไปปรับทัศนคติ มาจากการโพสต์เฟซบุ๊กล่าสุด ที่อัดตรงๆไปที่“บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ“พี่ใหญ่ คสช.”ว่า เหยียดเพศ พูดจาไม่ให้เกียรติ “คุณหนูปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกทหารบุกเข้าถ่ายภาพกลางงานศพพี่ชายร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เมื่อไม่กี่วันก่อน
00 โพสต์ที่ว่ามีคำ-วลี แรงๆในเชิงเปรียบเปรย ทั้ง“ถ่อยสถุล–ถ้าเงียบคนเค้ายังไม่รู้ว่าโง่”ที่กระแทกไปถึง“บางคน”ใครฟังก็ต้องอุทานว่า“แวร๊งงงส์!!”ยิ่งคนที่“ร้อนตัว”ว่าถูกด่า ก็ต้อง“ของขึ้น”เป็นธรรมดา แต่“บิ๊กป้อม”จะไปกล่าวหาว่า อดีตคนคุ้นเคยกันอย่าง “เสี่ยไก่” พูดเท็จ อันนี้ก็กระไรอยู่ เพราะเป็น“คำวิจารณ์”ในเรื่องที่ตัวเองพูดออกมานั่นแหละ ก่อนจะเล่นงานคนอื่น น่าจะย้อนดูตัวเองก่อน แล้วก็ไม่ต้องไปถามบรรดาลิ่วล้อประเภท "ใช่ครับพี่ ดีครับนาย สบายครับผม เหมาะสมครับท่าน" ถามไป มันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
00 แล้วก็เลิกซะทีเถอะ ประเภททำเป็นไม่รู้ ไม่ชี้ จะกักตัวที่ไหน เมื่อไรปล่อย บอกเป็นเรื่องของคสช. ก็พี่นั่งเป็น“รองหัวหน้าคสช.” อยู่ทนโท่ ถามหน่อยไม่รู้เรื่องจริงๆ หรือ ?? แบบนี้ใครกันแน่ที่“พูดเท็จ”หรือประเภทบอกเชิญมากินข้าว-จิบกาแฟ อาจจะดูเป็นเรื่องสัพยอก ขำๆ ของ “พี่ทหาร”แต่เมืองนอกเขาไม่ขำด้วย แบบนี้“คุกคาม-ละเมิดสิทธิ”กันเห็นๆ ยังไม่รวมเมื่อปีกลาย ที่ “เสี่ยไก่”ไปแจ้งความว่าถูก“ไอ้เณร”ดักทุบหัวที่สนามบอล แถวเมืองทองธานี เรื่องก็เงียบไปเลย
00 ที่ว่ามาก็ไม่ได้บอกว่า ที่ “เสี่ยไก่”พูด-โพสต์ ที่ผ่านๆ มาจะถูกต้องเหมาะสม แต่ก็ต้องเข้าใจบริบทว่า คนเขาอยู่“ฝ่ายตรงข้าม” จะให้มานั่งสรรเสริญเยินยอ คสช. มันก็กระไรอยู่ แล้วก็ต้องทำใจว่า มาอยู่สูงเด่น มีอำนาจกว่าใครเขา ก็ต้องเจอคำวิพากษ์–ข้อวิจารณ์เป็นธรรมดา เหมือนที่มีคนกล่าวไว้ว่า “คิดจะเป็นใหญ่ ใจต้องนิ่ง”ประเภท “เซนซิทีฟ”รับไม่ได้กับเสียงนกเสียงกา ก็น่าจะเลี้ยงหลานอยู่บ้านมากกว่า
00 ย้อนกลับไปเมื่อครั้ง“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปร่วมประชุมอาเซียน-สหรัฐฯ ที่เมืองมะกัน “ประธานาธิบดีโอบามา” ก็กล่าวถึงประเทศไทยว่า อยากให้มีรัฐบาลพลเรือนโดยเร็ว แถมทำการบ้านแล้วพูดเข้ากับสถานการณ์ในบ้านเราตอนนี้แบบสุดๆ ในทำนองว่า“ไม่มีผู้ใด แม้กระทั่งผู้ที่อยู่ตรงข้ามทางการเมือง ควรที่ถูกคุมตัว หรือถูกจำคุก เพียงแค่เพราะเขาพูดสิ่งที่อยู่ในใจ”นอกจากกรณี“เสี่ยไก่”หมาดๆ นี่แล้ว ก็อดย้อน
คิดไปถึง“เสี่ยแดง”พิชัย นริพทะพันธุ์ ฝ่ายเศรษฐกิจเพื่อไทย ที่ถูกคสช.ห้ามเดินทางไปร่วมงานของสภาคองเกรส ที่กรุงวอชิงตัน ไม่ได้ สะท้อนว่า “มหาอำนาจ”เขาจับตามองเราอยู่ นะท่านนะ
00 เรื่อง“ธุรกิจ”กับเรื่อง “จริยธรรม”ดูท่าจะไปกันยาก “เฮียสอ”สรยุทธ สุทัศนะจินดา นักเล่าข่าวมือหนึ่ง ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา คดียักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาจาก บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กว่า 138 ล้านบาท ก็ยังโผล่มานั่งหน้าจอ รายงานข่าวให้ “แฟนคลับ”ได้ติดตาม ทุกเช้า-เย็น เป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเกิด “กระแสกดดัน”จากทั้งคนที่เกี่ยวและไม่เกี่ยวข้อง เป็นวงกว้างในตอนนี้ ส่วนจะได้ผลอย่างไร ก็ต้องรอดู จะอะไร ยังไง ก็อย่าจริงจัง จนลืมไปว่า“คนไทยลืมง่าย”
00 ขอหยิบยกข้อสังเกตที่น่าสนใจของ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล นักจัดรายการข่าวโทรทัศน์รุ่นใหญ่ มาเล่าสู่กันฟัง“ดร.สมเกียรติ” บอกว่า เราต้องมองข้ามช็อตในส่วนของตัว“เฮียสอ”ไปก่อน แล้วโฟกัสไปที่ปัญหาใน อสมท. ทั้งระบบ ก่อนขยายผลไปที่เรื่องทุจริตในวงการโทรทัศน์ทั้งระบบ โดยเฉพาะ“แดนสนธยา”อีกแห่งที่“ททบ.5” …พูดแบบนี้ “พี่ทหาร”มีสะดุ้ง !!
00 ถ้ามองแบบ “อ.สมเกียรติ”ก็ต้องล้วงลึกลงไปในระบบบริหารของ อสมท. ที่มี“สายบัญชาการ”ชัดเจน ปล่อยให้มีการโกงค่าโฆษณาเป็นปีๆ แบบนี้ได้ยังไง ถ้าไม่รู้จริงๆ ก็เขกกะโหลก“ผู้บริหาร”แล้วถามว่า พิชชาภา เอี่ยมสะอาด ที่อดีตเป็นเพียงพนักงานคุมคิวโฆษณา อสมท.ตัวเล็กๆ จะกล้า“รับสินบน”เรื่องแบบนี้ โดยที่“ผู้บริหาร”ไม่เล่นด้วยหรือ แล้วมีใครสนใจบ้างไหมว่า หลังจาก“พิชชาภา”ถูก อสมท.ไล่ออกแล้ว ใครเลี้ยงดูปูเสื่อ หรืออยู่ดีกินดี เพราะใคร
00 คดีโกงค่าโฆษณาของ“สรยุทธ-ไร่ส้ม”ยังไม่จบ เป็นเพียงศาลชั้นต้น แต่ต้องจับตามองว่ามีการ“ซัดทอด”เพื่อฟ้องเพิ่มเติม “บิ๊ก อสมท.”หรือไม่ เรื่องนี้ “แหล่งข่าวใน อสมท.”ชี้ชัดว่า “ทุจริตไร่ส้ม”ตัวการหลักไม่ใช่ทั้ง“เฮียสอ–พิชชาภา”หรือ “ไร่ส้ม” แต่เป็น“บิ๊ก อสมท.คนหนึ่ง”ที่นั่งลุ้นใจตุ้มๆ ต่อมๆ มาเกือบ 10 ปี ให้คดีหมดอายุความ แถม“บิ๊กที่ชื่อไม่บิ๊ก”คนนี้ยังมีตำแหน่งใหญ่โต และ“ทรงอิทธิพล”อยู่ใน อสมท. อีกต่างหาก ...ไม่ควรจดจ่อไปที่ “เฮียสอ”คนเดียว จนปล่อย“คนโกงตัวจริง”ให้ลอยนวล .
00 โพสต์ที่ว่ามีคำ-วลี แรงๆในเชิงเปรียบเปรย ทั้ง“ถ่อยสถุล–ถ้าเงียบคนเค้ายังไม่รู้ว่าโง่”ที่กระแทกไปถึง“บางคน”ใครฟังก็ต้องอุทานว่า“แวร๊งงงส์!!”ยิ่งคนที่“ร้อนตัว”ว่าถูกด่า ก็ต้อง“ของขึ้น”เป็นธรรมดา แต่“บิ๊กป้อม”จะไปกล่าวหาว่า อดีตคนคุ้นเคยกันอย่าง “เสี่ยไก่” พูดเท็จ อันนี้ก็กระไรอยู่ เพราะเป็น“คำวิจารณ์”ในเรื่องที่ตัวเองพูดออกมานั่นแหละ ก่อนจะเล่นงานคนอื่น น่าจะย้อนดูตัวเองก่อน แล้วก็ไม่ต้องไปถามบรรดาลิ่วล้อประเภท "ใช่ครับพี่ ดีครับนาย สบายครับผม เหมาะสมครับท่าน" ถามไป มันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
00 แล้วก็เลิกซะทีเถอะ ประเภททำเป็นไม่รู้ ไม่ชี้ จะกักตัวที่ไหน เมื่อไรปล่อย บอกเป็นเรื่องของคสช. ก็พี่นั่งเป็น“รองหัวหน้าคสช.” อยู่ทนโท่ ถามหน่อยไม่รู้เรื่องจริงๆ หรือ ?? แบบนี้ใครกันแน่ที่“พูดเท็จ”หรือประเภทบอกเชิญมากินข้าว-จิบกาแฟ อาจจะดูเป็นเรื่องสัพยอก ขำๆ ของ “พี่ทหาร”แต่เมืองนอกเขาไม่ขำด้วย แบบนี้“คุกคาม-ละเมิดสิทธิ”กันเห็นๆ ยังไม่รวมเมื่อปีกลาย ที่ “เสี่ยไก่”ไปแจ้งความว่าถูก“ไอ้เณร”ดักทุบหัวที่สนามบอล แถวเมืองทองธานี เรื่องก็เงียบไปเลย
00 ที่ว่ามาก็ไม่ได้บอกว่า ที่ “เสี่ยไก่”พูด-โพสต์ ที่ผ่านๆ มาจะถูกต้องเหมาะสม แต่ก็ต้องเข้าใจบริบทว่า คนเขาอยู่“ฝ่ายตรงข้าม” จะให้มานั่งสรรเสริญเยินยอ คสช. มันก็กระไรอยู่ แล้วก็ต้องทำใจว่า มาอยู่สูงเด่น มีอำนาจกว่าใครเขา ก็ต้องเจอคำวิพากษ์–ข้อวิจารณ์เป็นธรรมดา เหมือนที่มีคนกล่าวไว้ว่า “คิดจะเป็นใหญ่ ใจต้องนิ่ง”ประเภท “เซนซิทีฟ”รับไม่ได้กับเสียงนกเสียงกา ก็น่าจะเลี้ยงหลานอยู่บ้านมากกว่า
00 ย้อนกลับไปเมื่อครั้ง“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปร่วมประชุมอาเซียน-สหรัฐฯ ที่เมืองมะกัน “ประธานาธิบดีโอบามา” ก็กล่าวถึงประเทศไทยว่า อยากให้มีรัฐบาลพลเรือนโดยเร็ว แถมทำการบ้านแล้วพูดเข้ากับสถานการณ์ในบ้านเราตอนนี้แบบสุดๆ ในทำนองว่า“ไม่มีผู้ใด แม้กระทั่งผู้ที่อยู่ตรงข้ามทางการเมือง ควรที่ถูกคุมตัว หรือถูกจำคุก เพียงแค่เพราะเขาพูดสิ่งที่อยู่ในใจ”นอกจากกรณี“เสี่ยไก่”หมาดๆ นี่แล้ว ก็อดย้อน
คิดไปถึง“เสี่ยแดง”พิชัย นริพทะพันธุ์ ฝ่ายเศรษฐกิจเพื่อไทย ที่ถูกคสช.ห้ามเดินทางไปร่วมงานของสภาคองเกรส ที่กรุงวอชิงตัน ไม่ได้ สะท้อนว่า “มหาอำนาจ”เขาจับตามองเราอยู่ นะท่านนะ
00 เรื่อง“ธุรกิจ”กับเรื่อง “จริยธรรม”ดูท่าจะไปกันยาก “เฮียสอ”สรยุทธ สุทัศนะจินดา นักเล่าข่าวมือหนึ่ง ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา คดียักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาจาก บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กว่า 138 ล้านบาท ก็ยังโผล่มานั่งหน้าจอ รายงานข่าวให้ “แฟนคลับ”ได้ติดตาม ทุกเช้า-เย็น เป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเกิด “กระแสกดดัน”จากทั้งคนที่เกี่ยวและไม่เกี่ยวข้อง เป็นวงกว้างในตอนนี้ ส่วนจะได้ผลอย่างไร ก็ต้องรอดู จะอะไร ยังไง ก็อย่าจริงจัง จนลืมไปว่า“คนไทยลืมง่าย”
00 ขอหยิบยกข้อสังเกตที่น่าสนใจของ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล นักจัดรายการข่าวโทรทัศน์รุ่นใหญ่ มาเล่าสู่กันฟัง“ดร.สมเกียรติ” บอกว่า เราต้องมองข้ามช็อตในส่วนของตัว“เฮียสอ”ไปก่อน แล้วโฟกัสไปที่ปัญหาใน อสมท. ทั้งระบบ ก่อนขยายผลไปที่เรื่องทุจริตในวงการโทรทัศน์ทั้งระบบ โดยเฉพาะ“แดนสนธยา”อีกแห่งที่“ททบ.5” …พูดแบบนี้ “พี่ทหาร”มีสะดุ้ง !!
00 ถ้ามองแบบ “อ.สมเกียรติ”ก็ต้องล้วงลึกลงไปในระบบบริหารของ อสมท. ที่มี“สายบัญชาการ”ชัดเจน ปล่อยให้มีการโกงค่าโฆษณาเป็นปีๆ แบบนี้ได้ยังไง ถ้าไม่รู้จริงๆ ก็เขกกะโหลก“ผู้บริหาร”แล้วถามว่า พิชชาภา เอี่ยมสะอาด ที่อดีตเป็นเพียงพนักงานคุมคิวโฆษณา อสมท.ตัวเล็กๆ จะกล้า“รับสินบน”เรื่องแบบนี้ โดยที่“ผู้บริหาร”ไม่เล่นด้วยหรือ แล้วมีใครสนใจบ้างไหมว่า หลังจาก“พิชชาภา”ถูก อสมท.ไล่ออกแล้ว ใครเลี้ยงดูปูเสื่อ หรืออยู่ดีกินดี เพราะใคร
00 คดีโกงค่าโฆษณาของ“สรยุทธ-ไร่ส้ม”ยังไม่จบ เป็นเพียงศาลชั้นต้น แต่ต้องจับตามองว่ามีการ“ซัดทอด”เพื่อฟ้องเพิ่มเติม “บิ๊ก อสมท.”หรือไม่ เรื่องนี้ “แหล่งข่าวใน อสมท.”ชี้ชัดว่า “ทุจริตไร่ส้ม”ตัวการหลักไม่ใช่ทั้ง“เฮียสอ–พิชชาภา”หรือ “ไร่ส้ม” แต่เป็น“บิ๊ก อสมท.คนหนึ่ง”ที่นั่งลุ้นใจตุ้มๆ ต่อมๆ มาเกือบ 10 ปี ให้คดีหมดอายุความ แถม“บิ๊กที่ชื่อไม่บิ๊ก”คนนี้ยังมีตำแหน่งใหญ่โต และ“ทรงอิทธิพล”อยู่ใน อสมท. อีกต่างหาก ...ไม่ควรจดจ่อไปที่ “เฮียสอ”คนเดียว จนปล่อย“คนโกงตัวจริง”ให้ลอยนวล .