ผู้จัดการรายวัน360-กกต. มติเอกฉันท์ เดินหน้าฟ้อง "ยิ่งลักษณ์-แกนนำ กปปส." เรียกเงินค่าเสียหายรวม 4,800 ล้าน กรณีล้มเลือกตั้ง 2 ก.พ.57
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้พิจารณาโดยลับ กรณีการยื่นฟ้องดำเนินคดีกับบุคคลและกลุ่มบุคคลที่ขัดขวางการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2557 จนเป็นเหตุให้การเลือกตั้งต้องเป็นโมฆะ และทำให้เกิดความเสียหายกับรัฐ โดยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ดำเนินคดีฟ้องทางอาญา และเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับบุคคลและกลุ่มบุคคลที่ล้มการเลือกตั้งในวันดังกล่าว
ทั้งนี้ จะดำเนินการฟ้องร้องกับ 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มบุคคลจำนวน 234 คน ที่ขัดขวางการเลือกตั้งทุกกลุ่ม ที่มีหลักฐานภาพถ่าย สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ว่าเป็นใคร ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. รวมถึงแกนนำอย่าง นายถาวร เสนเนียม นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และพระพุทธะอิสระ เป็นต้น โดยมีการเรียกค่าเสียหาย 2,400 ล้านบาท
2.ให้ดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่งกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ 1 ราย คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเงิน 2,400 ล้านบาท ในความผิดฐานละเมิดปฏิบัติหน้าที่ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ตาม พ.ร.บ.ความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 เนื่องจากปล่อยให้มีการจัดการเลือกตั้ง ทั้งที่มีการทักท้วงกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากมีมติดังกล่าวแล้ว กกต. ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้ดำเนินการตามขั้นตอนของข้อกฎหมายต่อไป ซึ่งคดีดังกล่าว จะมีอายุความ 10 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นดังกล่าว ไม่มีการแถลงข่าวจากสำนักงาน กกต. แต่อย่างใด เนื่องจากที่ประชุม กกต.ได้มีการกำชับไม่ให้มีการเพยแพร่กับสื่อมวลชน เพราะเกรงว่าจะเป็นการสร้างประเด็นความขัดแย้งเกิดขึ้นในสังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้พิจารณาโดยลับ กรณีการยื่นฟ้องดำเนินคดีกับบุคคลและกลุ่มบุคคลที่ขัดขวางการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2557 จนเป็นเหตุให้การเลือกตั้งต้องเป็นโมฆะ และทำให้เกิดความเสียหายกับรัฐ โดยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ดำเนินคดีฟ้องทางอาญา และเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับบุคคลและกลุ่มบุคคลที่ล้มการเลือกตั้งในวันดังกล่าว
ทั้งนี้ จะดำเนินการฟ้องร้องกับ 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มบุคคลจำนวน 234 คน ที่ขัดขวางการเลือกตั้งทุกกลุ่ม ที่มีหลักฐานภาพถ่าย สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ว่าเป็นใคร ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. รวมถึงแกนนำอย่าง นายถาวร เสนเนียม นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และพระพุทธะอิสระ เป็นต้น โดยมีการเรียกค่าเสียหาย 2,400 ล้านบาท
2.ให้ดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่งกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ 1 ราย คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเงิน 2,400 ล้านบาท ในความผิดฐานละเมิดปฏิบัติหน้าที่ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ตาม พ.ร.บ.ความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 เนื่องจากปล่อยให้มีการจัดการเลือกตั้ง ทั้งที่มีการทักท้วงกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากมีมติดังกล่าวแล้ว กกต. ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้ดำเนินการตามขั้นตอนของข้อกฎหมายต่อไป ซึ่งคดีดังกล่าว จะมีอายุความ 10 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นดังกล่าว ไม่มีการแถลงข่าวจากสำนักงาน กกต. แต่อย่างใด เนื่องจากที่ประชุม กกต.ได้มีการกำชับไม่ให้มีการเพยแพร่กับสื่อมวลชน เพราะเกรงว่าจะเป็นการสร้างประเด็นความขัดแย้งเกิดขึ้นในสังคม