แกนนำ กปปส.เชื่อการเคลื่อนไหวไปอุทยานราชภักดิ์แกนนำแก๊งแดง หวังสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งรอบใหม่ เล่นงาน คสช.เพื่อกลบกระแสทุจริตจำนำข้าว ชี้ให้เห็นระบอบทักษิณยังไม่หยุด จี้ คสช.เคลียร์ปมราชภักดิ์ให้ชัด ระบุ นปช.ถนัดเคลื่อนไหวแบบคาบลูกคาบดอกทำให้เกิดความขัดแย้งในใจตลอด
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการกระทำของนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 30 พ.ย. และถูกทหารรวบตัวที่ อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีหน้าที่ในการรักษาความสงบของบ้านเมือง เพราะเป็นวัตถุประสงค์ในการยึดอำนาจ และต้องการที่จะไม่ให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จะไปสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งขึ้นอีก ขณะเดียวกัน ทางฝั่งของ นปช.ก็เห็นได้ชัดว่ามีวัตถุประสงค์ในการที่จะเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง ที่ตนเองจะได้ประโยชน์จากความขัดแย้งนี้ยังดำรงอยู่
“ถามว่า จตุพรกับณัฐวุฒิ และคนใน นปช.ทราบหรือไม่ว่าการดำเนินการเช่นนี้ฝ่ายความมั่นคงก็จะต้องมีการรายงานให้ทราบ แต่ก็ตั้งใจที่จะทำให้เหตุการณ์เกิดขึ้น ผมถือว่าเขายังดำรงเป้าหมายในการเคลื่อนไหวอยู่ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าภารกิจที่ คสช.ทำกระทบต่อการเคลื่อนไหวของ นปช.มาโดยตลอด เพราะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ แต่พอถึงจุดจุดหนึ่งก็พยายามที่จะสร้างประเด็น ก็จะเป็นไปตามที่เคยมีโพลว่า หากมีการเคลื่อนไหวแบบนี้ก็จะกระทบต่อโรดแมป แสดงว่าเวลานี้สังคมไทย ยังไม่มีความสงบเรียบร้อย ยังมีคลื่นใต้น้ำที่เคลื่อนไหวตลอด ทาง กปปส.ถือว่ามาถึงจุดที่ คสช.เข้ามาทำหน้าที่ปฏิรูป เราก็ยุติการเคลื่อนไหวในลักษณะนั้น แต่ระบอบทักษิณยังไม่หยุด คิดว่าหากเป็นเช่นนี้ก็เป็นหน้าที่ คสช.จะต้องไปดำเนินการ แต่ความฉลาดแกมโกงของ นปช.คือ ถนัดเคลื่อนไหวที่คาบลูกคาบดอก หมิ่นเหม่ ทำให้เกิดความรู้สึกขัดแย้งในใจตลอดเวลา ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ที่ คสช.ต้องให้ชัดก็จะสามารถแยกออกจากการเคลื่อนไหวที่มีเป้าหมายทางการเมืองได้”
นายสาทิตย์กล่าวว่า หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดนเรื่องคดีรับจำนำข้าว และเมื่อนายทักษิณ ชินวัตร ใส่เสื้อแดงก็เป็นการแสดงสัญญาณ การลุกฮือของคนเสื้อแดงและกลุ่ม นปช. และแม้แต่ขอนแก่นโมเดลก็โยงส่วนหนึ่งถึงกลุ่มคนเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ปฏิเสธกันไม่ได้ เพราะทนายที่ไปดูแลก็เป็นทนายของ นปช. เพราะฉะนั้น การที่บอกว่า คสช.หรือรัฐบาลใช้อำนาจเด็ดขาดหรือไม่เด็ดขาดนั้น หลายคนบอกว่าบ้านเมืองสงบขึ้น แต่ก็มีกลุ่มหนึ่งที่ไม่ต้องการความสงบ จึงพยายามหาหนทางเคลื่อนไหว จึงต้องแยกให้ออกจากเรื่องของอุทยานราชภักดิ์ และสังคมไทยต้องไม่ลืมด้วยว่า การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายที่ต้องการเล่นงาน คสช.โดยการหยิบเรื่องอุทยานฯ มา แต่ตัวเองกลับหนีไม่พ้นเรื่องจำนำข้าว ในฐานะคนไทยต้องแยกและมองเรื่องออกมาให้ชัด