xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เจ้าชายอับดุล มาทีน ขวัญใจสาวไทยคนใหม่ “ทรงพระแซ่บ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ชะนีไทย(แท้-เทียม)กรี๊ดแอนด์เกรียนหนักมากด้วยการพากันกระโจนเข้าอินสตาแกรมส่วนพระองค์ของ 'เจ้าชายอับดุล มาทีน' เจ้าฟ้าชายลำดับที่ 4แห่งราชวงศ์บรูไน หนึ่งในเชื้อพระวงศ์ที่ฮอตที่สุดในโลก กระหน่ำโพสต์แทะโลมกันแบบไม่ลืมหูลืมตาด้วยหลงใหลได้ปลื้มในพระสิริโฉมและพระจริยวัตรงอันดงามของเจ้าชายต่างแดน ผู้ครอง นิยาม ‘Prince Charming’

เดจาวู! ปราฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก เพราะเมื่อปี 2549 เกิดกระแส 'เจ้าชายจิกมีฟีเวอร์' มกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่หัวใจตุ๊มๆ ต่อมๆ กันมาแล้ว

หลังการปรากฏกายของเจ้าชายอับดุล มาทีน ความนิยมของพระองค์ในประเทศไทยแรงเสียยิ่งกว่าสัญญาณ 4Gโดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย เก้งกวางบ่างชะนีแห่แหนเข้าอินสตาแกรมส่วนพระองค์ของเจ้าชายฯ ที่ใช้ชื่อว่า Mateen (https://www.instagram.com/tmski) กันจ้าละหวั่น ล่าสุด กด Follow มีผู้ติดตามพระองค์นับแสนรายแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 25/2/59 ยอดผู้ติดตาม199,612 คน )

ขณะที่เจ้าชายรูปงามแผลงศรรักปักอก เกรียนไทยคละเพศต่างพากันกรูเข้าไปแผลงฤทธิ์โพสต์หยอดคำหวานและแทะโลมในอินสตาแกรมส่วนพระองค์ แถมโพสต์ข้อความโต้งๆ เป็นภาษาไทย โดยไม่ได้สนใจว่าเจ้าชายอับดุล มาทีนคือเชื้อพระวงศ์แห่งบรูไนเลยแม้แต่น้อย

หนักไปกว่านั้นบรรดาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์บางรายเหิมเกริมถึงขั้นเข้าไปโพสต์ฝากร้าน ไม่ต่างจากปรากฏการณ์ในอินสตาแกรมดาราเซเลบในเมืองไทยที่มักโดนฝากร้านอ่วมอรทัยจนต้องโพสต์ตอบโต้ว่า “งดฝากร้าน”

ปรากฏการณ์ กรี๊ดแอนด์เกรียนหนักมากของคนไทยบางรายในอินสตาแกรม เจ้าชายอับดุล มาทีน ตกเป็นประเด็นร้อนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักในโซเชียลมีเดีย แน่นอน งานนี้คนไทยค่อนประเทศโดนต่างชาติติติงแบบเหมาร่วม เพราะพฤติกรรมขาดสติของชะนีแท้ชะนีเทียมที่ดันไปคอมเมนต์คลั่งไคล้ในความงดงามของเจ้าชายแบบหนักมาก

ทั้งนี้ พระองค์ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเชื้อพระวงศ์ที่ฮอตที่สุดในโลก เป็นเจ้าของหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มชวนหลงใหล และได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างของความสมบูรณ์แบบ 'Prince Charming'

สำหรับพระราชประวัติข้อมูลเปิดเผยว่า เจ้าชายอับดุล มาทีน เจ้าฟ้าชายลำดับที่ 4แห่งราชวงศ์บรูไน ประสูติเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2534 ปัจจุบัน มีพระชันษา 24 ปี พระองค์ทรงเป็นอดีตนักเรียนนายร้อยโรงเรียนนายร้อยทหารบกแซนด์เฮิร์ซ โรงเรียนทหารชื่อดังของโลกจากเกาะอังกฤษ และเพิ่งสำเร็จการศึกษาเกียรตินิยม ด้านการเมืองระหว่างประเทศ จากคิง คอลเลจ ยูนิเวอร์ซิตี้

ปัจจุบันพระองค์ทรงมีภารกิจสำคัญ คือช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจพระราชบิดา สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ ด้านงานการกุศลต่างๆ

ส่วนชื่อหรือพระนามของพระองค์นั้น ชัยวัฒน์ มีสันฐาน นักวิชาการด้านมลายูศึกษา ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับพระนามของเจ้าชาย Abdul Mateen ว่าแท้จริงแล้วพระนามเต็มของพระองค์ในภาษามลายูคือ Yang Teramat Mulia Paduka Seri Pengiran Muda Abdul Mateen ibni Sultan Haji Hassanal Bolkiah ซึ่งอ่านเป็นไทยได้ว่า ยัง-เติร-อามัต-มูลียา ปาดูกา-เซอรี-เปงีรัน-มูดา อับดุล-มาตีน อิบนิ-สุลต่าน-ฮายี-ฮาซานัน-โบลกียะห์ และให้รายละเอียดผ่านเฟซบุ๊ก Chaiwat Meesanthan ไว้ดังนี้
“Yang Teramat Mulia Paduka Seri Pengiran Muda Abdul Mateen ibni Sultan Haji Hassanal Bolkiah
“ (1. Yang Teramat Mulia) (2. Paduka Seri Pengiran Muda) (3. Abdul Mateen) ( 4. ibni Sultan Haji Hassanal Bolkiah)

“อ่านว่า (1.ยัง-เติร-อามัต-มูลียา) (2. ปาดูกา-เซอรี-เปงีรัน-มูดา) (3.อับดุล-มาตีน) #ขอย้ำนะครับว่าชื่อของพระองค์คืออับดุลมาตีน (4. อิบนิ-สุลต่าน-ฮายี-ฮาซานัน-โบลกียะห์)

“หมายเหตุ

“วงเล็บ 1. คือคำนำหน้าพระนามเพื่อให้เกียรติ ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า His Royal Highness ครับ

“วงเล็บ 2. เป็นฐานันดรศักดิ์ของพระองค์ครับ ในภาษาอังกฤษคือ Prince

“วงเล็บ 3. เป็นชือของพระองค์ครับ Mateen แปลว่า มั่นคง มาจากภาษาอาหรับครับ ส่วน Abdul Mateen แปลว่า บ่าวของผู้ที่ไม่มีวันอ่อนล้า (หรือพระเจ้านั่นเองครับ) (Cr. ความหมาย Ameen Ameeni)

“วงเล็บ 4. เป็นชื่อครอบครัวหรือ Family name ซึ่งในวัฒนธรรมมลายูจะใช้ชื่อพ่อเป็นชื่อครอบครัวครับ ดังนั้นในกรณีของพระองค์จึงใช้พระนามของพระราชบิดามาเป็นชื่อครอบครัวครับ ibni เป็นภาษาอาหรับแปลว่า "เป็นบุตรของ"

“แอบปลื้มแล้วก็เรียกชื่อพระองค์ให้ถูกหน่อยนะครับ......”

เจ้าชายอับดุล มาทีน ทรงโปรดด้านกีฬาเป็นพิเศษ เรียกว่าทรงเชี่ยวชาญในกีฬาหลากหลายประเภท อาทิ กีฬาขี่ม้าโปโล ที่เพิ่งเสด็จมาแข่งขันที่ประเทศไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กีฬาแบดมินตัน ซึ่งพระองค์เข้าร่วมแข่งขันในศึกแบดมินตัน แชมเปี้ยนชิพ คัพ ในประเทศบรูไน กีฬาฟุตบอล ซึ่งทรงเป็นผู้เล่นของทีมบรูเนียน ฟุตบอล ทีม เอเอ็ม กันเนอร์ส ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ นอกจากนี้ยังมีเล่นกีฬาต่อยมวย ตีกอล์ฟ ยิ่งธนู รวมทั้งกีฬาเอ็กซ์ตรีม อาทิ เล่นเซิร์ฟ, ขับรถเอทีวี, กระโดดร่ม ฯลฯ

เรื่องราวของพระองค์ได้รับการเปิดเผยผ่านนิตยสาร GQ Thailand โดย พอล สุจริตกุล ได้เผยแพร่เรื่องราวของเจ้าชายอับดุล ว่า เมื่อต้นปี 2559พระองค์ทรงเสด็จมาเยือนกรุงเทพฯ เพื่อร่วมการแข่งขันโปโลAll Asia Cup 2016 ความว่า

“เจ้าชายอับดุล มาทีน เจ้าฟ้าชายลำดับที่สี่แห่งราชวงศ์บรูไน และทรงติดอันดับหนึ่งในเชื้อพระวงศ์ที่ฮอตที่สุดในโลก เจ้าชายมาทีนมีพระชันษา 24 ชันษา ทรงเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่สุดของคำว่า ‘Prince Charming’ ทรงฉลองพระองค์ด้วยสีเทาคลาสสิก สูทสามชิ้นทาบทับเชิ้ตขาวอ๊อกซ์ฟอร์ด พระเกศาได้รับการจัดแต่งทรงมาเป็นอย่างดี ตั้งแต่พระเศียรจรดพระบาท พูดได้เลยว่า ‘ทรงหล่อ’ อย่างน่าประทับใจ ไม่น่าแปลกใจที่พระองค์จะกลายเป็น ‘Talk of the Town’ ในหมู่สาวไฮโซเมืองไทยในทันทีที่เสด็จถึงกรุงเทพฯ เพื่อร่วมการแข่งขันโปโล All Asia Cup 2016 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา”

โดยพระองค์ได้ประทานสัมภาษณ์พิเศษแก่นิตยสารดัง GQ Thailand (คอลัมน์ Sport Interview ประจำฉบับเดือนเมษายน 2559) เกี่ยวกับความสนพระทัยอันลึกซึ้งในกีฬาโปโล ไลฟ์สไตล์ส่วนพระองค์ด้วย โดยตอบคำถามถึงสาเหตุของความหลงใหลในกีฬาโปโล ความว่า

“ปัจจัยเสี่ยงทั้งหลายและความซับซ้อนของเกมนี้แหละที่ทำให้ผมหลงใหล คิดดูสิ มือซ้ายของคุณต้องคุมสัตว์ป่าชนิดหนึ่งที่อยู่ใต้ตัวคุณ ส่วนมือขวาต้องควบคุมไม้ตีลูกให้ได้ และต้องเหวี่ยงวงสวิงให้แม่นยำสุดๆ ด้วย ดังนั้นคุณจึงจำเป็นจะต้องดุดันและต้องนิ่งสงบให้ได้ในเวลาเดียวกัน ยากมาก นี่แหละเสน่ห์ของโปโลที่ท้าทายผม”

พระองค์ทรงเล่นกีฬาโปโลมาได้ครึ่งปีแล้ว โดยกล่าวถึงการแข่งขันโปโลในเมืองไทย “จริงๆ แล้วนี่ก็เป็นการแข่งครั้งแรกของผม และผมก็ไม่เคยร่วมการแข่งอย่างเป็นทางการที่ประเทศตัวเองมาก่อน มันก็เลยเปรียบเทียบยากหน่อย แต่การลงแข่งจริงกับการฝึกซ้อมนี่ต่างกันมากเลย การแข่งจริงนั้นเข้มข้นและดุเดือดกว่าเยอะ มีแท็กติกต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่แค่เรื่องวงสวิง แต่ยังรวมถึงวิธีการนั่ง การวางตัว ตำแหน่งของคุณ และการวางตัวแต่ละคนในทีม มันเป็นเกมที่ตื่นเต้นคนละเรื่องกับตอนซ้อมเลยล่ะ”

บทสัมภาษณ์สะท้อนถึงเสน่ห์และความเรียบง่าย เจ้าชายกล่าวด้วยไมตรีถึงกิจกรรมส่วนพระองค์ในแต่ละวัน “พูดตรงๆ ชีวิตผมไม่ค่อยต่างจากคนอื่นหรอก เช่น ผมเองยังเรียนมหาวิทยาลัย ผมก็ต้องเข้าคลาส เรียนเสร็จ กลับบ้าน พักผ่อน กินมื้อค่ำ ดูแอปเปิลทีวี และก็...แค่นั้นแหละ! ไม่มีอะไรแตกต่าง เพียงแต่บางครั้งผมก็ต้องไปปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่บ้าง นั่นแหละครับชีวิตเรียบง่ายของผม”

ดูเหมือนสไตล์การแต่งตัวของพระองค์จะเสริมภาพลักษณ์ได้เป็นอย่างดี เจ้าชายประทานสัมภาษณ์แก่นิตยสารดังต่อไป ความว่า

“สไตล์ส่วนตัวของผมก็สะท้อนชีวิตผม นั่นก็คือคำว่าเรียบง่าย ผมชอบใส่เสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์ และเวลาต้องออกงานอย่างเป็นทางการก็ใส่สูท แค่นั้นเอง”

โดยทิ้งทายถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับเมืองไทย ความว่า “ผมว่าเมืองไทยมีคาแร็กเตอร์หลากหลายดีนะ ผมชอบมากเลยที่ได้มาที่นี่ และได้พักอยู่ตั้งสองอาทิตย์ คนไทยจริงใจ เป็นมิตร และมีความเคารพให้เกียรติกัน ที่สำคัญ อาหารอร่อยมาก โดยเฉพาะ ‘ลาบ’ ผมชอบกินเผ็ดๆ เพราะฉะนั้นก็เลยชอบอาหารไทยมากเป็นพิเศษ” ซึ่งนั่นเป็นที่มาของคำว่า “ทรงพระแซ่บ” ที่สาวไทยจำนวนไม่น้อยให้คำจำกัดความพระองค์

และบอกฝากบอกคนไทยทั้งประเทศผ่านบทสัมภาษณ์ว่า “อยากบอกว่าขอบคุณทุกๆ คนสำหรับความมีน้ำใจ การดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ผมมีช่วงเวลาที่สุดยอดมากที่นี่ และผมจะกลับมาอีกแน่นอน”

รวมทั้งคำถามเรื่องหัวใจที่สาวๆ ใคร่รู้ พระองค์ทรงเปิดเผยถึง คุณสมบัติหญิงสาวที่จะมาเป็นเจ้าหญิงของพระองค์ในอนาคต

“อืม... ตอบสั้นๆ ได้เลยว่าผมมองหาใครสักคนที่มีความจริงใจและเป็น ‘ของแท้’ ผมหมายถึงผู้หญิงที่เรียบง่ายอย่างแท้จริง แค่นั้นแหละสเปกผม (ยิ้ม)”

อย่างไรก็ตาม ภายในอินสตาแกรมส่วนพระองค์ Mateen (https://www.instagram.com/tmski) เผยอิริยาบถหลากหลายอันเป็นไลฟ์สไตล์ส่วนพระองค์ งานนี้แอบสังเกตเห็นว่านอกจากพระองค์จะชื่นชอบในออกกำลังกายเล่นกีฬาแล้ว ยังมีภาพของพระองค์ถ่ายคู่กับแมวอยู่หลายภาพด้วยกัน งานนี้จึงเข้าใจได้ว่าเจ้าชายรูปงามทรงเป็น ผู้ชายเป็นทาสแมว ซึ่งเป็นไลฟสไตล์ที่ได้รับความสนใจจากคนไทยเข้าไปคอมเมนต์จำนวนนึง

สำหรับคนไทยที่เข้าไปคอมเมนต์ในอินสตาแกรมส่วนพระองค์ของเจ้าชายมีมากมายหลายรูปแบบ เช่น

noozuzii : เห็นครั้งแรกแล้วชอบเลยคะ

paatiiz_babo : ทรงพระเป๊ะมากคะ

youk2endoo : อยากไปอยู่บรูไนสะแล้วชิ

foo_mong: เจ้าชายทรงพระขี้เล่นมากเลย ทรงพระน่ารักมุ้งมิ้ง

nongnongg_04 เจ้าหญิงอยู่นี่เพค่ะฝ่าบาท 5555

beekhem1980 : ดิฉันว่าพระองค์ น่าจะชอบส้มตำ ลาบ ไก่ย่าง อาหารอีสานบ้านของหม่อมฉันนะเพค่ะ แซบหลายเด๋อค่ะ

p_ployy555 : หม่อนฉันทำอาหารรสจัดเก่งเพคะ, ทรงพระหล่อล้ำมากเพคะ โอ้ยยยยยฟินนนนนน

gentleman_shopp : ทรงพระแซ่บมากเพคะ #รองเท้าแบรนด์เนมผู้ชาย งานสวยคุณภาพสูงสุดใน3จักรวาล #คนไทยจ๋ามาฟอลกันหน่อย

ขณะที่บางคนก็เข้าไปโพสต์ขอประทานอภัยถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่เพื่อนร่วมชาติเข้าไปคอมเมนต์ก่อนกวนในอินสตาแกรมส่วนพระองค์ อาทิ wuin_wilaiwan : ทรงดูสง่าและงดงามมาก ทรงพระเจริญเพคะ ทรงอย่าถือสาหญิงไทยคนนั้นเลยนะเพคะ จริงๆ แล้วคนไทยน่ารักยิ้มเก่งประเทศไทยสวยงามมากนะเพคะ

คงต้องคอยจับตากันต่อไปว่ากระแสคลั่งไคล้ เจ้าชายอับดุล มาทีน ในประเทศไทยจะเป็นอย่างไร หากจะเดาก็ขอเดาว่าคงไม่ต่างจากเมื่อครั้งกระแสเจ้าชายจิกมีฟีเวอร์ ซึ่งปัจจุบันขึ้นครองราชเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏานไปแล้ว

พลิกหน้าประวัติศาสตร์ย้อนกลับไปเมื่อปี 2549 จะเห็นว่าการเสด็จเยือนประเทศไทยของ มกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ชาวไทยให้การตอบรับที่ดีมาก เนื่องด้วยพระจริยวัตรงดงามสร้างความประทับใจแก่คนไทยทั้งประเทศ

เจ้าชายจิกมีฟีเวอร์ เมื่อครั้ง 26 ชันษา ยังทรงครองพระองค์เป็นโสด มีสิริโฉมที่หล่อเหลา สไตล์ขาวตี๋ซึ่งกำลังอินเทรนด์ ทรงมีพระอัธยาศัยดีมากโดยปรากฏให้เห็นอย่างสม่ำเสมอขณะที่เสด็จพระราชดำเนินในประเทศไทย จะทรงยกพระหัตถ์ไหว้ทักทายผู้คนพร้อมมอบรอยยิ้มขยี้ใจสาวน้อยสาวใหญ่จนเกิดเป็นกระแสอยู่พักใหญ่ ทั้งพระองค์ ยัง ทรงแสดงความเคารพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขอยึดแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแบบอย่างในการพัฒนาอาณาจักรภูฏาน ซึ่งสร้างความปลื้มปีติแก่ชาวไทยอย่างมาก

แม้กระทั่งสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ได้ทำการสำรวจในหัวข้อเรื่อง 'ความปลื้มปีติ ประทับใจของคนไทยต่อพระราชอาคันตุกะที่เสด็จร่วมงานเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปีของในหลวง : กรณีศึกษาประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล' พบว่า 70.4 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ถูกสำรวจ 1,591 คน ตอบตรงกันว่ามีความประทับใจเป็นพิเศษเพิ่มเติมในพระราชอาคันตุกะจากราชอาณาจักรภูฏาน ด้วยเหตุผลว่าทรงมีจริยวัตรงดงาม ไม่ทรงถือพระองค์ เป็นกันเอง และยังเห็นว่าประทับใจที่ทรงมีพระสิริโฉมงดงาม

ต่อมา ปี 2554พระองค์เข้าสู่พระราชพิธีอภิเษกสมรสรกับหญิงสามัญชนอย่างเรียบง่าย และสมพระเกียรติตามแบบฉบับโบราณราชประเพณี ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางเฟซบุ๊ก Jetsun Pema ได้มีการเผยแพร่ภาพ เจ้าชายน้อยแห่งภูฏาน (สมเด็จพระราชินีทรงมีพระประสูติกาล 5 กุมภาพันธ์ 2559) โอรสของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และ สมเด็จพระราชินีเจ็ตซุน เพมา ฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกัน ณ พระราชวังลิงคานา

ด้วยเหตุดังกล่าวจึงทำให้กระแสความนิยมหรือความฟีเวอร์ในตัวกษัตริย์จิกมีสร่างซาลงไปตามกาลเวลา และเมื่อ 'เจ้าชายอับดุล มาทีน” ปรากฏตัว กระแสเจ้าแซ่บบอกต่อเจ้าชายหล่อบอกด้วย จึงโหมกระพือวี้ดวิ้วกระหึ่มในหัวใจสาวไทยขึ้นมาอีกครั้ง





















กำลังโหลดความคิดเห็น