เมื่อเวลา13.30น. วานนี้ (18ก.พ.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางกลับจากประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ถึงกระแสต่างชาติกดดันไทยในเรื่องประชาธิปไตย ที่ปรากฏตามสื่อโซเชียลมีเดียว่า "ใครกดดัน เขากดดันผม หรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมไม่กล้ากลับมา แล้วก็ไม่กล้าไปด้วย คนเขามีมารยาทเพียงพอและอีกอย่างเขาเห็นว่าอาเซียนเป็นภูมิภาคที่สำคัญในโลกใบนี้ เราเป็นส่วนหนึ่งของอาเซียน ฉะนั้นเขาแยกแยะกันออก"
นายกฯ กล่าวว่าหลายเรื่องมีความก้าวหน้าด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ตนเห็นเขาก็คุยดีด้วยทั้งนั้น โดยนายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็ให้กำลังใจ เมื่อทราบว่าบ้านเรากำลังเดินหน้าเรื่องประชาธิปไตย ก็ขอให้มีความสำเร็จ เขาไม่ได้มากดดันว่าต้องทำให้เร็ว ทำเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นจะถูกลงโทษ เรื่องแบบนี้ไม่มี มีแต่คนไทยที่พยายามให้เป็นแบบนั้น ตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไม ในเมื่อเราต้องการปฏิรูปประเทศ เราก็ต้องเคารพกติกาสากล
"การเป็นประชาธิปไตย เราก็ต้องมีขั้นตอนของเรา แล้วทำไมเราต้องกดดันกันเอง ผมก็ไม่เห็นเขารังเกียจรังงอนอะไรผม แต่อาจจะมีบางคนต้องเสียใจ เพราะคิดว่าอาจจะไม่ได้จับมือ เขาก็จับผมแน่น เขามีมารยาท เข้าใจหรือเปล่า" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯกล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญคือกลุ่มอาเซียนได้แสดงความเข้มแข็ง รวมกลุ่มกัน มีมติชัดเจนในแต่ละเรื่องที่เห็นพ้องต้องกัน คือทั้งหมดจะต้องมีการพูดคุยเจรจาหาทางออกโดยสันติวิธี เป็นต้น ตนคิดว่าอย่าไปตั้งประเด็นว่า คนโน้น คนนี้ ชอบหรือไม่ชอบเรา เพราะเป็นธรรมดาประเทศประชาธิปไตยมาชมเชยตนไม่ได้อยู่แล้ว แต่เขาดูว่าทำอะไรอยู่ แต่มีพวกเราบางคนพยายามพูดสิ่งที่ไม่ดีให้เขาได้ยิน นั่นเป็นสิ่งที่ทำลายตัวเอง และทำลายชาติ ตรงนี้ตนไม่อยากจะว่า
ส่วนเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า การประชุมครั้งนี้ เราไปเข้าข้างคนอื่นเรื่อยเปื่อย วันนี้รัฐบาลต้องเดินทุกด้าน ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ การเมืองอย่างเป็นอิสระในโลกนี้ โดยต่อไปจะต้องมีการประชุมอาเซียน-อินเดีย, อาเซียน-รัสเซีย แล้วเราจะไปอยู่ข้างไหน เอาแต่มองว่าแบ่งข้างจนไม่ลืมหูลืมตา ขนาดต่างประเทศก็ยังไปแบ่งให้เขาอีก แล้วโลกใบนี้จะอยู่ได้ไหม
ด้านนายดอน ปรมัติวินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่าการเดินหน้าไปประชุมที่สหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ ผู้นำไทยได้รับการต้อนรับจากนายบารัค โอบามา ประธานธิบดีสหรัฐอเมริกา อย่างดี เหมือนกับประเทศอื่นๆในอาเซียน และวันนี้ถือว่าประเทศมหาอำนาจอย่าง สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับประเทศในกลุ่มอาเซียนไม่น้อย โดยนายบารัค โอบามา มีแนวคิดเตรียมจัดตั้งอาเซียน ยูเอส คอนเนค (ASEAN-US CONNECT)ใน 3 ประเทศ ประกอยด้วยอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย ส่วนกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า สหรัฐฯ กดดันไทยเรื่องประชาธิปไตยในไทยนั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะในการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยากให้ประชาธิปไตยของไทยกลับมา พูดเพียงสั้นเท่านั้น เช่นเดียวกับเมียนร์มา ทางสหรัฐฯ ยังสนับสนุนความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
นายกฯ กล่าวว่าหลายเรื่องมีความก้าวหน้าด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ตนเห็นเขาก็คุยดีด้วยทั้งนั้น โดยนายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็ให้กำลังใจ เมื่อทราบว่าบ้านเรากำลังเดินหน้าเรื่องประชาธิปไตย ก็ขอให้มีความสำเร็จ เขาไม่ได้มากดดันว่าต้องทำให้เร็ว ทำเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นจะถูกลงโทษ เรื่องแบบนี้ไม่มี มีแต่คนไทยที่พยายามให้เป็นแบบนั้น ตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไม ในเมื่อเราต้องการปฏิรูปประเทศ เราก็ต้องเคารพกติกาสากล
"การเป็นประชาธิปไตย เราก็ต้องมีขั้นตอนของเรา แล้วทำไมเราต้องกดดันกันเอง ผมก็ไม่เห็นเขารังเกียจรังงอนอะไรผม แต่อาจจะมีบางคนต้องเสียใจ เพราะคิดว่าอาจจะไม่ได้จับมือ เขาก็จับผมแน่น เขามีมารยาท เข้าใจหรือเปล่า" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯกล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญคือกลุ่มอาเซียนได้แสดงความเข้มแข็ง รวมกลุ่มกัน มีมติชัดเจนในแต่ละเรื่องที่เห็นพ้องต้องกัน คือทั้งหมดจะต้องมีการพูดคุยเจรจาหาทางออกโดยสันติวิธี เป็นต้น ตนคิดว่าอย่าไปตั้งประเด็นว่า คนโน้น คนนี้ ชอบหรือไม่ชอบเรา เพราะเป็นธรรมดาประเทศประชาธิปไตยมาชมเชยตนไม่ได้อยู่แล้ว แต่เขาดูว่าทำอะไรอยู่ แต่มีพวกเราบางคนพยายามพูดสิ่งที่ไม่ดีให้เขาได้ยิน นั่นเป็นสิ่งที่ทำลายตัวเอง และทำลายชาติ ตรงนี้ตนไม่อยากจะว่า
ส่วนเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า การประชุมครั้งนี้ เราไปเข้าข้างคนอื่นเรื่อยเปื่อย วันนี้รัฐบาลต้องเดินทุกด้าน ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ การเมืองอย่างเป็นอิสระในโลกนี้ โดยต่อไปจะต้องมีการประชุมอาเซียน-อินเดีย, อาเซียน-รัสเซีย แล้วเราจะไปอยู่ข้างไหน เอาแต่มองว่าแบ่งข้างจนไม่ลืมหูลืมตา ขนาดต่างประเทศก็ยังไปแบ่งให้เขาอีก แล้วโลกใบนี้จะอยู่ได้ไหม
ด้านนายดอน ปรมัติวินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่าการเดินหน้าไปประชุมที่สหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ ผู้นำไทยได้รับการต้อนรับจากนายบารัค โอบามา ประธานธิบดีสหรัฐอเมริกา อย่างดี เหมือนกับประเทศอื่นๆในอาเซียน และวันนี้ถือว่าประเทศมหาอำนาจอย่าง สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับประเทศในกลุ่มอาเซียนไม่น้อย โดยนายบารัค โอบามา มีแนวคิดเตรียมจัดตั้งอาเซียน ยูเอส คอนเนค (ASEAN-US CONNECT)ใน 3 ประเทศ ประกอยด้วยอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย ส่วนกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า สหรัฐฯ กดดันไทยเรื่องประชาธิปไตยในไทยนั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะในการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยากให้ประชาธิปไตยของไทยกลับมา พูดเพียงสั้นเท่านั้น เช่นเดียวกับเมียนร์มา ทางสหรัฐฯ ยังสนับสนุนความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน