ผู้จัดการรายวัน360-“พาณิชย์”ส่งความเห็นเพิ่มเติมถึงอัยการสูงสุด ฟ้องอาญาพ่วงแพ่ง เอกชน 15 ราย ร่วมมือ “บุญทรง” ทุจริตขายข้าวจีทูจี คาดทำทันก่อนคดีหมดอายุสิ้นก.พ.นี้ ชี้ไม่ได้กลั่นแกล้ง ผู้ถูกฟ้องมีสิทธิ์อุทธรณ์ได้ ส่วนนักการเมือง ยังมีเวลา ด้านตัวเลขความเสียหาย ดีดลูกคิดส่งคลังแล้ว วงในเผยไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอความเห็นเพิ่มเติมไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดที่จะทำสำนวนส่งฟ้องเอกชน 15 ราย ในคดีการทุจริตขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และพวกรวม 22 ราย โดยเห็นควรให้ฟ้องเอกชน 15 ราย ในคดีอาญาพ่วงกับคดีแพ่ง จากเดิมที่ส่งเรื่องให้ส่งฟ้องคดีทางแพ่งเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ ในส่วนของเอกชน 15 รายที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีการทำสำนวนส่งฟ้องให้ทันภายในสิ้นเดือนก.พ.นี้ เพราะมีระยะเวลาในการส่งฟ้อง 1 ปี หรือนับตั้งแต่ที่ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบข้อกล่าวหาตั้งแต่เดือนก.พ.2558 ส่วนคดีของนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง มีอายุความส่งฟ้อง 2 ปี นานกว่าคดีของเอกชน โดยฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการส่งฟ้องให้ทันภายในปีนี้เช่นเดียวกัน
“การฟ้องร้องเอกชนทั้ง 15 ราย ฝ่ายที่ส่งฟ้องต้องเป็นอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นทนายของแผ่นดินที่จะทำสำนวนในการส่งฟ้องศาล เมื่อส่งฟ้องไปแล้ว ผู้ถูกฟ้องมีสิทธิ์อุทธรณ์ตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยยืนยันว่าได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแล้ว เพราะไม่ว่าจะส่งฟ้องทางแพ่งหรือฟ้องอาญาพ่วงแพ่งผู้เสียหายก็มีสิทธิ์อุทธรณ์ได้”น.ส.ชุติมากล่าว
น.ส.ชุติมากล่าวว่า ส่วนมูลค่าความเสียหายที่จะมีการดำเนินการฟ้องร้อง ได้ส่งไปกับสำนวนการฟ้องให้กับอัยการแล้ว โดยได้คิดค่าเสียหายตามทฤษฎี คือ มูลค่าการขายข้าวจีทูจีครั้งนี้เท่าไร ก็จะนำมาเปรียบเทียบกับราคาตลาด และรัฐเสียหายเท่าไร โดยแยกเป็นแต่ละสัญญาและแต่ละช่วงเวลา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์คิดเฉพาะการทุจริตจีทูจีข้าวเท่านั้น ส่วนมูลค่าความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวทั้งระบบ เป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังดำเนินการ สำหรับตัวเลขความเสียหาย คงตอบไม่ได้ว่าเท่าไร แต่มีตัวเลขและได้ส่งตัวเลขให้กับกระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความผิดทางละเมิดตามคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ และคำสั่งกระทรวงการคลัง ได้คิดมูลค่าเบื้องต้นของความเสียหายระบายข้าวจีทูจีที่จะฟ้องจากนักการเมือง ข้าราชการ และเอกชนรวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
วันเดียวกันนี้ กรมการค้าต่างประเทศได้เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ายื่นซองคุณสมบัติเพื่อตรวจสอบก่อนเข้าร่วมประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล ที่เปิดประมูล 5.7 แสนตัน แบ่งเป็นประมูลทั่วไป 2.04 แสนตัน และเข้าสู่อุตสาหกรรม 3.6 แสนตัน โดยข้าวทั่วไป มีผู้ยื่นซองคุณสมบัติ 35 ราย แต่ไม่ผ่านคุณสมบัติ 1 ราย และข้าวเข้าอุตสาหกรรมมีผู้ยื่นซองคุณสมบัติ 17 ราย โดยปลัดกระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่า จากผู้ที่เข้ามายื่นซองคุณสมบัติจำนวนมาก จะทำให้เกิดการแข่งขันด้านการเสนอราคา และขายข้าวได้ราคาใกล้เคียงกับราคาตลาด โดยจะมีการยื่นซองเสนอราคาข้าวทั่วไปวันที่ 16 ก.พ. และข้าวเข้าอุตสาหกรรม 17 ก.พ.นี้
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอความเห็นเพิ่มเติมไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดที่จะทำสำนวนส่งฟ้องเอกชน 15 ราย ในคดีการทุจริตขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และพวกรวม 22 ราย โดยเห็นควรให้ฟ้องเอกชน 15 ราย ในคดีอาญาพ่วงกับคดีแพ่ง จากเดิมที่ส่งเรื่องให้ส่งฟ้องคดีทางแพ่งเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ ในส่วนของเอกชน 15 รายที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีการทำสำนวนส่งฟ้องให้ทันภายในสิ้นเดือนก.พ.นี้ เพราะมีระยะเวลาในการส่งฟ้อง 1 ปี หรือนับตั้งแต่ที่ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบข้อกล่าวหาตั้งแต่เดือนก.พ.2558 ส่วนคดีของนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง มีอายุความส่งฟ้อง 2 ปี นานกว่าคดีของเอกชน โดยฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการส่งฟ้องให้ทันภายในปีนี้เช่นเดียวกัน
“การฟ้องร้องเอกชนทั้ง 15 ราย ฝ่ายที่ส่งฟ้องต้องเป็นอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นทนายของแผ่นดินที่จะทำสำนวนในการส่งฟ้องศาล เมื่อส่งฟ้องไปแล้ว ผู้ถูกฟ้องมีสิทธิ์อุทธรณ์ตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยยืนยันว่าได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแล้ว เพราะไม่ว่าจะส่งฟ้องทางแพ่งหรือฟ้องอาญาพ่วงแพ่งผู้เสียหายก็มีสิทธิ์อุทธรณ์ได้”น.ส.ชุติมากล่าว
น.ส.ชุติมากล่าวว่า ส่วนมูลค่าความเสียหายที่จะมีการดำเนินการฟ้องร้อง ได้ส่งไปกับสำนวนการฟ้องให้กับอัยการแล้ว โดยได้คิดค่าเสียหายตามทฤษฎี คือ มูลค่าการขายข้าวจีทูจีครั้งนี้เท่าไร ก็จะนำมาเปรียบเทียบกับราคาตลาด และรัฐเสียหายเท่าไร โดยแยกเป็นแต่ละสัญญาและแต่ละช่วงเวลา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์คิดเฉพาะการทุจริตจีทูจีข้าวเท่านั้น ส่วนมูลค่าความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวทั้งระบบ เป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังดำเนินการ สำหรับตัวเลขความเสียหาย คงตอบไม่ได้ว่าเท่าไร แต่มีตัวเลขและได้ส่งตัวเลขให้กับกระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความผิดทางละเมิดตามคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ และคำสั่งกระทรวงการคลัง ได้คิดมูลค่าเบื้องต้นของความเสียหายระบายข้าวจีทูจีที่จะฟ้องจากนักการเมือง ข้าราชการ และเอกชนรวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
วันเดียวกันนี้ กรมการค้าต่างประเทศได้เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ายื่นซองคุณสมบัติเพื่อตรวจสอบก่อนเข้าร่วมประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล ที่เปิดประมูล 5.7 แสนตัน แบ่งเป็นประมูลทั่วไป 2.04 แสนตัน และเข้าสู่อุตสาหกรรม 3.6 แสนตัน โดยข้าวทั่วไป มีผู้ยื่นซองคุณสมบัติ 35 ราย แต่ไม่ผ่านคุณสมบัติ 1 ราย และข้าวเข้าอุตสาหกรรมมีผู้ยื่นซองคุณสมบัติ 17 ราย โดยปลัดกระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่า จากผู้ที่เข้ามายื่นซองคุณสมบัติจำนวนมาก จะทำให้เกิดการแข่งขันด้านการเสนอราคา และขายข้าวได้ราคาใกล้เคียงกับราคาตลาด โดยจะมีการยื่นซองเสนอราคาข้าวทั่วไปวันที่ 16 ก.พ. และข้าวเข้าอุตสาหกรรม 17 ก.พ.นี้