xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

'อวสานลูกเทพ' ตลกร้ายตุ๊กตาตกสวรรค์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เมื่อวัตถุมงคลกลับกลายเป็น “ขยะความเชื่อ” ชะตากรรมของ “ตุ๊กตาลูกเทพ” จำนวนมากจึงต้องพบจุดจบด้วยการลงการถูกทิ้งไปตามระเบียบ กลายเป็นภาพสลดใจให้เห็นเกลื่อนตาดังที่เป็นข่าวว่าญาติโยมแอบนำทิ้งตามซอกมุมอันศักดิ์สิทธิ์บริเวณวัด อาทิ ใต้ต้นโพธิ์, สถูปเจดีย์ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นจุดยอดนิยมทิ้งตุ๊กตาลูกเทพ

เรียกว่า อุ้มมาทิ้งกันจนวัดป่วน ดูอย่าง วัดสว่างอารมณ์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้นำตุ๊กตาลูกเทพ คละขนาดมีทั้งกุมารกุมารีอุ้มมาทิ้งบริเวณวัดมากกว่า 10 ตัว เอามาวางไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ใต้ต้นโพธิ์ หรือบริเวณฐานสถูปเจดีย์ ทิ้งรอยก้านธูปที่จุดจนหมดดอก พร้อมกับขวดน้ำอัดลมตั้งอยู่ใกล้ๆ จนทาง พระครูยติธรรมานุยุติ หรือ อาจารย์แป๊ะ เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ ออกคำสั่งให้คณะกรรมการวัดเก็บรวบรวมให้เป็นที่เป็นทาง บริเวณศาลาเจ้าแม่ตะเคียนทอง

และเหตุที่ถูกทิ้งก็เพราะเกิดกระแสข่าวแอนตี้ตุ๊กตาลูกเทพ บางคนรู้สึกอับอายที่จะอุ้มลูกเทพไปไหนมาไหน บางส่วนรู้สึกกลัวเพราะลวดลายของยันต์ต่างๆ ที่สักอยู่ทั่วตัวตุ๊กตา บ้างทิ้งเพราะเบื่อแค่เลี้ยงตามกระแส หรือเลี้ยงแล้วไม่ประสบผลสำเร็จก็ตัดสินใจนำมาทิ้ง ซึ่งกรณีนี้ไม่ต่างจากการนำวัตถุมงคลมาทิ้งตามต้นโพธิ์ เพราะไม่รู้จะเอาไปโยนทิ้งที่ไหน ก็เอาแอบเอามาทิ้งไว้ที่วัดก็แล้วกัน ซึ่งงานนี้ตั้งแต่เป็นข่าวบรรดาลูกศิษย์วัดและพระลูกวัด ก็พบตุ๊กตาลูกเทพถูกนำมาทิ้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

พระครูยติธรรมานุยุติ กล่าวเตือนสติผู้เลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพว่า “เรื่องแบบนี้แล้วแต่คนจะเชื่อ แต่อาตมาขอเตือนให้ทุกคนอยู่ในความพอดี ดูเหตุดูผลไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามต้องมีสติมากที่สุด คนที่เชื่อเราก็ไม่ได้ว่าหรือห้ามไม่ให้เชื่อ แต่เป็นห่วงเพราะสังคมไทยมีทั้งการยอมรับและไม่ยอมรับ เพราะเราเป็นคนไทยนับถือศาสนาพุทธ ขอให้ทุกคนมีสติในการดำรงชีวิต”

ความวุ่นวายยังไม่จบ ขณะที่กลุ่มแรกเดินทางนำลูกทิ้ง หลังข่าวเผยแพร่ออกไปกลับมีชาวบ้านส่วนหนึ่ง เดินทางเข้ามาขอรับลูกเทพไปเลี้ยงดูฟูมฟัก แต่งานนี้เจ้าอาวาสฯ ไม่อนุญาต และจัดเจ้าหน้าที่ดูแลเพื่อไม่ให้มีคนลอบนำตุ๊กตาลูกเทพออกไป ขณะที่มีการเตรียมนำตุ๊กตาลูกเทพทั้งหมดไปเก็บไว้ในห้องคล้องกุญแจมิดชิดเพื่อรักษาไว้

เช่นเดียวกันกับ วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งทาง พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อความว่า มีชาวบ้านติดต่อมาทางลูกศิษย์เพื่อขอให้สัปเหร่อของทางวัดช่วยทำพิธีเผาร่างตุ๊กตาลูกเทพ พร้อมกับถวายปัจจัยเป็นเงินสดจำนวน 10,000 บาท สำหรับเป็นธุระในการจัดการพิธี โดยที่ชาวบ้านรายนี้ให้เหตุผลว่าไม่กล้าเลี้ยงต่อไปแล้ว เพราะโดนคนรอบข้างออกอาการรังเกียจซ้ำร้ายถูกกล่าวหาว่าบ้าอีก กลายๆ ว่าถูกกดดันอย่างหนักจึง นำมาขอให้ทางวัดช่วยทำพิธีเผาเพราะไม่ต้องการเลี้ยงดูรวมทั้งเก็บไว้บูชาอีกต่อไป

ด้าน หลวงพี่น้ำฝน ทราบเรื่องเข้าก็ยืนกร้านปฏิเสธไม่ทำพิธีเผาตุ๊กตาดัง ปรารถนาของโยมคนดังกล่าว โดยจะนำตุ๊กตาลูกเทพมาตั้งภายในบริเวณเนอร์สเซอรี่กุมารทองแทน พร้อมอนุโมทนาบุญนำเงิน 10,000 บาทที่โยมท่านี้ถวายไปสมทบททุนสร้างวิหารหลวงพ่อพูล

“หากญาติโยมท่านใดไม่อยากได้ตุ๊กตาเทพ หรือไม่อยากเลี้ยงตุ๊กตาเทพ หรือกุมารทองจากสำนักไหนก็ตาม นำมาฝากอาตมาเลี้ยงดูไว้ที่เนิร์สเซอรี่กุมารสมบัติได้ทุกเวลา และเมื่ออยากจะนำกลับเมื่อไรก็มานำกลับไป” หลวงพี่น้ำฝน แสดงเจตนารมณ์พร้อมเตือนสติญาติโยมทั้งหลายก่อนริเช่าบูชาวัตถุมงคงต่างๆ

"อาตมาอยากฝากบอกถึงญาติโยมทั้งหลายว่า เมื่อท่านศรัทธาในสิ่งใดแล้วแต่ต้องยึดมั่นในความดี ยึดมั่นในความกตัญญู รู้บุญคุณ และขยันหมั่นเพียรด้วย จึงสำเร็จ สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือช่วยในด้านจิตใจ เป็นขวัญกำลังใจในการประกอบอาชีพ ทุกสิ่งต้อง คิด วิเคราะห์ และ แยกแยะ ในทุกเรื่อง”

ปี 2559 ปรากฏการณ์ตุ๊กตาลูกเทพฟีเวอร์ในเมืองไทย ถูกตัดจบเข้าสู่ตอนอวสานอย่างรวดเร็ว เปิดฉากด้วยภาพดาราเซเลบอุ้มตุ๊กตาลูกเทพถ่ายภาพแชร์ลงในโซเชียลมีเดียเมื่อกลางปีก่อน ปลุกกระแสสำเร็จจนมีผู้คนให้ความสนใจเลี้ยงดูฟูลูกเทพเหมือนเด็กเล็กที่มีชีวิตจิตใจจริงๆ แน่นอน พวกเขาเชื่อว่าลูกเทพในอ้อมอกของตนจะดลบันดาลให้โชคให้คุณ ต่อมา ภาคธุรกิจออกแคมเปญเอาใจผู้เลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพเป็นแรงพระเพื่อมกระแสขึ้นมาอีกครั้ง

จนเกิดภาพข่าวประชาชนแห่นำตุ๊กตาลูกเทพไปปลุกเสกกันเต็มวัด ชุลมุนชุลเกให้พระอาจารย์ช่วยเรียกจิตหนุนธาตุ เปิดอาการทั้ง32 อัญเชิญดวงวิญาณเทพสถิต

ขณะที่ฝั่งแอนตี้ถล่มวลีเสียดสีแสบๆ คันๆ ทำเอาผู้เลี้ยงลูกเทพกลายเป็นตัวตลกของสังคมไปโดยปริยาย เข้าสู่ฉากจบบริบูรณ์ ตุ๊กตาลูกเทพจำนวนมากถูกนำมาทิ้งขว้างยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่ต่างจากกุมารทองหรือวัตถุมงคลต่างๆ ที่เคยผ่านการปลุกเสกขึ้นมา

ว่ากันต่อที่ ตุ๊กตาลูกเทพสายมาร ตุ๊กตาลูกเทพมวลสารที่นำมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ปลุกเสกฝังมวลสาร กระดูกคนตาย ฯลฯ โดยสำนักไสยศาสตร์เล็กใหญ่ต่างอ้างว่าช่วยเพิ่มความขลัง ซึ่งสนนราคาพุ่งสูงตั้งแต่ 500 -100,000 บาทเลยทีเดียว ขณะที่แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า ลูกเทพสายมาร มีฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่เป็นเป็นชาวจีนและชาวไต้หวัน งานนี้ไม่แน่ว่ากระแสในประเทศไทยซาลงแต่อิทธิปาฏิหาริย์ของ ลูกเทพ ที่เขาว่ากันว่าเป็นกุมารทองแห่งยุคดิจิตอล อาจไปเป็นที่ประจักษ์ได้รับความนิยมยังต่างแดนแบบเดียวกับกุมารทองก็เป็นได้

สมบูรณ์ อาจาริยะ เจ้าของเว็บไซต์ สยามกุมารทอง (www.siamkumarnthong.com) เปิดเผยข้อมูลกับ ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ว่าอย่างที่ทราบกันว่า เนื้อวัสดุของ ตุ๊กตาลูกเทพ หรือReborn Baby Dollsนั้นผลิตจากไวนิลชนิดซอฟท์มีความนิ่มในตัว ฉะนั้นการนำมาทำพิธีปลุกเสกเป็น ตุ๊กตาลูกเทพมวลสาร เพื่อให้มีคุณเฉกเช่นเดียวกับกุมารทองไม่ได้ระบุไว้ตามตำรา เพราะกุมารจริงๆ ต้องทำมาจากมวลสารที่ถูกต้องไม่ใช่ปะปนเนื้อไวนิลอย่างวัสดุที่ใช้ผลิตตุ๊กตาดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม กุมารทอง ได้รับความนิยมในต่างประเทศเป็นทุนเดิม ซึ่งประเทศไทยถือเป็นจุดเริ่มต้นของการผลิตวัตถุมงคลหลายๆ อย่าง ก่อนที่จะแพร่หลายไปยังต่างประเทศเพราะผู้คนจำนวนไม่น้อยได้รับประสบการณ์จากของขลังที่ตนนำมาบูชา อาทิ จีน, ไต้หวัน, มาเลเซีย, สิงคโปร์ ฯลฯ

กุมารทอง ของ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม จ.นครปฐม นั้นถือเป็นจุดเริ่มของความนิยมจากกลุ่มชาวไทยก่อนแพร่ไปยังชาวต่างชาติ เช่นเดียวกัน ตุ๊กตาลูกเทพมวลสาร ได้รับความนิยมลักษณะเดียวกับกุมารทอง สมบูรณ์ กล่าวว่า เพราะมีความเชื่อว่าใช้แล้วได้ผลก็เกิดความเชื่อความศรัทธาขึ้น ส่งผลให้เวลาประเทศไทยเกิดของขลังไสยศาสตร์อะไรใหม่ๆ กลุ่มประเทศเหล่านี้จึงให้ความสนใจเพราะเคยได้รับประสบการณ์แล้ว

กระแสตุ๊กตาลูกเทพในประเทศไทยเริ่มถดถอยลง แต่ก็ยังมีลูกค้าในต่างประเทศนิยมชมชอบอยู่ สำหรับวัตถุมงคลที่ทำจากมวลสารประดิษฐ์เหล่านี้ยอดขายน้อยลง ส่วนหนึ่งเมื่อผู้เลี้ยงเขาได้รับประสบการณ์จากการเลี้ยง กุมารทอง - กุมารี และ ตุ๊กตาลูกเทพ ซึ่งทั้งสองอย่างเกิดขึ้นจากมวลสารที่ต่างกันแล้วก็จะส่งผลต่อการตัดสินใจต่อไปจะไปในทิศทางไหน เทียบกับชัดๆ ว่าอะไรจะอยู่อะไรจะไป

“ตลาดต่างประเทศไม่น่าจะเติบโตเพราะเสียงจากซุ้มพระต่างๆ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าขายได้ยากขึ้น ย้อนกลับไปลูกค้าชาวต่างชาติกลุ่มนี้เขาได้ประสบการณ์มาจาก วัดสามง่าม เห็นว่าดีก็เลยเช่าบูชากันต่อไป ก็เลยส่งผลให้คนไทยเล่นอะไรเขาก็เล่นตาม แต่ผมเชื่อว่าไม่นานผู้คนก็จะกลับมาเล่นมวลสารที่ถูกต้องตามตำรากันเช่นเดิม

“ส่วนกรณีที่คนไทยเอาไปทิ้งในวัด เมื่อคนที่เขาเริ่มศึกษาแล้ว ตอนแรกอาจจะซื้อตุ๊กตาลูกเทพมาด้วยความน่ารัก แต่เมื่อซื้อมาแล้วอาจจะเห็นผลบ้างไม่เห็นผลบ้าง เมื่อคนเริ่มไม่เห็นผลเขาก็จะเริ่มศึกษาแล้วว่านี่มันคืออะไร พอหาข้อมูลมันก็พบว่ามีความรู้เรื่องพวกนี้เรื่องมวลสาร ว่ามันไม่ใช่มวลสารที่ถูกต้อง มันไม่ใช่ตำราโบราณ พอคนรู้กันก็เอาไปทิ้งเป็นเรื่องปกติ มันก็เป็นขยะความเชื่อต่อไป ผมเคยเขียนเรื่องนี้ไว้ในเว็บไซต์ siamkumarnthong.comนานแล้ว ต่อไปมันก็จะเป็นขยะความเชื่อ ไม่เหมือนกับวัตถุที่สร้างจากปูนสร้างจากดิน พอมันเก่าเข้ามันก็มีคุณค่า มันน่ารักษา มันเป็นวัตถุโบราณ ตุ๊กตาลูกเทพ ต่อไปมันก็เป็นขยะความเชื่อหมด ตุ๊กตาปกติเล่นไม่ถึง 3 ปีก็ทิ้งแล้ว เป็นเรื่องธรรมดาครับ” สมบูรณ์ กล่าว

ท้ายที่สุดแล้ว 'ตุ๊กตาลูกเทพ' ไม่ว่าสายเทพอัญเชิญวิญญาณเทพสถิต หรือสายมารปลุกเสกจากมวลสารเพิ่มความขลัง ล้วนแล้วถึงกาลอวสานไม่ต่างกัน เมื่อกระแสตกผนวกแรงศรัทธาเสื่อมลง วัตถุมงคลสมัยนิยมก็กลายเป็น 'ขยะความเชื่อ' ไปโดยปริยาย



กำลังโหลดความคิดเห็น