ผู้จัดการรายวัน 360 - โพลจวกเอกชนออกแคมเปญเอา “ลูกเทพ” ไม่เหมาะ ชี้ไม่ใช่กิจสงฆ์รับปลุกเสก เกือบ 100% ไม่คิดหามาบูชา “พระวินัย” อ้างปลุกเสกตุ๊กตาเหมือนเจิมรถ พศ.เตรียมเวียนประกาศคณะสงฆ์ ห้ามภิกษุปลุกเสกทดลองของขลัง ระบุมีโทษถึงให้สึก “พุทธอิสระ” ซัดศาสนาเสื่อม คนหาที่ยึดเหนี่ยว เรียก คสช.ต้องดูแลด่วน “หมอปิยะสกล” แนะใครคุยลูกเทพรู้เรื่องต้องพบแพทย์ รร.ทั่วประเทศแห่ประกาศไม่ต้อนรับ “ตุ๊กตาผี”
วานนี้ (28 ม.ค.) "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,029 คน ระหว่างวันที่ 26 - 27 ม.ค.59 ในหัวข้อประชาชนคิดอย่างไรกับกระแสข่าวตุ๊กตาลูกเทพ สรุปผลได้ดังนี้ อันดับ 1 สังคมไม่ควรสนใจหรือให้ความสำคัญมากเกินไป เป็นสิทธิและความเชื่อส่วนบุคคล 68.05% อันดับ 2 เป็นเพียงกระแสตามแฟชั่น ไม่นานข่าวก็คงเงียบไปเอง 61.30% และอันดับ 3 เกิดการเลียนแบบ เห็นจากดาราหรือคนที่มีชื่อเสียง 55.84%
ส่วนคำถามที่ "ตุ๊กตาลูกเทพสะท้อนสังคมอย่างไร" นั้น แบ่งเป็นด้านบวกคือ อันดับ 1 เป็นที่พึ่ง ยึดเหนี่ยวจิตใจ มีไว้เป็นเพื่อน แก้เหงา 66.18% อันดับ 2 ธุรกิจต่างๆมีการแข่งขัน สร้างรายได้ มีกำไร 57.46% อันดับ 3 เป็นสีสัน เป็นเรื่องสนุกสนานให้กับสังคม 53.89% และด้านลบคืออันดับ 1 ถูกมองว่างมงาย ล้าหลัง พึ่งไสยศาสตร์ 71.22% อันดับ 2 สิ้นเปลืองเงินทอง 60.71% อันดับ 3 ผู้ไม่หวังดีนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องเช่น ซุกยาเสพติด หลอกลวง ต้มตุ๋น 50.45%
** โพลชี้ปลุกเสก “ลูกเทพ” ไม่ใช้กิจสงฆ์
ขณะที่กรณีบรรดาธุรกิจยักษ์ใหญ่ เช่น สายการบิน ร้านอาหาร สอนหนังสือ ห้างสรรพสินค้า หันมาเกาะกระแส ลูกเทพฟีเวอร์กันอย่างคึกคักด้วยการออกแคมเปญใหม่เพื่อให้บริการตุ๊กตาลูกเทพ ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่? อันดับ 1 ไม่เห็นด้วย 53.35% เพราะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ เป็นการเอาใจลูกค้ามากเกินไป มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ฯลฯ อันดับ 2 เฉยๆ 39.94% เพราะ อาจเป็นเพียงกระแสช่วงหนึ่ง มองเป็นเรื่องของธุรกิจ เป็นสิทธิส่วนบุคคล ฯลฯ ส่วนเรื่องที่มีการนำตุ๊กตาลูกเทพ ไปปลุกเสกเพื่อบูชา ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่? อันดับ 1 ไม่เห็นด้วย 51.90% เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะมีพระสงฆ์มาเกี่ยวข้องขัดต่อหลักพุทธศาสนา ดูน่ากลัว ฯลฯ อันดับ 2 เฉย ๆ 45.19% เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล
ส่วนประเด็นที่ว่าประชาชนเองมีความสนใจที่จะซื้อมาบูชาบ้างหรือไม่นั้นอันดับ 1 ไม่สนใจ 98.54% เพราะ สิ้นเปลืองเงินทอง ไร้สาระ งมงาย ชีวิตจะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับความขยันและการกระทำมากกว่า ฯลฯ อันดับ 2 สนใจ 1.46% เพราะ ตุ๊กตาน่ารักดี อยากมีไว้เป็นของตัวเองบ้าง อยากลองพิสูจน์ดูว่าจะดีจริงหรือไม่ ฯลฯ
** พศ.เผยสงฆ์ปลุกเสกของขลังโทษถึงสึก
ด้าน นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีมีพระสงฆ์บางรูป บางจังหวัด ปลุกเสกตุ๊กตาลูกเทพว่า พศ.ได้รับแจ้งจาก พระราชนันทมุนีเจ้าอาวาสวัดบัวขวัญ เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี เกี่ยวกับกรณีที่พระลูกวัดดำเนินการปลุกเสกตุ๊กตาลูกเทพว่า ท่านได้เข้าไปตรวจสอบ และตักเตือนพระวินัย ฐิตปัญโญ แล้ว ซึ่งพระวินัยชี้แจงมาว่า เหมือนกับญาติโยมนำรถมาให้พระเจิม เพื่อเป็นที่พึ่งพา พอได้ตุ๊กตามาอยากให้พระเจิม ซึ่งพระวินัยไม่อยากขัดศรัทธาญาติโยมก็เจิมให้ โดยไม่ได้มุ่งพุทธพาณิชย์ ไม่ได้เรียกค่าทำพิธี มีเพียงญาติโยมถวายตามกำลังศรัทธาเท่านั้น ขณะเดียวกันทางเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรีท่านเน้นย้ำว่า จะดูแลเรื่องนี้ให้ รวมทั้งจะจับตาดูอย่างใกล้ชิดหากมีการทำอะไรที่มากเกินไปก็จะสั่งให้ยุติการกระทำดังกล่าวทันที
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีประกาศคณะสงฆ์ เรื่องห้ามภิกษุ สามเณร เรียกเงินค่าเวทมนตร์ และห้ามทดลองของขลัง พ.ศ.2495 ที่ระบุว่า การปลุกเสกลงเลขยันต์ สอนเวทมนตร์เพื่อแคล้วคลาดศัตราวุธ โดยเรียกเงินจากผู้มาขอให้ปลุกเสก เป็นการผิดสมณวิสัยจัดเข้าในอาชีววิบัตมีโทษทางพระวินัย เป็นช่องทางให้พาลชนช่วยโฆษณาชวนให้คนหลงเชื่อ เพื่อทำทุจริตโดยแอบอ้างยึดเอาเป็นอาชีพอันมิชอบ เป็นความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์และพระศาสนา นอกจากนี้ยังมีประกาศห้ามไม่ให้ภิกษุเป็นหมอเสน่ห์ยาแฝดอาถรรพณ์ ของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า พ.ศ.2476 ด้วย
“ถ้าภิกษุรูปใดประพฤติล่วงละเมิดเมื่อพิจารณาได้ความจริงให้เจ้าอาวาสหรือเจ้าคณะในท้องที่ที่เกิดอธิกรณ์ลงโทษให้สึกเสียแล้วรายงานตามลำดับ ซึ่ง พศ.ได้มีการเวียนประกาศข้อกฎหมายให้แก่พระสังฆาธิการทั่วประเทศอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับทราบระเบียบปฏิบัติของคณะสงฆ์ เพื่อไม่ให้กระทำอะไรที่ล่อแหลม ที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา” โฆษก พศ.กล่าว
** “พุทธอิสระ” ซัดศาสนาเสื่อม คนหาที่ยึดเหนี่ยว
ทางด้าน หลวงปู่พุทธะอิสระ หรือ พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม แห่งวัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้ออกมาเตือนสติเกี่ยวกับกระแสการเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพว่า ในแง่สิทธิมนุษยชนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่โดยภาพรวมต้องบอกว่าเป็นความวิปริตทางสังคมในการแสวงหาที่พึ่ง เหตุเพราะที่พึ่งทางศาสนาล่มสลาย องค์กรสงฆ์ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างซื่อตรง ไม่เผยแพร่อย่างตรงไปตรงมา ที่ผ่านมามีเล่ห์เหลี่ยม ผลประโยชน์แอบแฝงในการเผยแพร่ธรรมอยู่เนืองๆ เมื่อพระสงฆ์ต้องเป็นผู้ให้ แต่ดันมาแปลงร่างเป็นผู้กอบโกย ทำให้สังคมไม่มั่นใจไม่เชื่อใจ ประชาชนจึงหันมาเลี้ยงลูกเทพมากขึ้นเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจตามโฆษณาชวนเชื่อ ตามคนนำมาเสนอ ว่าที่พึ่งแบบนี้เป็นที่พึ่งอันประเสริฐ จน เจ็บ จาก อยากได้ ให้สมบูรณ์แบบ จนเกิดความยอมรับ แต่ก็เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดเป็นช่วงๆ เช่นเดียวกับตามกระแสจตุคามรามเทพ ส่วนจะนิยมนานแค่ไหน อยู่ที่สังคม หากยังขาดความกลัว ขาดสำนึก ขาดปัญญา อย่างนี้ก็จะต่อชีวิตให้ลูกเทพได้มีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น
“กระแสตุ๊กตายางลูกเทพยังเร็วไปที่จะตัดสินว่าตุ๊กตายางให้ต่างตอบแทนให้จริง หรือเป็นการสร้างภาระ คนไทยคงโยนทิ้งเพราะคนไทยขี้เบื่อ จึงเกิดช่องโหว่ ให้มิจฉาชีพมาเอารัดเอาเปรียบครอบงำได้อยู่เสมอ สิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้น ต้องขอโทษองค์กรศาสนา คือ สังฆรัตนะ หรือนักบวชในแต่ละศาสนาไม่ได้ทำหน้าที่อย่างซื่อตรง เลยกลายเป็นว่าประชาชนต้องแสวงหา" หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าว
**ขนานนาม “ลูกสัมภเวสี” แนะ คสช.ดูแล
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวด้วยว่า อยากฝากถึง คุณพ่อ คุณแม่ ตุ๊กตาเทพทั้งหลายว่า วิถีแห่งจิตวิญญาณพระพุทธเจ้ากำหนดสัตว์ให้มี 2 ภพภูมิ คือ ทำดีก็จะได้ไปยัง สุขติภพ สุขติภูมิ แต่ถ้าทำชั่วก็จะได้ไป ทุกข์ติภพ ทุกข์ขติภูมิ หรืออาจเป็น สัมภเวสี อาจมาสิงสถิตในตุ๊กตายางลูกเทพก็เป็นได้ ดังนั้นควรเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “ลูกสัมภเวสี” รวมสรุปแล้วคือ วิปริต วิกลจริต หลอกตัวเอง อยากบอกว่าผิดทั้งหลักธรรม ผิดทั้งวินัย เราเป็นมนุษย์ ทำไมจะต้องมานั่งกราบตุ๊กตายาง อนาคตเราจะสอนลูกหลานได้อย่างไร
“คสช.ไม่น่าจะปล่อยเรื่องนี้ให้ยาวนาน น่าจะใช้อำนาจมาตรวจสอบ เพราะนี่คือการมอมเมาประชาชน ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย” หลวงปู่พุทธะอิสระ ระบุ
** สธ.แนะคุยตุ๊กตารู้เรื่องต้องพบแพทย์
ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพเพื่อช่วยคลายเหงา หรือจะเล่นชั่วครั้งชั่วคราว สามารถทำได้ เพราะถือเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม ควรอยู่ในความเป็นจริง และความพอดี อย่าเกินเลย ถ้าหมกมุ่นจนถึงขั้นเหมือนเกิดจิตหลอน คิดว่าสามารถพูดคุยโต้ตอบ หรือสื่อสารกับตุ๊กตาลูกเทพได้ ก็ต้องกลับมาดูตัวเอง และขอแนะนำว่าควรไปปรึกษาแพทย์
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีระบุว่าที่สามารถสื่อสารได้ เพราะตุ๊กตาลูกเทพได้รับการปลุกเสกขึ้นมานั้น อยากให้คิดว่าของที่ขึ้นชื่อว่าของปลุกเสก ก็ถือว่าเป็นสิ่งสมมติขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องจริง นอกจากนี้ อยากเตือนว่าไม่อยากให้ไปหลงกับโปรโมชั่น และการโฆษณาที่หวังจะค้าขายเพื่อรายได้ เพราะอาจตกเป็นเหยื่อของการตลาดได้
** ตร.สั่งตรวจเข้มหวั่นซุกยาเสพติด
พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้เจ้าหน้าที่มีความเข้มข้นในการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการพกพาตุ๊กตาลูกเทพอาจเป็นช่องทางที่คนร้ายฉวยโอกาสในการซุกซ่อนยาเสพติดไว้ได้ โดยอาจนำเครื่องมือที่เจ้าหน้าที่มีอยู่นำมาใช้เพิ่มเติม เช่น สุนัขตำรวจในการตรวจหายาเสพติด
** รร.หลายแห่งไม่ต้อนรับ“ตุ๊กตาผี”
จากกรณีกระแสข่าวความนิยมเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพ จนภาคธุรกิจด้านการบริหารได้ออกแคมเปญต่างๆรองรับ ทั้งสายการบินบางราย ร้านอาหารบุฟเฟ่ห์ เป็นต้น จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมอย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ ล่าสุดได้มีภาคธุรกิจหลายแห่งประกาศไม่สนับสนุนเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพ เพราะเป็นความเชื่องมงาย รวมทั้งประกาศไม่ต้อนรับบุคคลที่นำตุ๊กตาลูกเทพเข้าใช้บริการ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่พัก
ที่เดอะคันทรีฟาร์ม รีสอร์ท แอนด์ โฮมสเตย์ ใน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เป็นโรงแรมแรกๆ ที่ประกาศห้ามแขกนำตุ๊กตาลูกเทพเข้าพัก โดยได้โพสต์ข้อความบนหน้าแฟนเพจของรีสอร์ทเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ระบุว่า “#ห้าม!!! นำลูกเทพ (ตุ๊กตาผี) เข้ามาในบริเวณรีสอร์ท หากทางรีสอร์ทตรวจพบ ทางเราขอยกเลิกการให้บริการกับผู้เข้าพักทันที” เช่นเดียวกับ อิน เวเปอร์ รีสอร์ท อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และ ไม้หมอนรีสอร์ท อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่โพสต์ประกาศงดรับตุ๊กตาลูกเทพเข้าพักในหน้าเพจเฟซบุคเช่นกัน โดยทั้ง 2 โรงแรมต่างโพสต์ข้อความมีเนื้อความเหมือนกับประกาศของเดอะคันทรีฟาร์ม รีสอร์ทฯ
ขณะที่ ไชน่าทาวน์ รีสอร์ท แอนด์ โฮมสเตย์ อ.เมือง จ.พะเยา ก็ได้ติดป้ายประกาศหน้ารีสอร์ทระบุข้อความประกาศว่า งดให้บริการผู้พกพาตุ๊กตาลูกเทพ เนื่องจากอาจทำให้ผู้ใช้บริการท่านอื่นหวาดระแวง แต่ยินดีต้อนรับผู้พกพาตุ๊กตาทั่วไป
นางพะยอม ธิศรี ผู้ดูแลไชน่าทาวน์ รีสอร์ทฯ เปิดเผยว่า ทางโรงแรมไม่ได้มีเจตนาลบหลู่แต่อย่างใด แต่อยากให้ลูกค้าเข้าใจว่า ตุ๊กตาลูกเทพอาจจะก่อความเดือดร้อนให้แก่ลูกค้าผู้ที่เข้าพักคนอื่นในเรื่องจิตวิทยาในการที่อาจจะนอนไม่หลับ และหากลูกค้ามีเด็กมาพักด้วยก็จะทำให้เกิดการหวาดกลัวจนไม่กล้าเข้าพักที่นี่ได้
เช่นเดียวกับที่ สวนวังทิพย์ โฮมสเตย์ อ.เมือง จ.นครนายก ก็ได้โพสต์ข้อความบนหน้าแฟนเพจของรีสอร์ทเช่นกัน โดยมีข้อความว่า ห้ามนำลูกเทพเข้ามาภายในบริเวณโฮมสเตย์ของเรา เพราะไม่สนับสนุนความงมงายอันไร้สาระ ความเชื่อผิดๆ โดยปราศจากเหตุผล.
วานนี้ (28 ม.ค.) "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,029 คน ระหว่างวันที่ 26 - 27 ม.ค.59 ในหัวข้อประชาชนคิดอย่างไรกับกระแสข่าวตุ๊กตาลูกเทพ สรุปผลได้ดังนี้ อันดับ 1 สังคมไม่ควรสนใจหรือให้ความสำคัญมากเกินไป เป็นสิทธิและความเชื่อส่วนบุคคล 68.05% อันดับ 2 เป็นเพียงกระแสตามแฟชั่น ไม่นานข่าวก็คงเงียบไปเอง 61.30% และอันดับ 3 เกิดการเลียนแบบ เห็นจากดาราหรือคนที่มีชื่อเสียง 55.84%
ส่วนคำถามที่ "ตุ๊กตาลูกเทพสะท้อนสังคมอย่างไร" นั้น แบ่งเป็นด้านบวกคือ อันดับ 1 เป็นที่พึ่ง ยึดเหนี่ยวจิตใจ มีไว้เป็นเพื่อน แก้เหงา 66.18% อันดับ 2 ธุรกิจต่างๆมีการแข่งขัน สร้างรายได้ มีกำไร 57.46% อันดับ 3 เป็นสีสัน เป็นเรื่องสนุกสนานให้กับสังคม 53.89% และด้านลบคืออันดับ 1 ถูกมองว่างมงาย ล้าหลัง พึ่งไสยศาสตร์ 71.22% อันดับ 2 สิ้นเปลืองเงินทอง 60.71% อันดับ 3 ผู้ไม่หวังดีนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องเช่น ซุกยาเสพติด หลอกลวง ต้มตุ๋น 50.45%
** โพลชี้ปลุกเสก “ลูกเทพ” ไม่ใช้กิจสงฆ์
ขณะที่กรณีบรรดาธุรกิจยักษ์ใหญ่ เช่น สายการบิน ร้านอาหาร สอนหนังสือ ห้างสรรพสินค้า หันมาเกาะกระแส ลูกเทพฟีเวอร์กันอย่างคึกคักด้วยการออกแคมเปญใหม่เพื่อให้บริการตุ๊กตาลูกเทพ ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่? อันดับ 1 ไม่เห็นด้วย 53.35% เพราะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ เป็นการเอาใจลูกค้ามากเกินไป มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ฯลฯ อันดับ 2 เฉยๆ 39.94% เพราะ อาจเป็นเพียงกระแสช่วงหนึ่ง มองเป็นเรื่องของธุรกิจ เป็นสิทธิส่วนบุคคล ฯลฯ ส่วนเรื่องที่มีการนำตุ๊กตาลูกเทพ ไปปลุกเสกเพื่อบูชา ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่? อันดับ 1 ไม่เห็นด้วย 51.90% เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะมีพระสงฆ์มาเกี่ยวข้องขัดต่อหลักพุทธศาสนา ดูน่ากลัว ฯลฯ อันดับ 2 เฉย ๆ 45.19% เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล
ส่วนประเด็นที่ว่าประชาชนเองมีความสนใจที่จะซื้อมาบูชาบ้างหรือไม่นั้นอันดับ 1 ไม่สนใจ 98.54% เพราะ สิ้นเปลืองเงินทอง ไร้สาระ งมงาย ชีวิตจะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับความขยันและการกระทำมากกว่า ฯลฯ อันดับ 2 สนใจ 1.46% เพราะ ตุ๊กตาน่ารักดี อยากมีไว้เป็นของตัวเองบ้าง อยากลองพิสูจน์ดูว่าจะดีจริงหรือไม่ ฯลฯ
** พศ.เผยสงฆ์ปลุกเสกของขลังโทษถึงสึก
ด้าน นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีมีพระสงฆ์บางรูป บางจังหวัด ปลุกเสกตุ๊กตาลูกเทพว่า พศ.ได้รับแจ้งจาก พระราชนันทมุนีเจ้าอาวาสวัดบัวขวัญ เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี เกี่ยวกับกรณีที่พระลูกวัดดำเนินการปลุกเสกตุ๊กตาลูกเทพว่า ท่านได้เข้าไปตรวจสอบ และตักเตือนพระวินัย ฐิตปัญโญ แล้ว ซึ่งพระวินัยชี้แจงมาว่า เหมือนกับญาติโยมนำรถมาให้พระเจิม เพื่อเป็นที่พึ่งพา พอได้ตุ๊กตามาอยากให้พระเจิม ซึ่งพระวินัยไม่อยากขัดศรัทธาญาติโยมก็เจิมให้ โดยไม่ได้มุ่งพุทธพาณิชย์ ไม่ได้เรียกค่าทำพิธี มีเพียงญาติโยมถวายตามกำลังศรัทธาเท่านั้น ขณะเดียวกันทางเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรีท่านเน้นย้ำว่า จะดูแลเรื่องนี้ให้ รวมทั้งจะจับตาดูอย่างใกล้ชิดหากมีการทำอะไรที่มากเกินไปก็จะสั่งให้ยุติการกระทำดังกล่าวทันที
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีประกาศคณะสงฆ์ เรื่องห้ามภิกษุ สามเณร เรียกเงินค่าเวทมนตร์ และห้ามทดลองของขลัง พ.ศ.2495 ที่ระบุว่า การปลุกเสกลงเลขยันต์ สอนเวทมนตร์เพื่อแคล้วคลาดศัตราวุธ โดยเรียกเงินจากผู้มาขอให้ปลุกเสก เป็นการผิดสมณวิสัยจัดเข้าในอาชีววิบัตมีโทษทางพระวินัย เป็นช่องทางให้พาลชนช่วยโฆษณาชวนให้คนหลงเชื่อ เพื่อทำทุจริตโดยแอบอ้างยึดเอาเป็นอาชีพอันมิชอบ เป็นความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์และพระศาสนา นอกจากนี้ยังมีประกาศห้ามไม่ให้ภิกษุเป็นหมอเสน่ห์ยาแฝดอาถรรพณ์ ของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า พ.ศ.2476 ด้วย
“ถ้าภิกษุรูปใดประพฤติล่วงละเมิดเมื่อพิจารณาได้ความจริงให้เจ้าอาวาสหรือเจ้าคณะในท้องที่ที่เกิดอธิกรณ์ลงโทษให้สึกเสียแล้วรายงานตามลำดับ ซึ่ง พศ.ได้มีการเวียนประกาศข้อกฎหมายให้แก่พระสังฆาธิการทั่วประเทศอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับทราบระเบียบปฏิบัติของคณะสงฆ์ เพื่อไม่ให้กระทำอะไรที่ล่อแหลม ที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา” โฆษก พศ.กล่าว
** “พุทธอิสระ” ซัดศาสนาเสื่อม คนหาที่ยึดเหนี่ยว
ทางด้าน หลวงปู่พุทธะอิสระ หรือ พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม แห่งวัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้ออกมาเตือนสติเกี่ยวกับกระแสการเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพว่า ในแง่สิทธิมนุษยชนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่โดยภาพรวมต้องบอกว่าเป็นความวิปริตทางสังคมในการแสวงหาที่พึ่ง เหตุเพราะที่พึ่งทางศาสนาล่มสลาย องค์กรสงฆ์ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างซื่อตรง ไม่เผยแพร่อย่างตรงไปตรงมา ที่ผ่านมามีเล่ห์เหลี่ยม ผลประโยชน์แอบแฝงในการเผยแพร่ธรรมอยู่เนืองๆ เมื่อพระสงฆ์ต้องเป็นผู้ให้ แต่ดันมาแปลงร่างเป็นผู้กอบโกย ทำให้สังคมไม่มั่นใจไม่เชื่อใจ ประชาชนจึงหันมาเลี้ยงลูกเทพมากขึ้นเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจตามโฆษณาชวนเชื่อ ตามคนนำมาเสนอ ว่าที่พึ่งแบบนี้เป็นที่พึ่งอันประเสริฐ จน เจ็บ จาก อยากได้ ให้สมบูรณ์แบบ จนเกิดความยอมรับ แต่ก็เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดเป็นช่วงๆ เช่นเดียวกับตามกระแสจตุคามรามเทพ ส่วนจะนิยมนานแค่ไหน อยู่ที่สังคม หากยังขาดความกลัว ขาดสำนึก ขาดปัญญา อย่างนี้ก็จะต่อชีวิตให้ลูกเทพได้มีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น
“กระแสตุ๊กตายางลูกเทพยังเร็วไปที่จะตัดสินว่าตุ๊กตายางให้ต่างตอบแทนให้จริง หรือเป็นการสร้างภาระ คนไทยคงโยนทิ้งเพราะคนไทยขี้เบื่อ จึงเกิดช่องโหว่ ให้มิจฉาชีพมาเอารัดเอาเปรียบครอบงำได้อยู่เสมอ สิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้น ต้องขอโทษองค์กรศาสนา คือ สังฆรัตนะ หรือนักบวชในแต่ละศาสนาไม่ได้ทำหน้าที่อย่างซื่อตรง เลยกลายเป็นว่าประชาชนต้องแสวงหา" หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าว
**ขนานนาม “ลูกสัมภเวสี” แนะ คสช.ดูแล
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวด้วยว่า อยากฝากถึง คุณพ่อ คุณแม่ ตุ๊กตาเทพทั้งหลายว่า วิถีแห่งจิตวิญญาณพระพุทธเจ้ากำหนดสัตว์ให้มี 2 ภพภูมิ คือ ทำดีก็จะได้ไปยัง สุขติภพ สุขติภูมิ แต่ถ้าทำชั่วก็จะได้ไป ทุกข์ติภพ ทุกข์ขติภูมิ หรืออาจเป็น สัมภเวสี อาจมาสิงสถิตในตุ๊กตายางลูกเทพก็เป็นได้ ดังนั้นควรเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “ลูกสัมภเวสี” รวมสรุปแล้วคือ วิปริต วิกลจริต หลอกตัวเอง อยากบอกว่าผิดทั้งหลักธรรม ผิดทั้งวินัย เราเป็นมนุษย์ ทำไมจะต้องมานั่งกราบตุ๊กตายาง อนาคตเราจะสอนลูกหลานได้อย่างไร
“คสช.ไม่น่าจะปล่อยเรื่องนี้ให้ยาวนาน น่าจะใช้อำนาจมาตรวจสอบ เพราะนี่คือการมอมเมาประชาชน ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย” หลวงปู่พุทธะอิสระ ระบุ
** สธ.แนะคุยตุ๊กตารู้เรื่องต้องพบแพทย์
ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพเพื่อช่วยคลายเหงา หรือจะเล่นชั่วครั้งชั่วคราว สามารถทำได้ เพราะถือเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม ควรอยู่ในความเป็นจริง และความพอดี อย่าเกินเลย ถ้าหมกมุ่นจนถึงขั้นเหมือนเกิดจิตหลอน คิดว่าสามารถพูดคุยโต้ตอบ หรือสื่อสารกับตุ๊กตาลูกเทพได้ ก็ต้องกลับมาดูตัวเอง และขอแนะนำว่าควรไปปรึกษาแพทย์
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีระบุว่าที่สามารถสื่อสารได้ เพราะตุ๊กตาลูกเทพได้รับการปลุกเสกขึ้นมานั้น อยากให้คิดว่าของที่ขึ้นชื่อว่าของปลุกเสก ก็ถือว่าเป็นสิ่งสมมติขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องจริง นอกจากนี้ อยากเตือนว่าไม่อยากให้ไปหลงกับโปรโมชั่น และการโฆษณาที่หวังจะค้าขายเพื่อรายได้ เพราะอาจตกเป็นเหยื่อของการตลาดได้
** ตร.สั่งตรวจเข้มหวั่นซุกยาเสพติด
พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้เจ้าหน้าที่มีความเข้มข้นในการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการพกพาตุ๊กตาลูกเทพอาจเป็นช่องทางที่คนร้ายฉวยโอกาสในการซุกซ่อนยาเสพติดไว้ได้ โดยอาจนำเครื่องมือที่เจ้าหน้าที่มีอยู่นำมาใช้เพิ่มเติม เช่น สุนัขตำรวจในการตรวจหายาเสพติด
** รร.หลายแห่งไม่ต้อนรับ“ตุ๊กตาผี”
จากกรณีกระแสข่าวความนิยมเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพ จนภาคธุรกิจด้านการบริหารได้ออกแคมเปญต่างๆรองรับ ทั้งสายการบินบางราย ร้านอาหารบุฟเฟ่ห์ เป็นต้น จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมอย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ ล่าสุดได้มีภาคธุรกิจหลายแห่งประกาศไม่สนับสนุนเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพ เพราะเป็นความเชื่องมงาย รวมทั้งประกาศไม่ต้อนรับบุคคลที่นำตุ๊กตาลูกเทพเข้าใช้บริการ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่พัก
ที่เดอะคันทรีฟาร์ม รีสอร์ท แอนด์ โฮมสเตย์ ใน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เป็นโรงแรมแรกๆ ที่ประกาศห้ามแขกนำตุ๊กตาลูกเทพเข้าพัก โดยได้โพสต์ข้อความบนหน้าแฟนเพจของรีสอร์ทเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ระบุว่า “#ห้าม!!! นำลูกเทพ (ตุ๊กตาผี) เข้ามาในบริเวณรีสอร์ท หากทางรีสอร์ทตรวจพบ ทางเราขอยกเลิกการให้บริการกับผู้เข้าพักทันที” เช่นเดียวกับ อิน เวเปอร์ รีสอร์ท อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และ ไม้หมอนรีสอร์ท อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่โพสต์ประกาศงดรับตุ๊กตาลูกเทพเข้าพักในหน้าเพจเฟซบุคเช่นกัน โดยทั้ง 2 โรงแรมต่างโพสต์ข้อความมีเนื้อความเหมือนกับประกาศของเดอะคันทรีฟาร์ม รีสอร์ทฯ
ขณะที่ ไชน่าทาวน์ รีสอร์ท แอนด์ โฮมสเตย์ อ.เมือง จ.พะเยา ก็ได้ติดป้ายประกาศหน้ารีสอร์ทระบุข้อความประกาศว่า งดให้บริการผู้พกพาตุ๊กตาลูกเทพ เนื่องจากอาจทำให้ผู้ใช้บริการท่านอื่นหวาดระแวง แต่ยินดีต้อนรับผู้พกพาตุ๊กตาทั่วไป
นางพะยอม ธิศรี ผู้ดูแลไชน่าทาวน์ รีสอร์ทฯ เปิดเผยว่า ทางโรงแรมไม่ได้มีเจตนาลบหลู่แต่อย่างใด แต่อยากให้ลูกค้าเข้าใจว่า ตุ๊กตาลูกเทพอาจจะก่อความเดือดร้อนให้แก่ลูกค้าผู้ที่เข้าพักคนอื่นในเรื่องจิตวิทยาในการที่อาจจะนอนไม่หลับ และหากลูกค้ามีเด็กมาพักด้วยก็จะทำให้เกิดการหวาดกลัวจนไม่กล้าเข้าพักที่นี่ได้
เช่นเดียวกับที่ สวนวังทิพย์ โฮมสเตย์ อ.เมือง จ.นครนายก ก็ได้โพสต์ข้อความบนหน้าแฟนเพจของรีสอร์ทเช่นกัน โดยมีข้อความว่า ห้ามนำลูกเทพเข้ามาภายในบริเวณโฮมสเตย์ของเรา เพราะไม่สนับสนุนความงมงายอันไร้สาระ ความเชื่อผิดๆ โดยปราศจากเหตุผล.