สนง.ผู้ตรวจฯ พร้อมสอบกทม. บริหารงานเป็นธรรมหรือไม่หลัง ทุ่มงบกว่า 39 ล้านจัดอุโมงค์ไฟ แต่ไม่เยียวยาปชช.ตกท่อระบายน้ำหากมีการร้องเรียน ขณะที่ชาวเน็ตแซว "ไฟประดับปีใหม่ กทม." ถลุงงบ 39 ล้าน แต่ทำเหมือนไฟงานวัด ด้าน กทม.แจงโปร่งใส-ไม่ได้ใช้งบฉุกเฉิน ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยดีขึ้น
นายรักษเกชา แฉ่ฉายเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึง กรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า กทม.ทุ่มเงินกว่า 39 ล้านบาท จัดอุโมงค์ไฟฟ้าฉลองปีใหม่ แต่อ้างว่าไม่มีระเบียบทางราชการจ่ายเงินเยียวยาประชาชนประสบอุบัติเหตุตกฝาท่อระบายน้ำของกทม. และได้รับบาดเจ็บว่า เรื่องดังกล่าวหากประชาชนมีข้อสงสัย หรือคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐ ก็สามารถร้องมาที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ เพื่อให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือหาทางเยียวยาให้ตามกฎหมายได้
อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นในเฟซบุ๊กเพจ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.กันอย่างล้นหลาม โดยส่วนหนึ่งทักท้วงว่าไฟดังกล่าวดูไม่คุ้มค่างบประมาณ 30 กว่าล้านบาท โดยไฟตามงานวัดบางแห่งยังดูดีกว่าเสียอีก และควรนำงบประมาณดังกล่าวไปเพิ่มไฟจราจร, เพิ่มไฟแสงสว่าง หรือซ่อมกล้องซีซีทีวีที่เสียจะได้ประโยชน์กว่าหรือไม่ เช่น
Pitt Panit Techapongtada - เรียนท่านผู้ว่า ที่ผมเคยแจ้งไป 6 เดือนก่อน เรื่องช่วยติดไฟแดงสำหรับข้ามถนนตรงถนนสีลมแยกนราธิวาช และติดรั้วกั้นถนนสีลม เพราะ 2 จุดนี้เกิด อุบัติเหตุบ่อยมาก ไม่ทราบดำเนินการถึงไหนแล้วครับ ผมคิดว่าความปลอดภัยในชีวิตคนกรุงเทพ มีค่ามากกว่าแสงสีแห่งความสุข
Ni Nisa Nisa - ช่วยแบ่งงบที่ทำไฟนี้มาซ่อมกล้อง cctv บ้างก็ดีนะคะ ประชาชนเดือดร้อนมาก มีเหตุการทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นยิงกันสาหัส จนป่านนี้ยังจับคนร้ายไม่ได้เลย อีกเหตุการณ์ขโมยขึ้นบ้านเราเองค่ะ ถ้ากล้องไม่เสียก็คงจับขโมยได้แล้ว กล้องที่เสียอยู่บริเวณ สถานีรถไฟรางโพธิ์ ในพื้นที่เขตบางบอน มีกล้องตั้ง 5 ตัวในเสาเดียวกัน แต่เสียทุกตัว
***กทม.แจงโปร่งใส-คุ้มค่า
น.ส.ปราณี สัตยประกอบ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า งบประมาณที่กทม. ใช้จัดประดับไฟ เป็นเงินจัดสรรประจำปี 2559 ไม่ได้เป็นงบฉุกเฉินตามที่เป็นข่าว
"ยืนยันว่าการจัดงานดังกล่าวมีความคุ้มค่าเพราะเมื่อมีการจัดกิจกรรมรื่นเริง จะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยดีขึ้น ซึ่งจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจ อย่างไรก็ตามอยากให้ใจกว้างมองการจัดงานประดับไฟให้เป็นธรรม มองให้เป็นบวก"น.ส.ปราณีกล่าว
นายรักษเกชา แฉ่ฉายเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึง กรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า กทม.ทุ่มเงินกว่า 39 ล้านบาท จัดอุโมงค์ไฟฟ้าฉลองปีใหม่ แต่อ้างว่าไม่มีระเบียบทางราชการจ่ายเงินเยียวยาประชาชนประสบอุบัติเหตุตกฝาท่อระบายน้ำของกทม. และได้รับบาดเจ็บว่า เรื่องดังกล่าวหากประชาชนมีข้อสงสัย หรือคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐ ก็สามารถร้องมาที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ เพื่อให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือหาทางเยียวยาให้ตามกฎหมายได้
อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นในเฟซบุ๊กเพจ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.กันอย่างล้นหลาม โดยส่วนหนึ่งทักท้วงว่าไฟดังกล่าวดูไม่คุ้มค่างบประมาณ 30 กว่าล้านบาท โดยไฟตามงานวัดบางแห่งยังดูดีกว่าเสียอีก และควรนำงบประมาณดังกล่าวไปเพิ่มไฟจราจร, เพิ่มไฟแสงสว่าง หรือซ่อมกล้องซีซีทีวีที่เสียจะได้ประโยชน์กว่าหรือไม่ เช่น
Pitt Panit Techapongtada - เรียนท่านผู้ว่า ที่ผมเคยแจ้งไป 6 เดือนก่อน เรื่องช่วยติดไฟแดงสำหรับข้ามถนนตรงถนนสีลมแยกนราธิวาช และติดรั้วกั้นถนนสีลม เพราะ 2 จุดนี้เกิด อุบัติเหตุบ่อยมาก ไม่ทราบดำเนินการถึงไหนแล้วครับ ผมคิดว่าความปลอดภัยในชีวิตคนกรุงเทพ มีค่ามากกว่าแสงสีแห่งความสุข
Ni Nisa Nisa - ช่วยแบ่งงบที่ทำไฟนี้มาซ่อมกล้อง cctv บ้างก็ดีนะคะ ประชาชนเดือดร้อนมาก มีเหตุการทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นยิงกันสาหัส จนป่านนี้ยังจับคนร้ายไม่ได้เลย อีกเหตุการณ์ขโมยขึ้นบ้านเราเองค่ะ ถ้ากล้องไม่เสียก็คงจับขโมยได้แล้ว กล้องที่เสียอยู่บริเวณ สถานีรถไฟรางโพธิ์ ในพื้นที่เขตบางบอน มีกล้องตั้ง 5 ตัวในเสาเดียวกัน แต่เสียทุกตัว
***กทม.แจงโปร่งใส-คุ้มค่า
น.ส.ปราณี สัตยประกอบ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า งบประมาณที่กทม. ใช้จัดประดับไฟ เป็นเงินจัดสรรประจำปี 2559 ไม่ได้เป็นงบฉุกเฉินตามที่เป็นข่าว
"ยืนยันว่าการจัดงานดังกล่าวมีความคุ้มค่าเพราะเมื่อมีการจัดกิจกรรมรื่นเริง จะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยดีขึ้น ซึ่งจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจ อย่างไรก็ตามอยากให้ใจกว้างมองการจัดงานประดับไฟให้เป็นธรรม มองให้เป็นบวก"น.ส.ปราณีกล่าว