นายกฯ ยกคณะบินลงปักษ์ใต้ "สุราษฎร์-สงขลา" วันนี้ ติดตามการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประชารัฐ มาตรการเสริมชาวสวนยางปลูกพืชอื่นแซม แก้ปัญหาราคาตกต่ำ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 28 ธ.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าคสช. มีกำหนดการเดินทางไปราชการ จ.สุราษฎร์ธานี และ สงขลา เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินการตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล กิจกรรมประชารัฐ ติดตามผลสัมฤทธิ์จากมาตรการเสริมเรื่องยางพารา ที่รัฐบาลได้มีลงไป เช่น การปลูกพืชเสริม การเลี้ยงสัตว์ควบคู่ไปด้วย เพราะไม่อยากให้ชาวสวนยาง ฝากชีวิตไว้กับการปลูกยางพาราเพียงอย่างเดียว เนื่องจากสุ่มเสี่ยงเวลาราคายางตกต่ำ จะทำให้ลำบาก หลังจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาตรการกำกับเพิ่มเติม ใครปลูกพืชอื่นเสริม มีแหล่งเงินทุนไปให้ โดยจะมีเกษตรกร ที่ทำแล้วดีขึ้นมาเป็นตัวอย่าง เพื่อเป็นแรงจูงใจชาวสวนยางในพื้นที่หันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตามที่รัฐบาลแนะนำ
ขณะเดียวกัน นอกจากติดตามนโยบายการขับเคลื่อน ดูผลสัมฤทธิ์ ติดตามการทำงานของข้าราชการในพื้นที่ รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน เพียงแต่ว่า เวลาไม่มากนัก แต่จะพยายามลงพื้นที่ให้มากขึ้น ตามที่นายกฯ เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า ปีที่สองของรัฐบาล นโยบายต่างๆมีความชัดเจนมากขึ้นทุกเรื่องแล้ว เพียงแต่อยากติดตามผลสัมฤทธิ์ วางแผนไว้จากนี้ไปต้องมีความชัดเจนเป็นระยะๆว่า ระยะเวลาเท่านี้ ต้องเกิดอะไรขึ้น ดัชนีชี้วัด คืออะไร เป็นไปตามนั้นหรือไม่ ที่ได้วางไว้ตามโรดแมปในระยะเวลาที่เหลือ 1 ปี 6 เดือน
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ของนายกฯ และคณะ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี จะเดินทางไปดูโครงการปลูกกล้วยหอมทองแซมในสวนยางพารา ตรวจเยี่ยมกิจกรรมประชารัฐ ในโครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง จำนวน 350 ราย จากนั้น เดินทางไปนิคมอุตสาหกรรมภาคภาคใต้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับฟังบรรยายสรุปพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ พร้อมเปิดศูนย์บริการลงทุนโครงการนิคมอุตสาหกรรมเมืองยาง เดินทางไป ด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ทำพิธีเปิด และเยี่ยมชมอาคารด่านพรหมแดนสะเดาขาออก พบปะประชาชน พร้อมไปเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.สะเดา จากนั้น นายกฯ และคณะเดินทางกลับกรุงเทพฯ.
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 28 ธ.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าคสช. มีกำหนดการเดินทางไปราชการ จ.สุราษฎร์ธานี และ สงขลา เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินการตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล กิจกรรมประชารัฐ ติดตามผลสัมฤทธิ์จากมาตรการเสริมเรื่องยางพารา ที่รัฐบาลได้มีลงไป เช่น การปลูกพืชเสริม การเลี้ยงสัตว์ควบคู่ไปด้วย เพราะไม่อยากให้ชาวสวนยาง ฝากชีวิตไว้กับการปลูกยางพาราเพียงอย่างเดียว เนื่องจากสุ่มเสี่ยงเวลาราคายางตกต่ำ จะทำให้ลำบาก หลังจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาตรการกำกับเพิ่มเติม ใครปลูกพืชอื่นเสริม มีแหล่งเงินทุนไปให้ โดยจะมีเกษตรกร ที่ทำแล้วดีขึ้นมาเป็นตัวอย่าง เพื่อเป็นแรงจูงใจชาวสวนยางในพื้นที่หันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตามที่รัฐบาลแนะนำ
ขณะเดียวกัน นอกจากติดตามนโยบายการขับเคลื่อน ดูผลสัมฤทธิ์ ติดตามการทำงานของข้าราชการในพื้นที่ รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน เพียงแต่ว่า เวลาไม่มากนัก แต่จะพยายามลงพื้นที่ให้มากขึ้น ตามที่นายกฯ เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า ปีที่สองของรัฐบาล นโยบายต่างๆมีความชัดเจนมากขึ้นทุกเรื่องแล้ว เพียงแต่อยากติดตามผลสัมฤทธิ์ วางแผนไว้จากนี้ไปต้องมีความชัดเจนเป็นระยะๆว่า ระยะเวลาเท่านี้ ต้องเกิดอะไรขึ้น ดัชนีชี้วัด คืออะไร เป็นไปตามนั้นหรือไม่ ที่ได้วางไว้ตามโรดแมปในระยะเวลาที่เหลือ 1 ปี 6 เดือน
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ของนายกฯ และคณะ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี จะเดินทางไปดูโครงการปลูกกล้วยหอมทองแซมในสวนยางพารา ตรวจเยี่ยมกิจกรรมประชารัฐ ในโครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง จำนวน 350 ราย จากนั้น เดินทางไปนิคมอุตสาหกรรมภาคภาคใต้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับฟังบรรยายสรุปพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ พร้อมเปิดศูนย์บริการลงทุนโครงการนิคมอุตสาหกรรมเมืองยาง เดินทางไป ด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ทำพิธีเปิด และเยี่ยมชมอาคารด่านพรหมแดนสะเดาขาออก พบปะประชาชน พร้อมไปเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.สะเดา จากนั้น นายกฯ และคณะเดินทางกลับกรุงเทพฯ.