นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เสนอว่า ร่างกฎหมายใดที่ผ่านการพิจารณาของฝ่ายนิติบัญญัติแล้ว จะต้องเว้นระยะไว้ 5 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบถ้อยคำ ก่อนจะเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ว่าตนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเพิ่มระยะเวลาการพิจารณาถ้อยคำ ในเมื่อการพิจารณาความถูกต้องของถ้อยคำนั้น สามารถใช้เวลาในช่วงวาระกฤษฎีกา และวาระรายมาตรา เพื่อตรวจสอบได้อยู่แล้ว เพราะว่ามีทั้งนิติกร และผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายทำหน้าที่ตรงนี้อยู่ ตนคิดว่าถ้าหากเพิ่มเวลาไปอีกนั้นก็จะทำให้ขั้นตอนการเสนอ จัดทำกฎหมายช้าขึ้นไปอีก ดังนั้นเรื่องนี้ตนไม่เห็นด้วย
นายวิรัตน์ กล่าวต่อว่า แต่ตนเห็นด้วยกับข้อบัญญัติของ กรธ.ที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องมาตอบกระทู้ซักถามในสภาด้วยตัวเอง อันนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ส่วนกรณีที่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้เสนอประเด็นการปฏิรูปแบ่งออกเป็น 6 ประเด็น ตนเห็นด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของการขจัดอิทธิพลกลุ่มทุนทางการเมือง ต้องยอมรับว่า ปัญหาของการเมืองไทยอยู่ที่กลุ่มทุนที่เข้ามายุ่งกับการเมือง ทำให้นักการเมืองไม่สามารถเดินหน้าไปได้ เพราะผู้มีเงินเป็นตัวชี้ขาด เมื่อลงทุนไปแล้ว พรรคการเมืองที่สนับสนุนเข้ามามีอำนาจ กลุ่มทุนเหล่านี้ ก็จะต้องมีการถอนทุนคืน จนนำไปสู่การทุจริตในเชิงนโยบาย ดังนั้นความคิดเพื่อลดกลุ่มทุนจึงถูกต้อง แต่ปัญหาก็คือจะลดอิทธิพลของกลุ่มทุนอย่างไรให้มีผลในทางปฏิบัติได้จริง ตรงนี้ตนคิดว่า ต้องไปดูในรายละเอียดที่ควรจะต้องจับต้องได้ต่อไป
นายวิรัตน์ กล่าวต่อว่า แต่ตนเห็นด้วยกับข้อบัญญัติของ กรธ.ที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องมาตอบกระทู้ซักถามในสภาด้วยตัวเอง อันนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ส่วนกรณีที่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้เสนอประเด็นการปฏิรูปแบ่งออกเป็น 6 ประเด็น ตนเห็นด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของการขจัดอิทธิพลกลุ่มทุนทางการเมือง ต้องยอมรับว่า ปัญหาของการเมืองไทยอยู่ที่กลุ่มทุนที่เข้ามายุ่งกับการเมือง ทำให้นักการเมืองไม่สามารถเดินหน้าไปได้ เพราะผู้มีเงินเป็นตัวชี้ขาด เมื่อลงทุนไปแล้ว พรรคการเมืองที่สนับสนุนเข้ามามีอำนาจ กลุ่มทุนเหล่านี้ ก็จะต้องมีการถอนทุนคืน จนนำไปสู่การทุจริตในเชิงนโยบาย ดังนั้นความคิดเพื่อลดกลุ่มทุนจึงถูกต้อง แต่ปัญหาก็คือจะลดอิทธิพลของกลุ่มทุนอย่างไรให้มีผลในทางปฏิบัติได้จริง ตรงนี้ตนคิดว่า ต้องไปดูในรายละเอียดที่ควรจะต้องจับต้องได้ต่อไป