FEEL GOOD ขอนำภาพยนตร์ฟิลกูดแดดดี้สไตล์มาเสนอไว้เป็นตัวเลือกช่วงวันหยุดยาวต้อนรับวันพ่อเช่นนี้ สำหรับลูกๆ ที่ไม่ได้พาคุณพ่อไปทานข้าวเฉลิมฉลองนอกบ้าน เกรงว่าอยู่บ้านเฉยๆ คงน่าเบื่อน่าดู จึงอยากชวนมาดูหนังกันให้สนุกสนานแบบครอบครัวสุขสันต์กับหนังซูปเปอร์แดดที่เราเตรียมมาให้ชม รับรองว่าวันหยุดนี้ดูเพลินแถมรักพ่อมากกว่าเดิม!
‘Life is Beautiful’ กวาด 3 รางวัลออสก้า!
แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะฉายในปี 1997 ฟังดูแล้วหลายคนอาจไม่คุ้นหูคุ้นตาเท่าไหร่นัก แต่เชื่อเถอะว่าเรื่องราวในหนังอัดแน่นไว้คุณภาพคับจอจริงๆ โดยได้รับการการันตีจากรางวัลออสกาไปถึงสามรางวัลด้วยกัน ทั้งนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม
ภาพยนตร์ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านครอบครัวหนึ่งที่มีความสัมพันธ์ของพ่อ-ลูกเป็นหลัก เรื่องราวเกิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง การเล่าเรื่องอย่างมีสีสันแต่ปะปนไปด้วยความโหดร้ายของสงคราม ถือเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่ง ซึ่งทำให้คนดูรู้สึกว่าแม้จะอยู่ในภาวะสงครามแสดหดหู่และโหดร้าย พ่อจะไม่ยอมให้สงครามพรากความสดใสในวัยเด็กของลูกไปได้เป็นอันขาด โดยแสดงให้เห็นว่าโลกใบนี้นั้นสวยงามเพียงใด
‘Real Steel’ หนังหุ่นยนต์ก็ซึ้งได้!
หากใครได้เห็นภาพโปสเตอร์และตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วคงจินตนาการไม่ออกว่า หนังหุ่นยนต์นี่เหรอจะทำซึ้งได้ ดูๆ แล้วน่าจะเป็นหนังที่ผู้ใหญ่ดูได้ เด็กดูดี เหมาะกับสาวกคนชอบหุ่นยนต์หรือหนังแนวแอคชั่น ดราม่า ไซไฟ แม้ในภาพยนตร์จะเน้นหุ่นยนต์เป็นตัวดำเนินเรื่อง แต่หารู้ไม่ว่าเจ้าหุ่นแสนอึด ถึก ทน นี่แหละที่เป็นตัวสำคัญในการสานความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกที่เกือบขาดสะบั้นไปแล้วให้กลับมาสวยงามได้อีกครั้งหนึ่ง
‘The Pursuit of Happiness’ ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้
“อย่าให้ใครมาบอกว่าลูกทำนั่นทำนี่ไม่ได้ เมื่อลูกมีความฝัน ลูกต้องปกป้องมัน” คำสอนของคนเป็นพ่อที่บอกกับลูกตัวเองเพื่อให้ศรัทธาและซื่อสัตย์ต่อความฝัน - The Pursuit of Happiness’
เชื่อว่าคอหนังทั้งหลายคงไม่พลาดดูภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นภาพยนตร์ที่เรียกน้ำตาและซึ้งกินใจจนเป็นหนังในดวงใจของใครหลายคนไปแล้ว เรื่องนี้เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงของชีวิต ‘คริส การ์ดเนอร์’ ผู้ที่หมดตัวไปกับเครื่องสแกนกระดูก และดิ้นรนในการดำเนินชีวิตเพื่อต้องการไปเป็นโบรกเกอร์หุ้น ทว่า เรื่องราวทั้งหมดคนไม่มีอะไรน่าสนใจหากเขาไม่ได้มีภาระที่ต้องดูแลลูกน้อยด้วย ทำให้เขาต้องพยายามมากกว่าเดิมเพื่อความสุขของครอบครัว ด้วยการเปลี่ยนแรงกดดันให้เป็นแรงผลักไปสู่ความสำเร็จ
‘Mrs.Doubtfire’ หนังครอบครัวหัวใจชุ่มฉ่ำ
เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดหนังครอบครัวที่ทุกคนควรดู ยิ่งคอหนังคอมมาดี้ด้วยแล้วยิ่งไม่ควรพลาดเป็นอันขาด เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากความล้มเหลวในชีวิตคู่ที่ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ แม้พ่อแม่หมดรักกันแต่ไม่ได้หมายความว่าจะหมดรักในตัวลูก “แดเนียล ฮิลลาร์ด” ต้องหย่าขาดจากภรรยา เขาแทบจะทนไม่ได้ที่ต้องอยู่ห่างจากลูกๆ เขาจึงตัดสินใจปลอมตัวเป็นแม่บ้านหญิงใช้ชื่อว่า “มิสซิส เดาต์ไฟร์” เข้าไปดูแลลูกๆ ของเขา ความยุ่งเหยิง วุ่นวาย น่ารัก อบอุ่น ซาบซึ้ง และความตลกโปกฮา จึงเริ่มต้นขึ้น
‘We Bought a Zoo’ สวนสัตว์อัศจรรย์ของขวัญให้ ‘ลูก’
อีกหนึ่งภาพยนตร์แนวครอบครัวสุขสันต์ที่ควรดูในวันหยุดนี้ ลองจินตนาการว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องย้ายถิ่นฐานและครอบครัวตัวเองไปอยู่ในที่ๆ ห่างไกลความเจริญของเมือง แวดล้อมด้วยต้นไม้และทุ่งหญ้าเขียวขจี แต่อึกทึกครึกโครมไปด้วยสรรพเสียงของสิงห์สาราสัตว์ ‘เบนจามิน มี’ ชายหนุ่มลูกติดที่ย้ายครอบครัวมาอยู่ชนบท โดยพยายามที่จะฟื้นฟูสวนสัตว์แห่งหนึ่งที่กำลังจะล้มละลายให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง รวมไปถึงชีวิตรักของเขาเองด้วย นี่จึงเป็นบททดสอบของผู้เป็นพ่อว่าจะผ่านด่านอุปสรรคนี่ไปได้หรือไม่
Like Father..Like Son พ่อจ๋า..รักผมได้ไหม?
ถือเป็นภาพยนตร์ที่นักวิจารณ์หนังพูดถึงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ สำหรับ Like Father Like Son แม้ว่าพล็อตเรื่องลูกถูกสลับตัวจะดูธรรมดาไม่น่าสนใจอะไร แต่ความพิเศษของภาพยนตร์เรื่องนี่ทำได้ดีจนคอหนังต้องเสียน้ำตาและยกให้เป็นภาพยนตร์ดราม่าครอบครัวที่ดีที่สุด เรื่องราวถูกถ่ายทอดผ่านสองครอบครัวที่มีความต่างอย่างสุดขั้ว เป็นเรื่องราวของครอบครัวโนโนมิยะอันเพียบพร้อมที่ทราบข่าวร้ายว่า เคตะ ลูกชายที่พวกเขาเลี้ยงดูมา 6 ปีนั้นไม่ใช่ลูกแท้ๆ
ในขณะที่ลูกชายสายเลือดเดียวกันคือ ริวเซ ถูกสลับตัวไปเลี้ยงดูอยู่กับครอบครัวไซกิ เจ้าของร้านขายหลอดไฟเล็กๆ ในชนบท สองครอบครัวที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จึงต้องมาร่วมมือกันหาทางออกจากปัญหานี้ ทว่าจะทำอย่างไร ในเมื่อต้องเลือกระหว่างเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองกับความผูกพันธ์ที่ยาวนานถึง 6 ปี
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูล
http://movietvtechgeeks.com/
http://www.rollingstone.com/movies
http://www.nbcnewyork.com/