ผู้จัดการรายวัน360 - ดีเอสไอทำหนังสือถึงเลขาฯก.ล.ต.สาวเส้นทางเงินคดีฟอกเงินแบงก์กรุงไทย หลังพบมีเงินออกไปจองซื้อหุ้นบริษัทท่าอากาศยานไทย เผย “ลูกโอ๊ค” พานทองแท้ มีหนาวแน่ ชื่อเอี่ยวเส้นทางเงินกู้ 9.9 พันล้านที่ปล่อยให้เครือกฤษดามหานคร เตรียมเรียกตัวสอบ
วานนี้ (1 ธ.ค.) พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนในคดีฟอกเงินธนาคารกรุงไทย ว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขอสอบปากคำการจองซื้อหุ้นสำคัญเพิ่มของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. 2547 เนื่องจากพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าว พบว่า มีจำนวนเงินที่นำออกไปซื้อหุ้นเพิ่ม ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการประสานขอเข้าให้ปากคำแก่พนักงานสืบสวนสอบสวน
พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวอีกว่า โดยคณะทำงานได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม 1.กรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้บริษัท อาร์เคโปรเฟสชั่นแนล จำกัด (เครือกฤษดามหานคร) 500 ล้านบาท จะเชิญบุคคลเข้ามาให้ปากคำจำนวน 32 คน ซึ่งในส่วนนี้ไม่มีเครือข่ายนักการเมือง แต่เป็นบุคคลที่ปรากฏหลักฐานว่ารับเงินจากนายวิชัย กฤษดาธานนท์ 2.กรณีธนาคากรุงไทปล่อยกู้บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (เครือกฤษดามหานคร) 9.9 พันล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้จะมีชื่อของเครือข่ายการเมือง อาทิ นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ต ลูกชาย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อตรวจสอบดูว่ามีการนำเงินทั้งสองจำนวนนี้ออกไปให้ใครบ้าง และจะเรียกผู้ที่ปรากฏรายชื่อเข้ามาสอบปากคำต่อไป ทั้งนี้ ในกลุ่ม 500 ล้านบาทนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งข้อมูลมายังตนบ้างแล้ว ซึ่งในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ตนจะทำหนังสือเชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในจำนวนเงินดังกล่าว 32 คน มาสอบปากคำ ทั้งนี้ การสอบปากคำดังกล่าว เบื้องต้นเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน
พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า สำหรับชื่อนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค ลูกชายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่านายพานทองแท้มีชื่อเกี่ยวข้องในเส้นทางการเงินของกลุ่ม 9,900 ล้านบาท แต่เนื่องจากขณะนี้พนักงานสอบสวนกลุ่มดังกล่าวยังไม่ได้ส่งข้อมูลมายังตน จึงยังไม่ได้มีการเรียกนายพานทองแท้แต่อย่างใด ทั้งนี้ คาดว่า หากพนักงานสอบสวนส่งข้อมูลการตรวจสอบมาให้ตนแล้ว จึงจะทำการเรียกในภายหลังต่อไป
วานนี้ (1 ธ.ค.) พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนในคดีฟอกเงินธนาคารกรุงไทย ว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขอสอบปากคำการจองซื้อหุ้นสำคัญเพิ่มของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. 2547 เนื่องจากพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าว พบว่า มีจำนวนเงินที่นำออกไปซื้อหุ้นเพิ่ม ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการประสานขอเข้าให้ปากคำแก่พนักงานสืบสวนสอบสวน
พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวอีกว่า โดยคณะทำงานได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม 1.กรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้บริษัท อาร์เคโปรเฟสชั่นแนล จำกัด (เครือกฤษดามหานคร) 500 ล้านบาท จะเชิญบุคคลเข้ามาให้ปากคำจำนวน 32 คน ซึ่งในส่วนนี้ไม่มีเครือข่ายนักการเมือง แต่เป็นบุคคลที่ปรากฏหลักฐานว่ารับเงินจากนายวิชัย กฤษดาธานนท์ 2.กรณีธนาคากรุงไทปล่อยกู้บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (เครือกฤษดามหานคร) 9.9 พันล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้จะมีชื่อของเครือข่ายการเมือง อาทิ นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ต ลูกชาย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อตรวจสอบดูว่ามีการนำเงินทั้งสองจำนวนนี้ออกไปให้ใครบ้าง และจะเรียกผู้ที่ปรากฏรายชื่อเข้ามาสอบปากคำต่อไป ทั้งนี้ ในกลุ่ม 500 ล้านบาทนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งข้อมูลมายังตนบ้างแล้ว ซึ่งในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ตนจะทำหนังสือเชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในจำนวนเงินดังกล่าว 32 คน มาสอบปากคำ ทั้งนี้ การสอบปากคำดังกล่าว เบื้องต้นเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน
พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า สำหรับชื่อนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค ลูกชายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่านายพานทองแท้มีชื่อเกี่ยวข้องในเส้นทางการเงินของกลุ่ม 9,900 ล้านบาท แต่เนื่องจากขณะนี้พนักงานสอบสวนกลุ่มดังกล่าวยังไม่ได้ส่งข้อมูลมายังตน จึงยังไม่ได้มีการเรียกนายพานทองแท้แต่อย่างใด ทั้งนี้ คาดว่า หากพนักงานสอบสวนส่งข้อมูลการตรวจสอบมาให้ตนแล้ว จึงจะทำการเรียกในภายหลังต่อไป