วานนี้ (26พ.ย.) ที่สำนักงานการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้มีการประชุมคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ โดยมีวาระลับเร่งด่วน เรื่องการพิจารณาตำแหน่งผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ของ นายกฤษดา รักษากุล ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ถูกกดดันให้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระ
ภายหลังการประชุม นายพิชิต อัคราทิตย์ ประธานบอดร์ด กคช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้เห็นพ้องให้ นายกฤษดา ยุติการทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ กคช. ก่อนหมดวาระในเดือนมิ.ย.59 ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ต่อองค์กร และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลกำลังเดินหน้า พร้อมทั้งเสนอให้ น.ส.อุบลวรรณ สืบยุบล รองผู้ว่าฯ กคช. รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กคช. จนกว่าจะพิจารณาแต่งตั้งคนใหม่ โดยจะนำเสนอมติที่ประชุมต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ บอร์ดกคช.พิจารณา ตนยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการกดดัน และไม่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตามที่มีกระแสข่าว แต่เป็นการประเมินจากผลการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ให้โอกาสในการทำงานมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว ต้องยอมรับว่า ไม่สามารถสนองงานตามนโยบายที่มอบหมายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาแฟลตดินแดง และการขับเคลื่อนเรื่องที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการดูแลประชาชนระดับล่าง แต่โครงการและปัญหาต่างๆ นายกฤษดา ไม่สามารถบริหารจัดการและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ตามเป้าหมาย
“ถ้าไม่ออก ผมก็คงปลด เพราะให้โอกาสแล้ว ถ้าทำไม่ได้ ก็ให้คนอื่นมาทำ รองผู้ว่าฯ คนไหนที่มีความรู้ความสามารถ และพร้อมขับเคลื่อนงานอย่างเต็มที่ เข้ามาทำเลย ผมเรียกประชุมติดตามงานทุกเรื่องทุกเช้า บางงานผมก็ลงพื้นที่ไปติดตามด้วยตนเอง ดังนั้นผู้บริหารทุกคนต้องสู้งาน ต้องมีความเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนงานอย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน ดังนั้น คนไหนทำไม่ได้ก็ต้องพิจารณา ไม่เฉพาะ กคช. แต่รวมถึงผู้บริหารทุกกรม และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ที่ได้มอบหมายให้แก้ปัญหาบ้านเรือนที่รุกล้ำแนวคลองลาดพร้าว ถ้ายังไม่คืบหน้า ก็ต้องถูกพิจารณาเช่นกัน” พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว
ขณะที่ นายกฤษดา ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ถ้าจะพูดอะไรไปคงไม่เหมาะสม แต่ยืนยันว่าตนตั้งใจทำงานเต็มที่ ส่วนจะประเมินผลงานตนอย่างไรนั้น เป็นเรื่องของเจ้านาย ตนคงพูดอะไรไม่ได้ เพราะต้องการรักษาความรู้สึกไว้ ซึ่งขณะนี้ตนเหลือวาระการดำรงตำแหน่งเพียง 7 เดือนเท่านั้น.
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ตนบอกให้ทุกกระทรวงไปขับเคลื่อน ถ้าใครมีประสิทธิภาพ ก็ทำต่อไป ใครไม่มีประสิทธิภาพ ก็ให้พิจารณามา ถ้ามีความผิดก็ลงโทษ
เมื่อถามว่าหากปลด หรือให้ผู้ว่าการ กคช.ลาออก ในระหว่างที่รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยจะกระทบต่อการทำงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ลาออกได้เลย ใครอยากลาออกก็ลาออกไป จะกระทบตรงไหน เขาทำได้คนเดียวหรือ คนใหม่ก็มาทำได้
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า เรื่องนี้ ตนไม่รู้ เพราะอยู่คนละสายงาน ตนไม่ได้ดูแลกระทรวงพม. แค่เข้าไปช่วยเฉยๆ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีนาย กฤษฎา ก็ไม่กระทบกับแผนงาน เพราะคนอื่นเขาก็ทำเรื่องนี้อยู่ ไม่ใช่มีแค่นายกฤษฎาคนเดียวที่ทำได้ เพราะผู้ว่าการเคหะฯ ก็ต้องทำตามนโยบายของรัฐมนตรี ไม่ใช่ว่าไปคิด ไปหาเอง จึงเชื่อว่าไม่กระทบต่อแผนงานของรัฐบาล
ภายหลังการประชุม นายพิชิต อัคราทิตย์ ประธานบอดร์ด กคช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้เห็นพ้องให้ นายกฤษดา ยุติการทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ กคช. ก่อนหมดวาระในเดือนมิ.ย.59 ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ต่อองค์กร และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลกำลังเดินหน้า พร้อมทั้งเสนอให้ น.ส.อุบลวรรณ สืบยุบล รองผู้ว่าฯ กคช. รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กคช. จนกว่าจะพิจารณาแต่งตั้งคนใหม่ โดยจะนำเสนอมติที่ประชุมต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ บอร์ดกคช.พิจารณา ตนยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการกดดัน และไม่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตามที่มีกระแสข่าว แต่เป็นการประเมินจากผลการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ให้โอกาสในการทำงานมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว ต้องยอมรับว่า ไม่สามารถสนองงานตามนโยบายที่มอบหมายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาแฟลตดินแดง และการขับเคลื่อนเรื่องที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการดูแลประชาชนระดับล่าง แต่โครงการและปัญหาต่างๆ นายกฤษดา ไม่สามารถบริหารจัดการและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ตามเป้าหมาย
“ถ้าไม่ออก ผมก็คงปลด เพราะให้โอกาสแล้ว ถ้าทำไม่ได้ ก็ให้คนอื่นมาทำ รองผู้ว่าฯ คนไหนที่มีความรู้ความสามารถ และพร้อมขับเคลื่อนงานอย่างเต็มที่ เข้ามาทำเลย ผมเรียกประชุมติดตามงานทุกเรื่องทุกเช้า บางงานผมก็ลงพื้นที่ไปติดตามด้วยตนเอง ดังนั้นผู้บริหารทุกคนต้องสู้งาน ต้องมีความเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนงานอย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน ดังนั้น คนไหนทำไม่ได้ก็ต้องพิจารณา ไม่เฉพาะ กคช. แต่รวมถึงผู้บริหารทุกกรม และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ที่ได้มอบหมายให้แก้ปัญหาบ้านเรือนที่รุกล้ำแนวคลองลาดพร้าว ถ้ายังไม่คืบหน้า ก็ต้องถูกพิจารณาเช่นกัน” พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว
ขณะที่ นายกฤษดา ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ถ้าจะพูดอะไรไปคงไม่เหมาะสม แต่ยืนยันว่าตนตั้งใจทำงานเต็มที่ ส่วนจะประเมินผลงานตนอย่างไรนั้น เป็นเรื่องของเจ้านาย ตนคงพูดอะไรไม่ได้ เพราะต้องการรักษาความรู้สึกไว้ ซึ่งขณะนี้ตนเหลือวาระการดำรงตำแหน่งเพียง 7 เดือนเท่านั้น.
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ตนบอกให้ทุกกระทรวงไปขับเคลื่อน ถ้าใครมีประสิทธิภาพ ก็ทำต่อไป ใครไม่มีประสิทธิภาพ ก็ให้พิจารณามา ถ้ามีความผิดก็ลงโทษ
เมื่อถามว่าหากปลด หรือให้ผู้ว่าการ กคช.ลาออก ในระหว่างที่รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยจะกระทบต่อการทำงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ลาออกได้เลย ใครอยากลาออกก็ลาออกไป จะกระทบตรงไหน เขาทำได้คนเดียวหรือ คนใหม่ก็มาทำได้
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า เรื่องนี้ ตนไม่รู้ เพราะอยู่คนละสายงาน ตนไม่ได้ดูแลกระทรวงพม. แค่เข้าไปช่วยเฉยๆ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีนาย กฤษฎา ก็ไม่กระทบกับแผนงาน เพราะคนอื่นเขาก็ทำเรื่องนี้อยู่ ไม่ใช่มีแค่นายกฤษฎาคนเดียวที่ทำได้ เพราะผู้ว่าการเคหะฯ ก็ต้องทำตามนโยบายของรัฐมนตรี ไม่ใช่ว่าไปคิด ไปหาเอง จึงเชื่อว่าไม่กระทบต่อแผนงานของรัฐบาล
