ผู้จัดการรายวัน360-"สมคิด"ประกาศปีหน้าเป็นปีแห่งการลงทุน หลังรัฐบาลเตรียมพร้อมลงทุนทั้งโครงการขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ขอเอกชนอย่ากลัวที่จะลงทุน ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องร่วมมือรัฐดันเศรษฐกิจให้เดินหน้า เชื่อปีนี้จีดีพีโต 3% หากไม่เกิดเหตุรุนแรงกับจีน ระบุประมูล 4G คาดมีเงินเข้ารัฐ 1.3-1.4 แสนล้านบาท เอามาลงทุนโครงการต่างๆ ได้ เล็งตั้งกองทุนร่วมทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน หวังช่วยขยายการลงทุนอีกแรง
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในระหว่างการเปิดงานสัมมนา Thailand Economic Outlook 2016 อนาคตเศรษฐกิจไทย เติบโตอย่างไรในบริบทใหม่ วานนี้ (18 พ.ย.) ว่า ในปีหน้ารัฐบาลขอประกาศให้เป็นปีแห่งการลงทุน โดยอยากให้ภาคเอกชนเร่งการลงทุนเพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวมากขึ้น เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว หลังจากรัฐบาลได้จัดทำมาตรการต่างๆ ออกมาแล้ว 3 ครั้ง คาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 เป็นต้นไป และหากไม่เกิดสถานการณ์รุนแรงกับเศรษฐกิจจีน ก็จะทำให้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ขยายตัวได้เกิน 3%
ทั้งนี้ ความคืบหน้าในด้านการลงทุนของรัฐบาล ได้มีการหารือกับรมว.คมนาคม ให้เร่งรัดการลงทุนโครงการเล็กๆ ให้ได้ตั้งแต่ต้นปี และต่อไป จะเร่งรัดโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าทุกสีจะต้องเริ่มดำเนินโครงการ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมที่รัฐบาลดำเนินการด้านการลงทุน และอยากจะบอกถึงเอกชนว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องลงทุน เพื่อช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้า
"ครึ่งปีแรกของปี 2559 รถไฟฟ้าทุกสายจะต้องพร้อมประกวดราคา จะเป็นปีแห่งการลงทุนมหาศาล เพื่อเตรียมการให้ทุกอย่างดีขึ้นก่อนเลือกตั้ง"นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ จากการประมูล 4G จะทำให้รัฐมีรายได้เข้าคลังอีกประมาณ 1.3-1.4 แสนล้านบาท ซึ่งสามารถนำมาใช้เพื่อรองรับโครงการต่างๆ ที่รัฐลงทุนให้มีการเดินหน้าได้
นายสมคิดกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งเครื่องให้ภาครัฐวิสาหกิจ และภาคราชการในหลายๆ เรื่อง และมั่นใจว่าปีหน้า เครดิตเรตติ้ง จะปรับประเทศไทยขึ้นแน่ ดังนั้น ตอนนี้นักลงทุนอย่าตกใจที่เวลานี้สโลว์เฉื่อยแฉะ แต่ข้าราชการ เขาก็ทำงานกันเต็มที่ เมื่อหัวส่าย หางก็ย่อมกระดิกแน่นอน ฉะนั้น เอกชนต้องลงทุนได้แล้ว
"ดูหน้าผม เวลานี้ไม่ได้เป็นห่วงอะไร เพราะขอเมียมาทำงานแล้ว หลายคนยอมสละเงินเดือนเป็นล้านมารับ 1 แสนบาท ค่าน้ำมันรถก็ไม่มี เพราะต้องการทำให้ประเทศดีขึ้น ดังนั้น อย่ากังวล ทุกอย่างดีขึ้นแน่"นายสมคิดกล่าว
นายสมคิดกล่าวย้ำอีกว่า รัฐบาลกำลังจะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจไทยมีความเข้มแข็ง และสัปดาห์หน้า รัฐบาลจะตั้งกองทุนร่วมทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ก่อนที่จะเชิญชวนให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมได้กำหนดเป้าหมายในการผลักดันซุปเปอร์คลัสเตอร์ใหม่ โดยจะมีการเดินสายโรดโชว์ต่างประเทศ เพื่อชักชวนการลงทุนต่อไป
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การโรดโชว์ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การทำการค้าระหว่างประเทศของไทย ซึ่งนายสมคิดจะเป็นหัวหน้าคณะเดินทางไปญี่ปุ่นวันที่ 25-27 พ.ย.2558 เพื่อหาลู่ทางในการดึงดูดการลงทุนและขยายการค้า และจากนั้นมีแผนที่จะไปเยือนรัสเซีย อินเดีย และจีน เป็นต้น
ส่วนยุทธศาสตร์การส่งออก จะมีการนำเสนอแผนยุทธศาสตร์ให้ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ (พกค.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พิจารณาในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีการจัดทำยุทธศาสตร์ในระยะ 3-5 ปี และพิจารณาเป้าหมายการส่งออกในปี 2559 ซึ่งจะขยายตัวเป็นบวกแน่นอน รวมทั้งจะมีการพิจารณาตลาดเป้าหมายที่ไทยจะบุกเจาะ เช่น อาเซียน และการค้าชายแดน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในระหว่างการเปิดงานสัมมนา Thailand Economic Outlook 2016 อนาคตเศรษฐกิจไทย เติบโตอย่างไรในบริบทใหม่ วานนี้ (18 พ.ย.) ว่า ในปีหน้ารัฐบาลขอประกาศให้เป็นปีแห่งการลงทุน โดยอยากให้ภาคเอกชนเร่งการลงทุนเพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวมากขึ้น เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว หลังจากรัฐบาลได้จัดทำมาตรการต่างๆ ออกมาแล้ว 3 ครั้ง คาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 เป็นต้นไป และหากไม่เกิดสถานการณ์รุนแรงกับเศรษฐกิจจีน ก็จะทำให้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ขยายตัวได้เกิน 3%
ทั้งนี้ ความคืบหน้าในด้านการลงทุนของรัฐบาล ได้มีการหารือกับรมว.คมนาคม ให้เร่งรัดการลงทุนโครงการเล็กๆ ให้ได้ตั้งแต่ต้นปี และต่อไป จะเร่งรัดโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าทุกสีจะต้องเริ่มดำเนินโครงการ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมที่รัฐบาลดำเนินการด้านการลงทุน และอยากจะบอกถึงเอกชนว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องลงทุน เพื่อช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้า
"ครึ่งปีแรกของปี 2559 รถไฟฟ้าทุกสายจะต้องพร้อมประกวดราคา จะเป็นปีแห่งการลงทุนมหาศาล เพื่อเตรียมการให้ทุกอย่างดีขึ้นก่อนเลือกตั้ง"นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ จากการประมูล 4G จะทำให้รัฐมีรายได้เข้าคลังอีกประมาณ 1.3-1.4 แสนล้านบาท ซึ่งสามารถนำมาใช้เพื่อรองรับโครงการต่างๆ ที่รัฐลงทุนให้มีการเดินหน้าได้
นายสมคิดกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งเครื่องให้ภาครัฐวิสาหกิจ และภาคราชการในหลายๆ เรื่อง และมั่นใจว่าปีหน้า เครดิตเรตติ้ง จะปรับประเทศไทยขึ้นแน่ ดังนั้น ตอนนี้นักลงทุนอย่าตกใจที่เวลานี้สโลว์เฉื่อยแฉะ แต่ข้าราชการ เขาก็ทำงานกันเต็มที่ เมื่อหัวส่าย หางก็ย่อมกระดิกแน่นอน ฉะนั้น เอกชนต้องลงทุนได้แล้ว
"ดูหน้าผม เวลานี้ไม่ได้เป็นห่วงอะไร เพราะขอเมียมาทำงานแล้ว หลายคนยอมสละเงินเดือนเป็นล้านมารับ 1 แสนบาท ค่าน้ำมันรถก็ไม่มี เพราะต้องการทำให้ประเทศดีขึ้น ดังนั้น อย่ากังวล ทุกอย่างดีขึ้นแน่"นายสมคิดกล่าว
นายสมคิดกล่าวย้ำอีกว่า รัฐบาลกำลังจะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจไทยมีความเข้มแข็ง และสัปดาห์หน้า รัฐบาลจะตั้งกองทุนร่วมทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ก่อนที่จะเชิญชวนให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมได้กำหนดเป้าหมายในการผลักดันซุปเปอร์คลัสเตอร์ใหม่ โดยจะมีการเดินสายโรดโชว์ต่างประเทศ เพื่อชักชวนการลงทุนต่อไป
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การโรดโชว์ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การทำการค้าระหว่างประเทศของไทย ซึ่งนายสมคิดจะเป็นหัวหน้าคณะเดินทางไปญี่ปุ่นวันที่ 25-27 พ.ย.2558 เพื่อหาลู่ทางในการดึงดูดการลงทุนและขยายการค้า และจากนั้นมีแผนที่จะไปเยือนรัสเซีย อินเดีย และจีน เป็นต้น
ส่วนยุทธศาสตร์การส่งออก จะมีการนำเสนอแผนยุทธศาสตร์ให้ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ (พกค.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พิจารณาในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีการจัดทำยุทธศาสตร์ในระยะ 3-5 ปี และพิจารณาเป้าหมายการส่งออกในปี 2559 ซึ่งจะขยายตัวเป็นบวกแน่นอน รวมทั้งจะมีการพิจารณาตลาดเป้าหมายที่ไทยจะบุกเจาะ เช่น อาเซียน และการค้าชายแดน
