นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี สถาบันการบินพล (สบพ.) ที่เป็นรัฐวิสาหกิจในกระทรวงคมนาคม ส่อทุจริตในการจัดซื้อเครื่องบิน เครื่องยนต์เดียว ฟิกเกียร์ ยี่ห้อไดม่อน รุ่น CA 40 CS เดิมในปีงบประมาณ 2556 และ2557 ซึ่งเป็นปีงบประมาณในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในปี 56 สบพ.เคยจัดซื้อไว้ในราคาลำละ 12,298, 473 บาท และในปีงบประมาณ 57 ตั้งงบประมาณ ซื้อ 2 ลำ รวมเป็นเงิน 24,575,440 โดยราคาลดลงลำละ 1 หมื่น
นายวัชระ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 58 ที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศ มีรัฐบาล มีการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 โดยสนช. ได้มีการจัดซื้อเครื่องบิน รุ่นเดียวกัน แบบเดียวกัน น้ำหนักเท่ากัน เหมือนกันทุกประการ แต่ปรากฏว่า มีการตั้งงบประมาณลำละ 16,446,666.67 บาท ซึ่งแพงกว่าที่เคยซื้อ ถึงลำละ 4,150,000 บาท หรือ 33.74% ซื้อ 3 ลำ เท่ากับจ่ายกำไรให้บริษัทที่มาขาย 12,450,000 บาท ปัจจุบัน สบพ.มีเครื่องบินรุ่นดังกล่าว ครบ 1 ฝูงจำนวน 16 ลำ
นายวัชระกล่าวว่า การซื้อเครื่องบินที่มีราคาแพงนี้ เกิดขึ้นในสมัยที่มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ เป็น อดีต รมว.คมนาคม ท่านเคยเป็นผบ.ทอ. และเป็นนักบิน ท่านต้องทราบเรื่องเครื่องบินดี สบพ.เป็นรัฐวิสาหกิจในกระทรวงคมนาคม และขอถาม ทำไมปล่อยให้มีการซื้อเครื่องบินแพง ในรัฐบาลประชาธิปไตย หรือเมื่อเครื่องบินยี่ห้อไดม่อน ลำนี้ บินมาจากน่านฟ้าประชาธิปไตย ในราคา 12 ล้านบาทเศษ แต่พอบินเข้าสู่น่านฟ้า คสช. ทำไมราคาแพงขึ้นเป็น16 ล้านบาท
"การจ่ายเงินซื้อเครื่องบินในราคาแพงเช่นนี้ เป็นการจ่ายค่าโง่ใช่ หรือไม่ และเป็นการทุจริตใช่หรือไม่ และที่นายวิษณุ เครืองาม บอกว่า สนช.ทำหน้าที่ได้ดีกว่า ส.ส. จึงปล่อยให้มีการทุจริตแบบนี้ ทุกหน่วยราชการ ทราบดีว่า ทางสำนักงบประมาณ ให้กฎเกณฑ์ว่า ถ้าจะซื้อครุภัณฑ์รายการใดให้ดูว่า ในปีงบประมาณนั้น มีการจัดซื้อครุภัณฑ์รายการนั้นหรือไม่ ราคาเท่าไร โดยให้เอาราคารายการนั้นเป็นเกณฑ์บวกเงินเฟ้อเล็กน้อย แต่เหตุใดเงินเฟ้อของท่าน ราคาถึงแพงกว่าลำละ 4 ล้านกว่าบาท จึงเรียกร้องให้ นายกฯ ตั้งกรรมการสอบสวนว่า เหตุใด ถึงมีการซื้อเครื่องบินที่มีราคาแพง ใน สบพ. รวมทั้งจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.และ ป.ป.ท. สำนักงานตรวจเงินแผนดิน (สตง.) พล.อ.ไพบูลย์คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม และให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ตั้งกรรมการสอบสวน น.อ.จิรพล เกื้อด้วง ผู้ว่าการ สบพ. และผู้เกี่ยวข้อง ว่ามีการทุจริตในการจัดซื้อเครื่องบินนี้หรือไม่ และเป็นการปฎิบัติหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของทางราชการหรือไม่”นายวัชระกล่าว
นายวัชระ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 58 ที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศ มีรัฐบาล มีการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 โดยสนช. ได้มีการจัดซื้อเครื่องบิน รุ่นเดียวกัน แบบเดียวกัน น้ำหนักเท่ากัน เหมือนกันทุกประการ แต่ปรากฏว่า มีการตั้งงบประมาณลำละ 16,446,666.67 บาท ซึ่งแพงกว่าที่เคยซื้อ ถึงลำละ 4,150,000 บาท หรือ 33.74% ซื้อ 3 ลำ เท่ากับจ่ายกำไรให้บริษัทที่มาขาย 12,450,000 บาท ปัจจุบัน สบพ.มีเครื่องบินรุ่นดังกล่าว ครบ 1 ฝูงจำนวน 16 ลำ
นายวัชระกล่าวว่า การซื้อเครื่องบินที่มีราคาแพงนี้ เกิดขึ้นในสมัยที่มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ เป็น อดีต รมว.คมนาคม ท่านเคยเป็นผบ.ทอ. และเป็นนักบิน ท่านต้องทราบเรื่องเครื่องบินดี สบพ.เป็นรัฐวิสาหกิจในกระทรวงคมนาคม และขอถาม ทำไมปล่อยให้มีการซื้อเครื่องบินแพง ในรัฐบาลประชาธิปไตย หรือเมื่อเครื่องบินยี่ห้อไดม่อน ลำนี้ บินมาจากน่านฟ้าประชาธิปไตย ในราคา 12 ล้านบาทเศษ แต่พอบินเข้าสู่น่านฟ้า คสช. ทำไมราคาแพงขึ้นเป็น16 ล้านบาท
"การจ่ายเงินซื้อเครื่องบินในราคาแพงเช่นนี้ เป็นการจ่ายค่าโง่ใช่ หรือไม่ และเป็นการทุจริตใช่หรือไม่ และที่นายวิษณุ เครืองาม บอกว่า สนช.ทำหน้าที่ได้ดีกว่า ส.ส. จึงปล่อยให้มีการทุจริตแบบนี้ ทุกหน่วยราชการ ทราบดีว่า ทางสำนักงบประมาณ ให้กฎเกณฑ์ว่า ถ้าจะซื้อครุภัณฑ์รายการใดให้ดูว่า ในปีงบประมาณนั้น มีการจัดซื้อครุภัณฑ์รายการนั้นหรือไม่ ราคาเท่าไร โดยให้เอาราคารายการนั้นเป็นเกณฑ์บวกเงินเฟ้อเล็กน้อย แต่เหตุใดเงินเฟ้อของท่าน ราคาถึงแพงกว่าลำละ 4 ล้านกว่าบาท จึงเรียกร้องให้ นายกฯ ตั้งกรรมการสอบสวนว่า เหตุใด ถึงมีการซื้อเครื่องบินที่มีราคาแพง ใน สบพ. รวมทั้งจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.และ ป.ป.ท. สำนักงานตรวจเงินแผนดิน (สตง.) พล.อ.ไพบูลย์คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม และให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ตั้งกรรมการสอบสวน น.อ.จิรพล เกื้อด้วง ผู้ว่าการ สบพ. และผู้เกี่ยวข้อง ว่ามีการทุจริตในการจัดซื้อเครื่องบินนี้หรือไม่ และเป็นการปฎิบัติหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของทางราชการหรือไม่”นายวัชระกล่าว
