ตำรวจจับหนุ่มลาวฆ่าหั่นศพสาวพม่าทิ้งคลองแสนแสบ สารภาพแค้นไม่ยอมแต่งงานด้วยและเลือกที่จะอยู่กินกับแฟนคนไทย เผยบีบคอจนเสียชีวิตก่อนหั่นศพทิ้งคลอง พบเคยทำงานชำแหละหมูเลยมีความชำนาญ
จากกรณีพบชิ้นส่วนศพของหญิงสาวถูกทิ้งในคลองพระโขนง และสามารถหาเจอจนเกือบครบทุกส่วนแล้วนั้น พบว่าศพดังกล่าวคือ น.ส.มะลิ อายุ 27 ปี ชาวพม่า ล่าสุด วานนี้ (8 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ชุดสืบสวน บก.สส.บชน.ได้เข้าควบคุมตัว นายใจ เคนวันคำ อายุ 39 ปี สัญชาติลาว ที่ห้องเช่า ซ.รามคำแหง 53 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. มีผู้พบเห็นว่านายใจ อยู่กับ น.ส.มะลิ เป็นคนสุดท้าย
โดยนายใจให้การว่า คบหากับผู้ตายมานานกว่า 1 ปี วันเกิดเหตุได้ไปรับ น.ส.มะลิ จากที่ทำงานร้านคาราโอเกะมายังห้องพัก และได้มีการเจรจาขอฝ่ายหญิงแต่งงาน แต่กลับมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงเนื่องจาก น.ส.มะลิ เลือกที่จะอยู่กับนายวิทยา พลเยี่ยม อายุ 30 ปี แฟนหนุ่มคนไทย จึงบีบคอ น.ส.มะลิ จนเสียชีวิต และใช้มีดหั่นศพออกเป็น 7 ส่วนและไปทิ้งตามจุดต่างๆ ในคลองแสนแสบ โดยก่อนหน้านี้นายใจเคยประกอบอาชีพเป็นคนชำแหละหมูที่ลาวมาก่อนจึงมีความชำนาญเป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อ เวลา 13.30 น. พนักงานสอบสวนได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทําแผนประกอบคํารับสารภาพ บริเวณหอพักจินดาอพาร์ตเมนต์ โดยจุดที่หนึ่งบริเวณหน้าประตูทางเข้าหอพักชั้นล่าง ซึ่งเป็นจุดที่นายใจ เดินลงมารับน.ส.มะลิ ผู้ตาย ขึ้นไปยังห้องพักของตนเอง และจุดที่สองภายใน ห้อง บี 107 ซึ่งนายใจ รับสารภาพว่า ห้องดังกล่าวเป็นห้องที่ใช้ก่อเหตุโดยการใช้มีดเชือดลำคอน.ส.มะลิ จนเสียชีวิต ก่อนนำร่างของน.ส.มะลิ เข้าในห้องน้ำเพื่อทำการชำแหละออกเป็นชิ้นๆ ภายหลังจากชำแหละเสร็จสิ้น นายใจ ได้นำชิ้นส่วนใส่กระสอบ จำนวน 3 กระสอบ เพื่อเตรียมนำไปโยนทิ้ง และจุดที่สามบริเวณคลองแสนแสบห่างจากห้องพักประมาณ 50 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่นายใจนำชิ้นส่วนศพไปโยนทิ้งลงในคลองดังกล่าว โดยครั้งแรกนำออกไปก่อน 2 กระสอบ จากนั้นกลับเข้ามาเอาอีก 1 กระสอบที่เหลือ
ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า จากการสอบสวยนายใจ ให้การรับสารภาพ มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้ตายมาเป็นเวลาประมาณ 1 ปี โดยนายใจได้ออกค่าใช้จ่ายเปิดห้องพักไว้สำหรับเป็นจุดนัดพบของทั้งคู่ พร้อมกับส่งเสียเงินให้กับน.ส.มะลิเป็นประจำ ครั้งละประมาณ 1,000 บาท ทั้งนี้ในการก่อเหตุดังกล่าวมีเจตนาให้ถึงแก่ชีวิตส่วนแรงจูงใจนั้นเหตุเกิดจากเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันที่ 6 พฤศจิกายน น.ส.มะลิเดินทางมาพบตนตามปกติ และตนจึงได้ตัดสินใจของน.ส.มะลิแต่งงานแต่น.ส.มะลิ พยายามบ่ายเบี่ยง เนื่องจาก น.ส.มะลิได้แอบมีชายอื่นอยู่ ทำให้ตนเกิดความโมโห จึงใช้จังหวะที่น.ส.มะลิเข้าห้องน้ำในการลงมือก่อเหตุ ขณะก่อเหตุดังกล่าวตนได้เปิดน้ำอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เลือดที่ออกมาจากร่างของน.ส.มะลิหมดไป และรอให้ชิ้นส่วนร่างของน.ส.มะลิแห้ง และนำใส่กระสอบ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า กระทั่งเวลา 19.00น. ตนนำกระสอบที่บรรจุชิ้นส่วนของน.ส.มะลิมาโยนทิ้งบริเวณคลองแสนแสบ หลังจากนั้นได้กับมาเอาทรัพย์สินของน.ส.มะลิ อาทิ สร้อยคอทองคำพร้อมจี้จำนวน 1 เส้น แหวนทองจำนวน 2 วง โทรศัพท์จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งตนได้นำสร้อยทองไปขายยังร้านค้าทองย่านเดอะมอลล์รามคำแหงแล้ว
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นและลักทรัพย์ พร้อมเตรียมคุมตัวนายใจไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพระโขนในช่วงสายของวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่พบชิ้นส่วนลำตัวส่วนบนของผู้ตาย ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสุดท้าย จากชิ้นส่วนทั้งหมด 7 ชิ้น
จากกรณีพบชิ้นส่วนศพของหญิงสาวถูกทิ้งในคลองพระโขนง และสามารถหาเจอจนเกือบครบทุกส่วนแล้วนั้น พบว่าศพดังกล่าวคือ น.ส.มะลิ อายุ 27 ปี ชาวพม่า ล่าสุด วานนี้ (8 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ชุดสืบสวน บก.สส.บชน.ได้เข้าควบคุมตัว นายใจ เคนวันคำ อายุ 39 ปี สัญชาติลาว ที่ห้องเช่า ซ.รามคำแหง 53 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. มีผู้พบเห็นว่านายใจ อยู่กับ น.ส.มะลิ เป็นคนสุดท้าย
โดยนายใจให้การว่า คบหากับผู้ตายมานานกว่า 1 ปี วันเกิดเหตุได้ไปรับ น.ส.มะลิ จากที่ทำงานร้านคาราโอเกะมายังห้องพัก และได้มีการเจรจาขอฝ่ายหญิงแต่งงาน แต่กลับมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงเนื่องจาก น.ส.มะลิ เลือกที่จะอยู่กับนายวิทยา พลเยี่ยม อายุ 30 ปี แฟนหนุ่มคนไทย จึงบีบคอ น.ส.มะลิ จนเสียชีวิต และใช้มีดหั่นศพออกเป็น 7 ส่วนและไปทิ้งตามจุดต่างๆ ในคลองแสนแสบ โดยก่อนหน้านี้นายใจเคยประกอบอาชีพเป็นคนชำแหละหมูที่ลาวมาก่อนจึงมีความชำนาญเป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อ เวลา 13.30 น. พนักงานสอบสวนได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทําแผนประกอบคํารับสารภาพ บริเวณหอพักจินดาอพาร์ตเมนต์ โดยจุดที่หนึ่งบริเวณหน้าประตูทางเข้าหอพักชั้นล่าง ซึ่งเป็นจุดที่นายใจ เดินลงมารับน.ส.มะลิ ผู้ตาย ขึ้นไปยังห้องพักของตนเอง และจุดที่สองภายใน ห้อง บี 107 ซึ่งนายใจ รับสารภาพว่า ห้องดังกล่าวเป็นห้องที่ใช้ก่อเหตุโดยการใช้มีดเชือดลำคอน.ส.มะลิ จนเสียชีวิต ก่อนนำร่างของน.ส.มะลิ เข้าในห้องน้ำเพื่อทำการชำแหละออกเป็นชิ้นๆ ภายหลังจากชำแหละเสร็จสิ้น นายใจ ได้นำชิ้นส่วนใส่กระสอบ จำนวน 3 กระสอบ เพื่อเตรียมนำไปโยนทิ้ง และจุดที่สามบริเวณคลองแสนแสบห่างจากห้องพักประมาณ 50 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่นายใจนำชิ้นส่วนศพไปโยนทิ้งลงในคลองดังกล่าว โดยครั้งแรกนำออกไปก่อน 2 กระสอบ จากนั้นกลับเข้ามาเอาอีก 1 กระสอบที่เหลือ
ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า จากการสอบสวยนายใจ ให้การรับสารภาพ มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้ตายมาเป็นเวลาประมาณ 1 ปี โดยนายใจได้ออกค่าใช้จ่ายเปิดห้องพักไว้สำหรับเป็นจุดนัดพบของทั้งคู่ พร้อมกับส่งเสียเงินให้กับน.ส.มะลิเป็นประจำ ครั้งละประมาณ 1,000 บาท ทั้งนี้ในการก่อเหตุดังกล่าวมีเจตนาให้ถึงแก่ชีวิตส่วนแรงจูงใจนั้นเหตุเกิดจากเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันที่ 6 พฤศจิกายน น.ส.มะลิเดินทางมาพบตนตามปกติ และตนจึงได้ตัดสินใจของน.ส.มะลิแต่งงานแต่น.ส.มะลิ พยายามบ่ายเบี่ยง เนื่องจาก น.ส.มะลิได้แอบมีชายอื่นอยู่ ทำให้ตนเกิดความโมโห จึงใช้จังหวะที่น.ส.มะลิเข้าห้องน้ำในการลงมือก่อเหตุ ขณะก่อเหตุดังกล่าวตนได้เปิดน้ำอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เลือดที่ออกมาจากร่างของน.ส.มะลิหมดไป และรอให้ชิ้นส่วนร่างของน.ส.มะลิแห้ง และนำใส่กระสอบ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า กระทั่งเวลา 19.00น. ตนนำกระสอบที่บรรจุชิ้นส่วนของน.ส.มะลิมาโยนทิ้งบริเวณคลองแสนแสบ หลังจากนั้นได้กับมาเอาทรัพย์สินของน.ส.มะลิ อาทิ สร้อยคอทองคำพร้อมจี้จำนวน 1 เส้น แหวนทองจำนวน 2 วง โทรศัพท์จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งตนได้นำสร้อยทองไปขายยังร้านค้าทองย่านเดอะมอลล์รามคำแหงแล้ว
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นและลักทรัพย์ พร้อมเตรียมคุมตัวนายใจไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพระโขนในช่วงสายของวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่พบชิ้นส่วนลำตัวส่วนบนของผู้ตาย ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสุดท้าย จากชิ้นส่วนทั้งหมด 7 ชิ้น
