เฝ้าจับจ้องจนตาแทบไม่กะพริบ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จะมีคนใส่เสื้อแดงกี่มากน้อย ปรากฏว่า ถึงวันนัดหมายจริง ไม่มีมวลชนเสื้อแดงบนท้องถนนแต่อย่างใด มีแต่หัวโจกพรรคเพื่อไทยและลูกสมุนนายทักษิณ ชินวัตรเท่านั้นที่ใส่เสื้อแดงประจบประแจง “นาย”
การปลุกระดมให้คนใส่เสื้อแดงกลายเป็นงานกร่อยไปแล้ว และซึ่งไม่ใช่ความสำเร็จของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกมาปรามหรือตามประกบแกนนำคนเสื้อแดง แต่เป็นเพราะคนเสื้อแดงปลุกไม่ขึ้นเอง
มวลชนคนเสื้อแดงไม่ได้หายไปไหน แต่เนื่องจากไม่มีเงื่อนไขจูงใจ ไม่มีหลักประกันความปลอดภัย จึงไม่ออกมาเคลื่อนไหวตามเสียงยุ
ในยุคที่นายทักษิณมีอำนาจ ในช่วงที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มวลชนเสื้อแดงอาจดูแข็งแกร่ง น่าเกรงขาม ปลุกระดมง่าย เพราะจูงไปไหนก็แห่ตามกันไป เนื่องจากมีแรงจูงใจมากมาย
นอกจากมีอำนาจรัฐหนุนหลัง มีตำรวจคอยให้ท้ายคุ้มกันและอำนวยความสะดวกให้ ยังมีค่าจ้าง มีพาหนะรับส่ง มีอาหารบริการ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปลุกใจ และมีนักการเมืองเป็นแกนนำพามาชุมนุมด้วย
เมื่อไม่มีค่าจ้าง จะเรียกให้ออกมาเคลื่อนไหวฟรีๆ และไม่มีตำรวจคุ้มกัน มวลชนเสื้อแดงจึงหายหัว เพราะไม่มีเหตุผลที่จะต้องเสียเวลาเพื่อทักษิณ
และชั่วโมงนี้ มีแต่คนสติไม่ดีเท่านั้นที่ใส่เสื้อแดงแสดงสัญลักษณ์เป็นลูกสมุน “ทักษิณ”
ภารกิจการใส่เสื้อแดงเพื่อยั่วรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตกเป็นของคนเสื้อแดงตัวพ่อหรือนายทักษิณ และบรรดาลูกสมุนตัวหัวโจกเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น ที่พยายามสร้างภาพเพื่อรักษาหน้า
แต่ก็เป็นกิจกรรมเหมือนเด็กเล่น “ขายของ” เล่นกันไม่กี่คน เล่นกันเองในหมู่หัวโจกคนเสื้อแดงกับแกนนำพรรคเพื่อไทยและ “ทักษิณ” เท่านั้น
และเล่นกันโดยไม่รู้สึกระอายตัวเอง
เพราะแม้จะใส่เสื้อแดงกัน แต่ใส่แล้วก็ได้แต่หลบอยู่ในรู ซุกอยู่แต่ในบ้าน และได้แค่โพสต์รูปโชว์ผ่านโซเชียลมีเดีย
ไม่มีหัวโจกคนเสื้อแดงหรือแกนนำพรรคเพื่อไทยคนไหน ใส่เสื้อแดงเดินถนน เพราะกลัวชาวบ้านโห่ไล่ จึงได้แต่ใส่เสื้อแดงเอาใจ “นายใหญ่” อยู่ในรูกันหน้าสลอน
“ทักษิณ” ไม่มีวันยอมหยุดความเคลื่อนไหวง่ายๆ ตราบใดที่ไม่ได้กลับมากุมอำนาจ แต่ยิ่งดิ้น ก็ยิ่งเหนื่อยเปล่า เพราะมองไม่เห็นว่า จะทำอะไรพล.อ.ประยุทธ์ได้
ความล้มเหลวในการยุยงให้มวลชนใส่เสื้อแดง เป็นการตอกย้ำว่า
“ทักษิณ” หมดฤทธิ์แล้ว มวลชนเสื้อแดงส่วนใหญ่แยกย้ายไปใช้ชีวิตตามปกติ เหลือแต่หัวโจกคนเสื้อแดงและแกนนำพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ไม่มีที่ไป กลายเป็นสุนัขหางด้วนและแทบไม่มีที่ยืนในสังคม จึงจำเป็นต้องถูลู่ถูกังสู้เพื่อ “ทักษิณ” ต่อไป ภายใต้ความฝันลมๆ แล้งๆ
เพ้อฝันว่า สักวัน “ทักษิณ” จะกลับมาเป็นใหญ่ สักวันลูกสมุน “ทักษิณ” จะได้กลับมามีอำนาจทางการเมือง ซึ่งเป็นไปได้น้อยเต็มที
ใครที่เป็นเจ้าของความคิด ปลุกคนให้ใส่เสื้อแดง ต้องขอบอกว่า คิดได้โง่มาก
แต่ความคิดโง่ กลับมีคนโง่ตาม ใส่เสื้อแดงกันเป็นแถว ไล่ตั้งแต่นายทักษิณ ตามด้วยลูกสมุนระดับหัวโจก แต่ก็ไม่ได้สร้างแรงกดดันรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์แม้แต่น้อย
ไม่ได้ทำให้พล.อ.ประยุทธ์เกิดอาการ “คัน” เสียด้วย
แผนปลุกระดมใส่เสื้อแดง จึงเป็นรายการ “ปาหี่” ที่เล่นกันเอง ชมกันเอง และโชว์กันเอง ระหว่างนายใหญ่กับขี้ข้าเพียงไม่กี่คน ซึ่งน่าอายมากกว่าน่า “อวด” กันในโซเชียลมีเดีย
“ทักษิณ” กับลูกสมุนหมดน้ำยาแล้ว ทำอะไรเจ๊งไปหมด อุตส่าห์ปลุกปั่นคนเสื้อแดงขึ้นมาสร้างจุดขาย แต่มวลชนคนเสื้อแดงกลับไม่เล่นด้วย แทบไม่มีคนบ้าที่ไหนใส่เสื้อแดงตามคำชักชวน
ใครที่เคยขู่ คสช.ไว้ จะมีคนใส่เสื้อแดงกันพรึ่บพรั่บ ตอนนี้จะเอาหน้าไปไว้ไหนกันดีล่ะ
และตอนนี้ “ทักษิณ” หาหมอรับเย็บใบหน้าได้หรือยัง หน้าแตกยับเยินอยู่ไม่ใช่หรือ
การปลุกระดมให้คนใส่เสื้อแดงกลายเป็นงานกร่อยไปแล้ว และซึ่งไม่ใช่ความสำเร็จของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกมาปรามหรือตามประกบแกนนำคนเสื้อแดง แต่เป็นเพราะคนเสื้อแดงปลุกไม่ขึ้นเอง
มวลชนคนเสื้อแดงไม่ได้หายไปไหน แต่เนื่องจากไม่มีเงื่อนไขจูงใจ ไม่มีหลักประกันความปลอดภัย จึงไม่ออกมาเคลื่อนไหวตามเสียงยุ
ในยุคที่นายทักษิณมีอำนาจ ในช่วงที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มวลชนเสื้อแดงอาจดูแข็งแกร่ง น่าเกรงขาม ปลุกระดมง่าย เพราะจูงไปไหนก็แห่ตามกันไป เนื่องจากมีแรงจูงใจมากมาย
นอกจากมีอำนาจรัฐหนุนหลัง มีตำรวจคอยให้ท้ายคุ้มกันและอำนวยความสะดวกให้ ยังมีค่าจ้าง มีพาหนะรับส่ง มีอาหารบริการ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปลุกใจ และมีนักการเมืองเป็นแกนนำพามาชุมนุมด้วย
เมื่อไม่มีค่าจ้าง จะเรียกให้ออกมาเคลื่อนไหวฟรีๆ และไม่มีตำรวจคุ้มกัน มวลชนเสื้อแดงจึงหายหัว เพราะไม่มีเหตุผลที่จะต้องเสียเวลาเพื่อทักษิณ
และชั่วโมงนี้ มีแต่คนสติไม่ดีเท่านั้นที่ใส่เสื้อแดงแสดงสัญลักษณ์เป็นลูกสมุน “ทักษิณ”
ภารกิจการใส่เสื้อแดงเพื่อยั่วรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตกเป็นของคนเสื้อแดงตัวพ่อหรือนายทักษิณ และบรรดาลูกสมุนตัวหัวโจกเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น ที่พยายามสร้างภาพเพื่อรักษาหน้า
แต่ก็เป็นกิจกรรมเหมือนเด็กเล่น “ขายของ” เล่นกันไม่กี่คน เล่นกันเองในหมู่หัวโจกคนเสื้อแดงกับแกนนำพรรคเพื่อไทยและ “ทักษิณ” เท่านั้น
และเล่นกันโดยไม่รู้สึกระอายตัวเอง
เพราะแม้จะใส่เสื้อแดงกัน แต่ใส่แล้วก็ได้แต่หลบอยู่ในรู ซุกอยู่แต่ในบ้าน และได้แค่โพสต์รูปโชว์ผ่านโซเชียลมีเดีย
ไม่มีหัวโจกคนเสื้อแดงหรือแกนนำพรรคเพื่อไทยคนไหน ใส่เสื้อแดงเดินถนน เพราะกลัวชาวบ้านโห่ไล่ จึงได้แต่ใส่เสื้อแดงเอาใจ “นายใหญ่” อยู่ในรูกันหน้าสลอน
“ทักษิณ” ไม่มีวันยอมหยุดความเคลื่อนไหวง่ายๆ ตราบใดที่ไม่ได้กลับมากุมอำนาจ แต่ยิ่งดิ้น ก็ยิ่งเหนื่อยเปล่า เพราะมองไม่เห็นว่า จะทำอะไรพล.อ.ประยุทธ์ได้
ความล้มเหลวในการยุยงให้มวลชนใส่เสื้อแดง เป็นการตอกย้ำว่า
“ทักษิณ” หมดฤทธิ์แล้ว มวลชนเสื้อแดงส่วนใหญ่แยกย้ายไปใช้ชีวิตตามปกติ เหลือแต่หัวโจกคนเสื้อแดงและแกนนำพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ไม่มีที่ไป กลายเป็นสุนัขหางด้วนและแทบไม่มีที่ยืนในสังคม จึงจำเป็นต้องถูลู่ถูกังสู้เพื่อ “ทักษิณ” ต่อไป ภายใต้ความฝันลมๆ แล้งๆ
เพ้อฝันว่า สักวัน “ทักษิณ” จะกลับมาเป็นใหญ่ สักวันลูกสมุน “ทักษิณ” จะได้กลับมามีอำนาจทางการเมือง ซึ่งเป็นไปได้น้อยเต็มที
ใครที่เป็นเจ้าของความคิด ปลุกคนให้ใส่เสื้อแดง ต้องขอบอกว่า คิดได้โง่มาก
แต่ความคิดโง่ กลับมีคนโง่ตาม ใส่เสื้อแดงกันเป็นแถว ไล่ตั้งแต่นายทักษิณ ตามด้วยลูกสมุนระดับหัวโจก แต่ก็ไม่ได้สร้างแรงกดดันรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์แม้แต่น้อย
ไม่ได้ทำให้พล.อ.ประยุทธ์เกิดอาการ “คัน” เสียด้วย
แผนปลุกระดมใส่เสื้อแดง จึงเป็นรายการ “ปาหี่” ที่เล่นกันเอง ชมกันเอง และโชว์กันเอง ระหว่างนายใหญ่กับขี้ข้าเพียงไม่กี่คน ซึ่งน่าอายมากกว่าน่า “อวด” กันในโซเชียลมีเดีย
“ทักษิณ” กับลูกสมุนหมดน้ำยาแล้ว ทำอะไรเจ๊งไปหมด อุตส่าห์ปลุกปั่นคนเสื้อแดงขึ้นมาสร้างจุดขาย แต่มวลชนคนเสื้อแดงกลับไม่เล่นด้วย แทบไม่มีคนบ้าที่ไหนใส่เสื้อแดงตามคำชักชวน
ใครที่เคยขู่ คสช.ไว้ จะมีคนใส่เสื้อแดงกันพรึ่บพรั่บ ตอนนี้จะเอาหน้าไปไว้ไหนกันดีล่ะ
และตอนนี้ “ทักษิณ” หาหมอรับเย็บใบหน้าได้หรือยัง หน้าแตกยับเยินอยู่ไม่ใช่หรือ
