เครือข่ายประชาชน ยื่นผู้ตรวจสอบจริยธรรมรัฐบาล พร้อม 3รัฐมนตรี "พลังงาน-คลัง-ไอซีที" ปมออกกฎหมายเศรษฐกิจเอื้อเอกชน-ตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ ซ้ำโฆษณาบิดเบือนข้อมูลนำเข้าพลังงาน
วานนี้ (29 ต.ค.) เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ นำโดย พ.ญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายธาวิน อินทรจำนงค์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจอบการไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม และรัฐธรรมนูญ ของคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย พล.อ.อนัตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงาน นายอภิศักดิ์ ตันติวรงค์ รมว.คลัง และนายอุตตม สาวนายน รมว.ไอซีที กรณีคณะรัฐมนตรีบริหารราชการแผ่นดินไม่โปร่งใส ไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย เช่น การจะออกกฎหมายเศรษฐกิจดิจิตัล ของกระทรวงไอซีที โดยไม่เปิดเผยให้ประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งมีการแต่งตั้งกรรมการที่มาจากเอกชน โดยไม่มีการกำหนดคุณสมบัติที่ห้ามมีผลประโยชน์ทับซ้อน การจัดทำบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ ของรมว.คลัง ที่จะรวมเอารัฐวิสาหกิจทั้งขาดทุนและกำไร มาเป็นหน่วยงานเดียว แล้วนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในจำนวนรัฐวิสาหกิจของ 50 หน่วยงานที่มีการรวมนั้น จะรวมไปถึง ปตท. ด้วย ซึ่งไมได้เป็นการแก้ไขต้นเหตุว่า ที่ขาดทุนเพราะอะไร รวมแล้วจะแก้ไขได้หรือไม่ หรือเป็นการยกสมบัติชาติให้เอกชน พร้อมตั้งข้อสังเกตการประชุมคณะรัฐมนตรีทุกวันอังคารในอดีตที่ผ่านมา เมื่อประชุมเสร็จ ก็จะมีการแถลงข่าวเพื่อให้ประชาชนรับรู้ แต่ปัจจุบันมีเพียงแค่การเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ และบางหัวข้อ ก็พยายามปกปิด
นอกจากนี้ ขอให้ตรวจสอบการที่รัฐปล่อยให้กระทรวงพลังงาน โฆษณาบิดเบือนข้อจริง หรือให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ในเรื่องต้นทุนราคาก๊าซเอ็นจีวี ก๊าซแอลพีจี และการนำเข้าน้ำมัน โดยโฆษณาให้ประชาชนเข้าใจว่ารถจักรยานยนต์ที่เติมน้ำมันเบนซิน ต้องไปอุ้มค่าก๊าซหุงต้มที่ใช้โดยคนขับรถยนต์ ทั้งที่ส่วนที่ถูกนำไปใช้คือ กลุ่มปิโตรเคมีที่เป็นเอกชนมาแย่งใช้ก๊าซหุงต้มจากภาคประชาชน ซึ่งการให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนดังกล่าว ก็เพื่อไม่ให้ประชาชนต่อต้านการคิดราคาก๊าซแพง
ส่วนการนำเข้าน้ำมัน มีการโฆษณารายงานปริมาณนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศว่า นำเข้า 85 % แต่ข้อเท็จจริงการนำเข้าดังกล่าวเพื่อการส่งออกร่วมด้วย โดยมูลค่าที่ส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป รวมเม็ดพลาสติกเคมีภัณฑ์ที่เป็นผลผลิตจากปิโตรเลียม กว่า 9 แสนล้านบาท ที่สำคัญคือราคานำเข้าให้ประชาชนแบกรับภาระช่วยชดเชย แต่เมื่อขายได้กำไร กลับไปสู่เอกชนมากกว่ารัฐ ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงพลังงานไม่เคยแสดงสัญญา หรือราคาที่ซื้อมาจริงต่อสาธารณะ รวมถึงไม่เคยเปิดเผยชื่อบริษัทที่นำเข้าด้วย
พฤติการณ์ทั้งหมดนี้ เข้าข่ายฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมนักการเมือง ข้อ 6(2) ข้อ 7 ข้อ 8 ในเรื่องการยึดมั่นคุณธรรม การให้ข้อมูลที่ต้องให้ครบถ้วนไม่บิดเบือน ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และยังเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 78 (5) มาตรา 87 ประกอบมาตรา 4 และ 5 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ที่ให้ประชาชนมีสิทธิมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายของรัฐ และตรวจสอบความโปร่งใส ในการบริหารราชการแผ่นดินทุกระดับ จึงขอให้ผู้ตรวจฯ เร่งตรวจสอบ หากว่ามีการดำเนินการไม่ถูกต้องให้แจ้งไปยังนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เพื่อให้มีการปฏิบัติตามหลักนิติธรรม และจริยธรรมนักการเมืองอย่างเคร่งครัดต่อไป
--------------
วานนี้ (29 ต.ค.) เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ นำโดย พ.ญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายธาวิน อินทรจำนงค์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจอบการไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม และรัฐธรรมนูญ ของคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย พล.อ.อนัตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงาน นายอภิศักดิ์ ตันติวรงค์ รมว.คลัง และนายอุตตม สาวนายน รมว.ไอซีที กรณีคณะรัฐมนตรีบริหารราชการแผ่นดินไม่โปร่งใส ไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย เช่น การจะออกกฎหมายเศรษฐกิจดิจิตัล ของกระทรวงไอซีที โดยไม่เปิดเผยให้ประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งมีการแต่งตั้งกรรมการที่มาจากเอกชน โดยไม่มีการกำหนดคุณสมบัติที่ห้ามมีผลประโยชน์ทับซ้อน การจัดทำบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ ของรมว.คลัง ที่จะรวมเอารัฐวิสาหกิจทั้งขาดทุนและกำไร มาเป็นหน่วยงานเดียว แล้วนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในจำนวนรัฐวิสาหกิจของ 50 หน่วยงานที่มีการรวมนั้น จะรวมไปถึง ปตท. ด้วย ซึ่งไมได้เป็นการแก้ไขต้นเหตุว่า ที่ขาดทุนเพราะอะไร รวมแล้วจะแก้ไขได้หรือไม่ หรือเป็นการยกสมบัติชาติให้เอกชน พร้อมตั้งข้อสังเกตการประชุมคณะรัฐมนตรีทุกวันอังคารในอดีตที่ผ่านมา เมื่อประชุมเสร็จ ก็จะมีการแถลงข่าวเพื่อให้ประชาชนรับรู้ แต่ปัจจุบันมีเพียงแค่การเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ และบางหัวข้อ ก็พยายามปกปิด
นอกจากนี้ ขอให้ตรวจสอบการที่รัฐปล่อยให้กระทรวงพลังงาน โฆษณาบิดเบือนข้อจริง หรือให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ในเรื่องต้นทุนราคาก๊าซเอ็นจีวี ก๊าซแอลพีจี และการนำเข้าน้ำมัน โดยโฆษณาให้ประชาชนเข้าใจว่ารถจักรยานยนต์ที่เติมน้ำมันเบนซิน ต้องไปอุ้มค่าก๊าซหุงต้มที่ใช้โดยคนขับรถยนต์ ทั้งที่ส่วนที่ถูกนำไปใช้คือ กลุ่มปิโตรเคมีที่เป็นเอกชนมาแย่งใช้ก๊าซหุงต้มจากภาคประชาชน ซึ่งการให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนดังกล่าว ก็เพื่อไม่ให้ประชาชนต่อต้านการคิดราคาก๊าซแพง
ส่วนการนำเข้าน้ำมัน มีการโฆษณารายงานปริมาณนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศว่า นำเข้า 85 % แต่ข้อเท็จจริงการนำเข้าดังกล่าวเพื่อการส่งออกร่วมด้วย โดยมูลค่าที่ส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป รวมเม็ดพลาสติกเคมีภัณฑ์ที่เป็นผลผลิตจากปิโตรเลียม กว่า 9 แสนล้านบาท ที่สำคัญคือราคานำเข้าให้ประชาชนแบกรับภาระช่วยชดเชย แต่เมื่อขายได้กำไร กลับไปสู่เอกชนมากกว่ารัฐ ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงพลังงานไม่เคยแสดงสัญญา หรือราคาที่ซื้อมาจริงต่อสาธารณะ รวมถึงไม่เคยเปิดเผยชื่อบริษัทที่นำเข้าด้วย
พฤติการณ์ทั้งหมดนี้ เข้าข่ายฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมนักการเมือง ข้อ 6(2) ข้อ 7 ข้อ 8 ในเรื่องการยึดมั่นคุณธรรม การให้ข้อมูลที่ต้องให้ครบถ้วนไม่บิดเบือน ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และยังเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 78 (5) มาตรา 87 ประกอบมาตรา 4 และ 5 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ที่ให้ประชาชนมีสิทธิมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายของรัฐ และตรวจสอบความโปร่งใส ในการบริหารราชการแผ่นดินทุกระดับ จึงขอให้ผู้ตรวจฯ เร่งตรวจสอบ หากว่ามีการดำเนินการไม่ถูกต้องให้แจ้งไปยังนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เพื่อให้มีการปฏิบัติตามหลักนิติธรรม และจริยธรรมนักการเมืองอย่างเคร่งครัดต่อไป
--------------
