วานนี้ (22ต.ค.) กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าในอาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการ อาคาร บี นำโดย นางณิชาพรรณ์ สิริรพีภัสร์ เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ถึงประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการฯ กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ ( ธพส.) ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าสถานประกอบการกิจการร้านค้าประเภทต่างๆ ที่ได้ปล่อยให้มีการดำเนินการจัดกิจกรรมหาประโยชน์ บริเวณลานชั้น 2 ของอาคาร โดยเฉพาะการนำร้านค้า และการจัดขายสินค้า ซึ่งมีลักษณะเดียวกันกับร้านค้า บริเวณชั้น 1 ส่งผลทำให้ผู้ค้าได้รับผลกระทบ
ตัวแทนผู้ประกอบการร้านค้า กล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมาจำนวนผู้ซื้อซึ่งเป็นข้าราชการภายในศูนย์ราชการ ก็มีจำนวนเท่าเดิม เมื่อมีการจัดกิจกรรมโดยการนำร้านค้ามาจำหน่ายสินค้า บริเวณชั้น 2 ทำให้ผู้ประกอบการได้ผลกระทบด้านยอดขาย และเมื่อมีการเจรจา ธพส. ก็ชี้แจงว่า จำเป็นต้องหารายได้เพิ่ม โดยไม่คำนึงถึงผู้เช่าเดิม อีกทั้งไม่มีการจัดกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้า หรือประชาชนภายนอกเข้ามาซื้อสินค้า
นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมของธพส. ที่ลานกิจกรรม ชั้น 2 ไม่เป็นไปตามวัตุประสงค์ที่แท้จริง และไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการขอใช้พื้นที่ ที่กำหนดว่า เป็นการจัดนิทัศการให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์หน่วยงาน การขายสินค้าโอทอป สิ้นค้าสหกรณ์ หรือเกษตรกรตัวจริง เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน แต่กลับพบว่า มีการสวมรอยนำร้านค้า และพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปที่ประกอบกิจการแร่ขายสินค้าตามงานเหล่านี้ บางรายมาขายเกือบทุกครั้ง ที่มีการจัดงาน ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการภายในทำให้รายได้ลดลงร้อยละ 50 ทั้งนี้ ยังมีการใช้ประโยชน์ในการแอบอ้างหน่วยงานเพื่อดำเนินการที่ไม่ มีการนำพื้นที่ไปขายต่อแก่บุคคลอื่น
"ยืนยันว่า ผู้ประกอบการไม่ได้ประสงค์ให้งดจัดกิจกรรมใดๆ เพียงแต่ขอให้จัดกิจกรรมในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพียงพอกับการชำระค่าเช่าพื้นที่ เพราะทุกวันนี้ ร้านค้าในโซนพื้นที่ร้อยร้าน คงต้องเปลี่ยนชื่อเป็นโซนร้อยร้างแล้ว ดังนั้น จึงเห็นว่า ธพส. ควรพิจารณาหารายได้จากช่องทางอื่น หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการทำให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น มากกว่าการจัดกิจกรรมขายสินค้าบนลานเอนกประสงค์ ชั้น 2 อย่างไรก็ตาม การกระทำของ ธพส. เป็นการกระทำที่ไร้จรรยาบรรณ และไม่เป็นธรรมแก่กลุ่มผู้ประกอบการ จึงขอให้ยุติการกระทำดังกล่าว" ตัวแทนผู้ประกอบการร้านค้า กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกอบการร้านค้า ได้นำหนังสือชี้แจงของทาง ธพส. ที่ชี้แจงเกี่ยวกับการจัดงานขายสินค้าบริเวณชั้น 2 มายื่นให้ผู้ตรวจฯ ด้วย โดยในเนื้อหาของหนังสือ ระบุว่า ธพส. มีความจำเป็นต้องจัดหารายได้ แต่ขณะเดียวกันก็ได้มีการวางแนวทางเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการและเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการบริเวณชั้น 1 ด้วยการลดจำนวนการจัดงานจำหน่ายสินค้าประเภทที่ซ้ำซ้อน หลีกเลี่ยงการจัดการจำหน่ายสินค้าช่วงต้นเดือน และปลายเดือน สนับสนุนให้ผู้ประกอบการร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายในพื้นที่ชั้น 2 และพื้นที่อื่นๆ นอกจากนี้ ธพส. ยังพยายามช่วยเหลือผู้ประกอบการ เช่น ปรับลดค่าเช่า ค่าบริการส่วนกลาง อนุโลมให้มีการวางจำหน่ายสินค้าในพื้นที่หน้าร้าน และยืดหยุ่นในเรื่องระยะเวลาการชำระค่าเช่า ค่าบริการ
ผู้สื่อข่ายรายงานว่า นายรักษเกชา กล่าวว่าพร้อมจะนำเรื่องดังกล่าว นำเสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะถือว่าเรื่องดังกล่าวผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ภายหลังรับเรื่องร้องเรียนเสร็จเรียบร้อย นายรักษเกชา ก็ได้ลงไปเดินดูพื้นที่จำหน่ายสินค้า บริเวณชั้น 1 ด้วยตัวเองด้วย
ตัวแทนผู้ประกอบการร้านค้า กล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมาจำนวนผู้ซื้อซึ่งเป็นข้าราชการภายในศูนย์ราชการ ก็มีจำนวนเท่าเดิม เมื่อมีการจัดกิจกรรมโดยการนำร้านค้ามาจำหน่ายสินค้า บริเวณชั้น 2 ทำให้ผู้ประกอบการได้ผลกระทบด้านยอดขาย และเมื่อมีการเจรจา ธพส. ก็ชี้แจงว่า จำเป็นต้องหารายได้เพิ่ม โดยไม่คำนึงถึงผู้เช่าเดิม อีกทั้งไม่มีการจัดกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้า หรือประชาชนภายนอกเข้ามาซื้อสินค้า
นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมของธพส. ที่ลานกิจกรรม ชั้น 2 ไม่เป็นไปตามวัตุประสงค์ที่แท้จริง และไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการขอใช้พื้นที่ ที่กำหนดว่า เป็นการจัดนิทัศการให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์หน่วยงาน การขายสินค้าโอทอป สิ้นค้าสหกรณ์ หรือเกษตรกรตัวจริง เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน แต่กลับพบว่า มีการสวมรอยนำร้านค้า และพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปที่ประกอบกิจการแร่ขายสินค้าตามงานเหล่านี้ บางรายมาขายเกือบทุกครั้ง ที่มีการจัดงาน ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการภายในทำให้รายได้ลดลงร้อยละ 50 ทั้งนี้ ยังมีการใช้ประโยชน์ในการแอบอ้างหน่วยงานเพื่อดำเนินการที่ไม่ มีการนำพื้นที่ไปขายต่อแก่บุคคลอื่น
"ยืนยันว่า ผู้ประกอบการไม่ได้ประสงค์ให้งดจัดกิจกรรมใดๆ เพียงแต่ขอให้จัดกิจกรรมในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพียงพอกับการชำระค่าเช่าพื้นที่ เพราะทุกวันนี้ ร้านค้าในโซนพื้นที่ร้อยร้าน คงต้องเปลี่ยนชื่อเป็นโซนร้อยร้างแล้ว ดังนั้น จึงเห็นว่า ธพส. ควรพิจารณาหารายได้จากช่องทางอื่น หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการทำให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น มากกว่าการจัดกิจกรรมขายสินค้าบนลานเอนกประสงค์ ชั้น 2 อย่างไรก็ตาม การกระทำของ ธพส. เป็นการกระทำที่ไร้จรรยาบรรณ และไม่เป็นธรรมแก่กลุ่มผู้ประกอบการ จึงขอให้ยุติการกระทำดังกล่าว" ตัวแทนผู้ประกอบการร้านค้า กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกอบการร้านค้า ได้นำหนังสือชี้แจงของทาง ธพส. ที่ชี้แจงเกี่ยวกับการจัดงานขายสินค้าบริเวณชั้น 2 มายื่นให้ผู้ตรวจฯ ด้วย โดยในเนื้อหาของหนังสือ ระบุว่า ธพส. มีความจำเป็นต้องจัดหารายได้ แต่ขณะเดียวกันก็ได้มีการวางแนวทางเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการและเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการบริเวณชั้น 1 ด้วยการลดจำนวนการจัดงานจำหน่ายสินค้าประเภทที่ซ้ำซ้อน หลีกเลี่ยงการจัดการจำหน่ายสินค้าช่วงต้นเดือน และปลายเดือน สนับสนุนให้ผู้ประกอบการร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายในพื้นที่ชั้น 2 และพื้นที่อื่นๆ นอกจากนี้ ธพส. ยังพยายามช่วยเหลือผู้ประกอบการ เช่น ปรับลดค่าเช่า ค่าบริการส่วนกลาง อนุโลมให้มีการวางจำหน่ายสินค้าในพื้นที่หน้าร้าน และยืดหยุ่นในเรื่องระยะเวลาการชำระค่าเช่า ค่าบริการ
ผู้สื่อข่ายรายงานว่า นายรักษเกชา กล่าวว่าพร้อมจะนำเรื่องดังกล่าว นำเสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะถือว่าเรื่องดังกล่าวผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ภายหลังรับเรื่องร้องเรียนเสร็จเรียบร้อย นายรักษเกชา ก็ได้ลงไปเดินดูพื้นที่จำหน่ายสินค้า บริเวณชั้น 1 ด้วยตัวเองด้วย