xs
xsm
sm
md
lg

“พรเพชร”อ้างแรงต้านถอยตั้ง“นัฑ” ปชป.สับลุแก่อำนาจใช้ม.44จนเสื่อม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (19 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ ที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยไม่มีภารกิจข้างนอกแต่อย่างใด หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ต.ค. จากนั้นไม่มีวาระงานและไม่ให้สัมภาษณ์สื่ออีกเลย

** “จเร” เข้ารายงานตัวทำเนียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 08.30 น. นายจเร พันธุ์เปรื่อง อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ถูกคำสั่ง คสช.ย้ายมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้ารายงานตัวกับ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แล้ว โดยนายจเรปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นถึงสาเหตุที่ถูกโยกย้ายอย่างกะทันหัน โดยกล่าวสั้นๆทางโทรศัพท์ว่า วันนี้เป็นข้าราชการในสังกัดปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ก็พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย และขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบหมายให้ดูงานด้านใด
ด้าน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการมอบหมายงานใดให้นายจเร เพราะต้องรอกระบวนการที่จะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในสำนักปลัดฯก่อน

** “พรเพชร” รับชงปลดเลขาฯสภาฯ
ทั้งนี้ เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา เวบไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 38/2558 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 37/2558 โดยมีสาระสำคัญในการยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่แต่งตั้ง นายนัฑ ผาสุข ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา มาเป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และให้คงตำแหน่งเดิมไว้ รวมทั้งให้ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาดำเนินขั้นตอนแต่งตั้งนายนัฑเป็นรองเลขาธิการวุฒิสภาตามที่คณะกรรมการข้าราชการรัฐสภาได้มีมติเห็นชอบแล้ว
จากกรณีดังกล่าว นายพรเพชร วิชิตพลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้แถลงยอมรับว่า เป็นผู้เสนอหัวหน้า คสช.ให้ปรับ นายจเร พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากผลการประเมินการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่มีความล่าช้า และมีข้อเสียหาย ทั้งยังใกล้ครบกำหนดในเดือน พ.ย.ที่จะถึงนี้ แต่การก่อสร้างกลับดำเนินการไปเพียง 15 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงปัญหาการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่ไม่ได้ต้องการสอบสวนนายจเรแต่ประการใด

** อ้างแรงต้านก่อนกลับลำ
นายพรเพชร กล่าวต่อว่า ตนเองเป็นผู้เสนอให้แต่งตั้ง นายนัฑ เป็นเลขาฯสภาผู้แทนราษฎรแทนนายจเร เพราะมองว่ามีความรู้ทางกฎหมายในการแก้ไขปัญหาต่างๆให้ลุล่วงไปได้ ไม่ได้มองว่าจะเป็นการข้ามห้วย หรือว่าเป็นคนละหน่วยงานกัน แต่ปรากฏว่า พอมีคำสั่งย้าย กลับมีปฏิกิริยาที่รุนแรงจากทางข้าราชการรัฐสภา จึงได้ปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ และเข้าใจว่าเลขาฯสภาผู้แทนราษฎรต้องรับใช้แม่น้ำ 3 สายได้แก่ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปแห่งชาติ (สปท.) และ สนช. ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อม จึงได้ตัดสินใจย้ายนายนัฑกลับไปดำรงตำแหน่งเดิม และการแต่งตั้งคนใหม่จะต้องใช้เวลาประเมินเพื่อหาผู้เหมาะสม ซึ่งยังกำหนดไม่ได้ว่าจะใช้เวลากี่วัน ทั้งนี้บุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งจะต้องมีคุณสมบัติแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างรัฐสภาล่าช้า และการทุจริตการจัดซ้ำจัดจ้างได้

** “วิษณุ" โบ้ยกรณี "นัฑ" ไม่ผ่านมือ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีแก้ไขยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.ให้นายนัฑ กลับไปดำรงตำแหน่งเดิมนั้น ตนไม่รู้เรื่องตั้งแต่คำสั่งแรกแล้วที่ให้นายจเรพ้นจากตำแหน่งแล้วว่าเป็นเพราะอะไร และไม่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังว่า เหตุใดจึงต้องออกคำสั่งมาแก้ไข
เมื่อถามว่า แสดงว่าเรื่องนี้ไม่ผ่านมาให้พิจารณา นายวิษณุ ตอบว่า เอาเป็นว่าไม่รู้เรื่องนี้ หลายเรื่องก็ไม่ได้ผ่านตน คสช.เป็นเจ้าของคำสั่ง ส่วนสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เกี่ยวข้องเพียงรับมาแล้วลงพิมพ์ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น ไม่ได้ผ่านกระบวนการเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทางซีกรัฐบาลจึงไม่ได้ตรวจสอบ ดังนั้นผิดพลาดอย่างไรจึงไม่ทราบ

** “นิพิฎฐ์” สับใช้ ม.44 พร่ำเพรื่อ
ด้าน นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ส่วนตัวไม่สบายใจอยู่หลายเรื่อง เพราะมีการใช้มาตรา 44 กับเลขาฯสภาผู้แทนราษฎรมา 2 ครั้งแล้วตั้งแต่มีการยึดอำนาจ ซึ่งเรื่องต่างๆที่เข้าข่ายไม่ชอบนั้น เลขาฯสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถทำอะไรได้มากมาย แต่ต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง คือฝ่ายการเมือง เช่น ประธานสภาฯ หากจะเอาผิดก็ควรเอาผิดให้ถึงต้นตอ นอกจากนี้การย้ายบุคคลจากวุฒิสภามาดำรงตำแหน่งเลขาฯสภาผู้แทนราษฎร ก็เป็นการตัดโอกาสข้าราชการในองค์กรที่จะเติบโตก้าวหน้าตามสายงาน หรือหากเลขาฯสภาผู้แทนราษฎรทำอะไรผิด ก็ควรใช้วิธีปฏิบัติอื่นดีกว่าใช้มาตรา 44 พร่ำเพรื่อ จนสถาบันสภาผู้แทนราษฎรบอบช้ำมากแล้ว
นายนิพิฎฐ์ กล่าวต่อว่า อยากทราบว่าใครเป็นเจ้าของความคิดให้หัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 กับกรณีนี้ ซึ่งเป็นเรื่องเล็กเกินไปที่จะใช้อำนาจนี้กับเลขาฯสภาผู้แทนราษฎร เป็นการใช้ดุลพินิจที่ไม่เหมาะสม ค่อนข้างจะลุแก่อำนาจ และเป็นการลุแก่อำนาจของนายพรเพชร เพราะน้ำหนักในการย้ายนายนัฑไม่พอ หากมีน้ำหนักพอแม้ข้าราชการจะออกมาต่อต้านอย่างไร ก็ไม่เป็นผล เมื่อคิดได้ว่าเหตุผลไม่เพียงพอก็เลยยกเลิก ดังนั้นจะปัญหาว่าต่อไปนี้เวลานายกฯใช้มาตรา 44 อีก จะทำให้หลักการในมาตรา 44 ลดลงไม่น่าเชื่อ ต่อไปนี้จะเสียหายมาก
“เรื่องนี้ถือเป็นตัวอย่างว่า คนที่อยู่ภายใต้ล่มเงา นายกฯอย่าลุแก่อำนาจ ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ควรแก้ในระบบก่อน เว้นแต่แก้ไม่ได้จริงๆ ถึงจะใช้มาตรา 44 ซึ่งต้องมีเหตุผลด้วย”นายนิพิฏฐ์ ระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น