ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ม้าทรงศาลบางเหนียวภูเก็ต แสดงอภินิหารสุดหวาดเสียว ใช้อาวุธนอกตำนานทิ่มแทงตามร่างกายในขบวนแห่พระรอบเมืองออกเยี่ยมประชาชนที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผัก โดยมีประชาชนหลายพันคนเข้าร่วม และตั้งโต๊ะรับพระตลอดเส้นทางที่ขบวนแห่พระรอบเมืองผ่าน ขณะที่เทศกาลกินเจหาดใหญ่คึกคัก ร่างทรงโชว์อิทธิฤทธิ์ ท่ามกลางนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ รอชมนับพันคน คาดมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
เมื่อเวลา 07.00 น. วานนี้ (18 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของประเพณีถือศีลกินผักและเป็นวันที่ 5 ของการประกอบพิธีอิ้วเก้ง หรือพิธีแห่พระรอบเมือง ในประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2558 โดยวานนี้เป็นขบวนแห่พระรอบเมืองของศาลเจ้าบางเหนียว ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต ที่มีแต่ม้าทรงชายล้วน บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมชมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณหน้าลานนวมินทร์ ภูเก็ต เทศบาลนครภูเก็ต รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวจีนมาตั้งโต๊ะรับพระ ในขณะที่โรงแรมเพิร์ล ภูเก็ต และโรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต ได้ตั้งโต๊ะรับพระเช่นกัน ส่วนที่บริเวณวงเวียนสุรินทร์ (หอนาฬิกา) ได้มีประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจำนวนมากได้เดินทางมารอรับขบวนแห่พระของศาลเจ้าบางเหนียว เพื่อเป็นการขอพรจากองค์พระ รวมทั้งชมการแสดงอิทธิฤทธิ์ของบรรดาม้าทรงกว่า 500 คน
โดยม้าทรงของศาลเจ้าบางเหนียว ยังคงแสดงอภิหารสุดหวาดเสียว ใช้อาวุธที่มีอยู่ในตำนาน และของมีคมที่อยู่นอกตำนานในการทิ่มแทงตามร่างกาย เช่น พลั่วตักดิน ปืนบีบีกัน ด้ามขวานไฟที่ใช้สำหรับจุดเตาแก๊ส เตารีดโบราณ ล้อแม็กรถยนต์ แฮนด์รถจักรยานยนต์ นอกจากนั้น ยังมีมีดดาบขนาดใหญ่ ลูกโป่ง มีดทำครัว คีมตัดเหล็ก และอาวุธอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสร้างความหวาดเสียวให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่ไปรอชมขบวนแห่พระจำนวนมาก โดยการแสดงอภินิหารของม้าทรงเชื่อว่าเป็นการรับเคราะห์แทนผู้ถือศีลกินผัก
สำหรับขบวนแห่พระของศาลเจ้าบางเหนียว ได้ออกจากศาลเจ้าตั้งแต่เวลา 07.00 น.มุ่งหน้าไปประกอบพิธีอัญเชิญควันธูป ควันเทียนที่บริเวณข้างสระน้ำสะพานหินภูเก็ต หลังจากนั้น เคลื่อนขบวนไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตพื้นที่ตัวเมืองภูเก็ต โดยมีประชาชน และนักท่องเที่ยวตั้งโต๊ะรับพระ และจุดประทัดตลอดเส้นทางที่ขบวนแห่พระผ่านจนไปถึงศาลเจ้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่วันที่ 18 ต.ค.ผ่านมาได้มีพิธีโก้ยโห้ย หรือลุยไฟของศาลเจ้าเจ่งอ่อง บริเวณหน้าศาลเจ้า ตรงข้ามโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ศาลเจ้าท่าเรือ ศาลเจ้าบางจุ้ยตุ่ยเต้าโบเก้ง ที่บริเวณข้างสนามฟุตบอลสะพานหิน ศาลยกเค่เก้ง (จ้อสู่ก้ง ซอยพะเนียง) ศาลเจ้ากวนเต้กุน (สะปำ) ศาลเจ้าซุ่ยบุนต่อง (หล่อโรง) ศาลเจ้ากวนอู (บ้านนาบอน)
ส่วนในวันนี้ (19 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของพิธีแห่พระรอบเมืองในประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต จะเป็นขบวนแห่พระรอบเมืองของศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย เต้าโบ้เก้ง ซึ่งเป็นศาลเจ้าใหญ่ที่สุดในภูเก็ต และมีม้าทรงที่เข้าร่วมขบวนแห่กว่า 2,000 คน โดยขบวนแห่พระจะออกจากศาลเจ้าตั้งแต่เวลา 07.00 น.
**หาดใหญ่คึกคักคาดเงินสะพัดกว่า100ล.
บรรยากาศการท่องเที่ยวที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ คึกคัก โดยเฉพาะสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมาที่บริเวณถนนเสน่หานุสรณ์ ซึ่งเป็นย่านถนนคนเดินใจกลางเมืองหาดใหญ่ มีการจัดกิจกรรมแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของบรรดาร่างทรงจากศาลเจ้าต่างๆ กว่า 20 องค์ พร้อมองค์พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาให้นักท่องเที่ยวได้สักการะบูชาและเดินข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ โดยไฮไลท์จะอยู่ที่การไต่บันไดมีดและสะพานมีด ที่สร้างความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ที่มารอชมนับพันคน
นอกจากนี้ ยังมีการจุดประทัดจำนวน 1 แสนนัดเสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งเมือง ซึ่งกิจกรรมนี้มีต่อเนื่องถึงวันอาทิตย์อีก 1 คืน เพื่อสร้างสีสันและบรรยากาศการท่องเที่ยวของ อ.หาดใหญ่ ในช่วงเทศกาลกินเจ ให้คึกคักมากยิ่งขึ้น โดยตลอดสุดสัปดาห์นี้มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ เดินเข้ามานับหมื่นคนโรงแรมต่าง ๆ ในตัวเมืองหาดใหญ่ ถูกจองเต็มเกือบทั้งหมด คาดว่าจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
**เบตงกินเจเชื่อมสัมพันธ์ไทย-มาเลย์ปี58
ส่วนที่บริเวณหน้าวัดกวนอิมเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายสมยศ เลิศลำยอง นายกเทศมนตรีเมืองเบตง ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานหอการค้าจังหวัดยะลา ดร.คุณวุฒิ มงคลประจักษ์ ประธานวัฒนธรรมอำเภอเบตง พร้อม นายสกุล เล็งลัคกุล ประธานวัดกวนอิม และชมรมอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นจีน สมาคมมูลนิธิอำเภอเบตง หน่วยงานภาคเอกชน ได้ร่วมพิธีปล่อยขบวนแห่พระในงานเทศกาลกินเจ อำเภอเบตง เชื่อมสัมพันธ์ไทย-มาเลย์ ปี 2558 โดยมีพิธีแห่พระเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชาวเบตง และมีขบวนแห่องค์พระของศาลเจ้าต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเบตง และขบวนเจ้าจากมาเลเซีย รวมถึงขบวนม้าทรง สิงโต มังกร แห่ไปรอบเมืองเบตง เพื่อให้พรแก่นักท่องเที่ยวและประชาชน
**ม้าทรงชาย-หญิงตะกั่วป่าแสดงอิทธิฤทธิ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในพื้นที่ตัวเมืองตะกั่วป่า จ.พังงา ในช่วงวันที่ 7 ยังคึกคักไปด้วยประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ออกมารอรับขบวนแห่ของศาล พระโพธิสัตว์กวนอิม และศาลเจ้าพ่อกวนอู ซึ่งทางศาลเจ้า ได้จัดให้มีพิธีอิ้วเก้ง หรือพิธีแห่พระรอบเมือง ในงานประเพณีถือศีลกินผัก ที่ถือปฏิบัติมาเป็นเวลา 233 ปี ของชาวอำเภอตะกั่วป่า ที่คงเอกลักษณ์ดั่งเดิม
ขณะที่ประชาชนที่มีบ้านเรือนหรือห้างร้านที่ตั้งอยู่ในเส้นทางขบวนแห่ ได้มีการตั้งโต๊ะจัดเครื่องไหว้ และจัดเตรียมประทัดแพ เพื่อเป็นการต้อนรับองค์พระต่างๆ และรวมถึงบรรดาม้าทรงชาย-หญิง ที่ร่วมมาในขบวนแห่ด้วยโดยม้าทรงเหล่านี้จะแสดงอิทธิฤทธิ์ ใช้เหล็กแหลมและของมีคมต่างๆ ทั้งที่อยู่ในตำนานและนอกตำนาน ทิ่มแทงตามร่างกาย ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการรับเคราะห์แทนผู้ถือศีลกินผัก
สำหรับพิธีอิ้วเก้ง หรือ พิธีแห่พระ นั้น เป็นการออกประพาสเพื่อโปรดสัตว์ หรือทำนองออกเยี่ยมราษฎรของพระมหากษัตริย์ มีขบวนธงร่วมในพิธีอีกด้วย และมีประชาชนให้ความสนในมายืนชมการแสดงอภินิหารของม้าทรงครั้งนี้ด้วย
**ผู้ว่าฯตรังจุดประทัดเชิญพระกิวอ๋องเอี่ย
ที่ศาลเจ้ากิวอ๋องเอี๋ย นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เป็นประธานจุดประทัดสายแรกอัญเชิญพระกิวอ๋องเอี่ย ออกจากโรงพิธี เพื่อออกเที่ยว หรือออกโปรดสาธุชนในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ร่วมหาม "ตั่วเหรียญ" พระกิวอ๋อง ออกจากศาลเจ้าไปตามถนนสายสำคัญต่าง ๆ ตั้งแต่ถนนท่ากลาง ถนนกันตัง ถนนพระราม 6 และถนนอีกหลายสาย มีประชาชนผู้ถือศีลกินเจ ร่วมขบวนในครั้งนี้ กว่า 1 หมื่นคน เพราะเป็นวันอาทิตย์ และปิดภาคเรียนจึงมีคนมาร่วมถือศีลกินเจ หรือกินผักกันมากในปีนี้ ประทัดที่จุดถวายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านนัด ตลอดระยะทางที่เดินกว่า 17 กิโลเมตร โดยวันนี้ จังหวัดตรัง มีท้องฟ้าแจ่มใส
**นครปฐมปล่อยเต่าเสริมมงคลเทศกาลกินเจ
ส่วนชาวไทยเชื้อสายจีนใน จ.นครปฐม ต่างพร้อมใจกันนุ่งขาวห่มขาวเพื่อร่วมทำพิธีปล่อยนก ปล่อยเต่า ในช่วงของการถือศีลกินเจ ซึ่งมูลนิธิเหงียนเต่าตั้ว ปุนเท่ากง โดยการนำของนายอนุศักดิ์ วัฒนสกลพันธ์ ประธานมูลนิธิฯ พร้อมคณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันประกอบพิธีอัญเชิญฮุกโจ้ว ภายในศาสนพิธี ก่อนที่จะจัดให้มีขบวนแห่อัญเชิญฮุกโจ้ว วนรอบตลาดนครปฐม เพื่อให้ประชาชนได้สักการะกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยได้กำหนดให้มีการเคลื่อนขบวนออกจากโรงเจในเวลา 09.09 น. ซึ่งขบวนจะเคลื่อนผ่านเส้นทางถนนบ่อเริ่ม วนเข้าตลาดนครปฐม และจากนั้นก็จะเคลื่อนมายังบริเวณริมคลองเจดีย์บูชา ข้างเทศบาลนครนครปฐมเก่า เพื่อให้พระสงฆ์จีนได้ประกอบพิธี โดยระหว่างนี้ผู้ถือศีลกินเจ หรือแจอิ้ว ก็จะร่วมประกอบพิธีเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ต่ออายุ และเสริมความเป็นสิริมงคล โดยจะนำเต่าทั้งหมดไปปล่อยที่บริเวณคลองหน้าวัดบางแขม เนื่องจากเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ และเพื่อป้องกันกลุ่มบุคคลใจบาปที่มารอจับเต่า
นายอนุศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการประกอบพิธีปล่อยนก ปล่อยเต่า ถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในช่วงของการถือศีลกินเจที่ชาวไทยเชื้อสายจีนปฏิบัติสืบต่อกันมา โดยเต่านั้นถือเป็นสัตว์แห่งความเชื่อของคนจีนที่มีความเป็นมงคล มีความเกี่ยวพันกับเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยส่งเสริมความเป็นมงคลให้แก่ชีวิต และมีอายุยืนยาวโดยเชื่อว่าจะทำให้พ้นจากเคราะห์ภัยต่างๆ ได้ ซึ่งพิธีปล่อยนก ปล่อยเต่านั้นจะจัดขึ้นในทุกวันที่ 7 ของช่วงถือศีลกินเจ และหลังจากนี้ก็จะเป็นพิธีซิโกว พิธีลอยกระทงเจ และวันสุดท้ายก็จะเป็นพิธีส่งเจ้ากลับสู่สวรรค์
นอกจากนี้ ทางมูลนิธิฯ ยังได้ฝากประชาสัมพันธ์เชิญชวนสาธุชนได้ร่วมกันทำบุญสร้างซุ้มประตู และร่วมทำบุญเพื่อบูรณะศาสนสถานภายในมูลนิธิ โดยสามารถไปร่วมทำบุญกันได้ตลอดช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งการบูรณะศาสนสถานแห่งนี้จะมีการกำหนดให้ทำเพียง 200 ปีต่อหนึ่งครั้งเท่านั้น โดยประชาชนที่สนใจสามารถเข้ามาร่วมทำบุญได้ตลอดเทศกาลกินเจด้วย
เมื่อเวลา 07.00 น. วานนี้ (18 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของประเพณีถือศีลกินผักและเป็นวันที่ 5 ของการประกอบพิธีอิ้วเก้ง หรือพิธีแห่พระรอบเมือง ในประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2558 โดยวานนี้เป็นขบวนแห่พระรอบเมืองของศาลเจ้าบางเหนียว ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต ที่มีแต่ม้าทรงชายล้วน บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมชมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณหน้าลานนวมินทร์ ภูเก็ต เทศบาลนครภูเก็ต รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวจีนมาตั้งโต๊ะรับพระ ในขณะที่โรงแรมเพิร์ล ภูเก็ต และโรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต ได้ตั้งโต๊ะรับพระเช่นกัน ส่วนที่บริเวณวงเวียนสุรินทร์ (หอนาฬิกา) ได้มีประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจำนวนมากได้เดินทางมารอรับขบวนแห่พระของศาลเจ้าบางเหนียว เพื่อเป็นการขอพรจากองค์พระ รวมทั้งชมการแสดงอิทธิฤทธิ์ของบรรดาม้าทรงกว่า 500 คน
โดยม้าทรงของศาลเจ้าบางเหนียว ยังคงแสดงอภิหารสุดหวาดเสียว ใช้อาวุธที่มีอยู่ในตำนาน และของมีคมที่อยู่นอกตำนานในการทิ่มแทงตามร่างกาย เช่น พลั่วตักดิน ปืนบีบีกัน ด้ามขวานไฟที่ใช้สำหรับจุดเตาแก๊ส เตารีดโบราณ ล้อแม็กรถยนต์ แฮนด์รถจักรยานยนต์ นอกจากนั้น ยังมีมีดดาบขนาดใหญ่ ลูกโป่ง มีดทำครัว คีมตัดเหล็ก และอาวุธอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสร้างความหวาดเสียวให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่ไปรอชมขบวนแห่พระจำนวนมาก โดยการแสดงอภินิหารของม้าทรงเชื่อว่าเป็นการรับเคราะห์แทนผู้ถือศีลกินผัก
สำหรับขบวนแห่พระของศาลเจ้าบางเหนียว ได้ออกจากศาลเจ้าตั้งแต่เวลา 07.00 น.มุ่งหน้าไปประกอบพิธีอัญเชิญควันธูป ควันเทียนที่บริเวณข้างสระน้ำสะพานหินภูเก็ต หลังจากนั้น เคลื่อนขบวนไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตพื้นที่ตัวเมืองภูเก็ต โดยมีประชาชน และนักท่องเที่ยวตั้งโต๊ะรับพระ และจุดประทัดตลอดเส้นทางที่ขบวนแห่พระผ่านจนไปถึงศาลเจ้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่วันที่ 18 ต.ค.ผ่านมาได้มีพิธีโก้ยโห้ย หรือลุยไฟของศาลเจ้าเจ่งอ่อง บริเวณหน้าศาลเจ้า ตรงข้ามโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ศาลเจ้าท่าเรือ ศาลเจ้าบางจุ้ยตุ่ยเต้าโบเก้ง ที่บริเวณข้างสนามฟุตบอลสะพานหิน ศาลยกเค่เก้ง (จ้อสู่ก้ง ซอยพะเนียง) ศาลเจ้ากวนเต้กุน (สะปำ) ศาลเจ้าซุ่ยบุนต่อง (หล่อโรง) ศาลเจ้ากวนอู (บ้านนาบอน)
ส่วนในวันนี้ (19 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของพิธีแห่พระรอบเมืองในประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต จะเป็นขบวนแห่พระรอบเมืองของศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย เต้าโบ้เก้ง ซึ่งเป็นศาลเจ้าใหญ่ที่สุดในภูเก็ต และมีม้าทรงที่เข้าร่วมขบวนแห่กว่า 2,000 คน โดยขบวนแห่พระจะออกจากศาลเจ้าตั้งแต่เวลา 07.00 น.
**หาดใหญ่คึกคักคาดเงินสะพัดกว่า100ล.
บรรยากาศการท่องเที่ยวที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ คึกคัก โดยเฉพาะสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมาที่บริเวณถนนเสน่หานุสรณ์ ซึ่งเป็นย่านถนนคนเดินใจกลางเมืองหาดใหญ่ มีการจัดกิจกรรมแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของบรรดาร่างทรงจากศาลเจ้าต่างๆ กว่า 20 องค์ พร้อมองค์พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาให้นักท่องเที่ยวได้สักการะบูชาและเดินข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ โดยไฮไลท์จะอยู่ที่การไต่บันไดมีดและสะพานมีด ที่สร้างความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ที่มารอชมนับพันคน
นอกจากนี้ ยังมีการจุดประทัดจำนวน 1 แสนนัดเสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งเมือง ซึ่งกิจกรรมนี้มีต่อเนื่องถึงวันอาทิตย์อีก 1 คืน เพื่อสร้างสีสันและบรรยากาศการท่องเที่ยวของ อ.หาดใหญ่ ในช่วงเทศกาลกินเจ ให้คึกคักมากยิ่งขึ้น โดยตลอดสุดสัปดาห์นี้มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ เดินเข้ามานับหมื่นคนโรงแรมต่าง ๆ ในตัวเมืองหาดใหญ่ ถูกจองเต็มเกือบทั้งหมด คาดว่าจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
**เบตงกินเจเชื่อมสัมพันธ์ไทย-มาเลย์ปี58
ส่วนที่บริเวณหน้าวัดกวนอิมเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายสมยศ เลิศลำยอง นายกเทศมนตรีเมืองเบตง ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานหอการค้าจังหวัดยะลา ดร.คุณวุฒิ มงคลประจักษ์ ประธานวัฒนธรรมอำเภอเบตง พร้อม นายสกุล เล็งลัคกุล ประธานวัดกวนอิม และชมรมอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นจีน สมาคมมูลนิธิอำเภอเบตง หน่วยงานภาคเอกชน ได้ร่วมพิธีปล่อยขบวนแห่พระในงานเทศกาลกินเจ อำเภอเบตง เชื่อมสัมพันธ์ไทย-มาเลย์ ปี 2558 โดยมีพิธีแห่พระเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชาวเบตง และมีขบวนแห่องค์พระของศาลเจ้าต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเบตง และขบวนเจ้าจากมาเลเซีย รวมถึงขบวนม้าทรง สิงโต มังกร แห่ไปรอบเมืองเบตง เพื่อให้พรแก่นักท่องเที่ยวและประชาชน
**ม้าทรงชาย-หญิงตะกั่วป่าแสดงอิทธิฤทธิ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในพื้นที่ตัวเมืองตะกั่วป่า จ.พังงา ในช่วงวันที่ 7 ยังคึกคักไปด้วยประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ออกมารอรับขบวนแห่ของศาล พระโพธิสัตว์กวนอิม และศาลเจ้าพ่อกวนอู ซึ่งทางศาลเจ้า ได้จัดให้มีพิธีอิ้วเก้ง หรือพิธีแห่พระรอบเมือง ในงานประเพณีถือศีลกินผัก ที่ถือปฏิบัติมาเป็นเวลา 233 ปี ของชาวอำเภอตะกั่วป่า ที่คงเอกลักษณ์ดั่งเดิม
ขณะที่ประชาชนที่มีบ้านเรือนหรือห้างร้านที่ตั้งอยู่ในเส้นทางขบวนแห่ ได้มีการตั้งโต๊ะจัดเครื่องไหว้ และจัดเตรียมประทัดแพ เพื่อเป็นการต้อนรับองค์พระต่างๆ และรวมถึงบรรดาม้าทรงชาย-หญิง ที่ร่วมมาในขบวนแห่ด้วยโดยม้าทรงเหล่านี้จะแสดงอิทธิฤทธิ์ ใช้เหล็กแหลมและของมีคมต่างๆ ทั้งที่อยู่ในตำนานและนอกตำนาน ทิ่มแทงตามร่างกาย ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการรับเคราะห์แทนผู้ถือศีลกินผัก
สำหรับพิธีอิ้วเก้ง หรือ พิธีแห่พระ นั้น เป็นการออกประพาสเพื่อโปรดสัตว์ หรือทำนองออกเยี่ยมราษฎรของพระมหากษัตริย์ มีขบวนธงร่วมในพิธีอีกด้วย และมีประชาชนให้ความสนในมายืนชมการแสดงอภินิหารของม้าทรงครั้งนี้ด้วย
**ผู้ว่าฯตรังจุดประทัดเชิญพระกิวอ๋องเอี่ย
ที่ศาลเจ้ากิวอ๋องเอี๋ย นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เป็นประธานจุดประทัดสายแรกอัญเชิญพระกิวอ๋องเอี่ย ออกจากโรงพิธี เพื่อออกเที่ยว หรือออกโปรดสาธุชนในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ร่วมหาม "ตั่วเหรียญ" พระกิวอ๋อง ออกจากศาลเจ้าไปตามถนนสายสำคัญต่าง ๆ ตั้งแต่ถนนท่ากลาง ถนนกันตัง ถนนพระราม 6 และถนนอีกหลายสาย มีประชาชนผู้ถือศีลกินเจ ร่วมขบวนในครั้งนี้ กว่า 1 หมื่นคน เพราะเป็นวันอาทิตย์ และปิดภาคเรียนจึงมีคนมาร่วมถือศีลกินเจ หรือกินผักกันมากในปีนี้ ประทัดที่จุดถวายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านนัด ตลอดระยะทางที่เดินกว่า 17 กิโลเมตร โดยวันนี้ จังหวัดตรัง มีท้องฟ้าแจ่มใส
**นครปฐมปล่อยเต่าเสริมมงคลเทศกาลกินเจ
ส่วนชาวไทยเชื้อสายจีนใน จ.นครปฐม ต่างพร้อมใจกันนุ่งขาวห่มขาวเพื่อร่วมทำพิธีปล่อยนก ปล่อยเต่า ในช่วงของการถือศีลกินเจ ซึ่งมูลนิธิเหงียนเต่าตั้ว ปุนเท่ากง โดยการนำของนายอนุศักดิ์ วัฒนสกลพันธ์ ประธานมูลนิธิฯ พร้อมคณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันประกอบพิธีอัญเชิญฮุกโจ้ว ภายในศาสนพิธี ก่อนที่จะจัดให้มีขบวนแห่อัญเชิญฮุกโจ้ว วนรอบตลาดนครปฐม เพื่อให้ประชาชนได้สักการะกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยได้กำหนดให้มีการเคลื่อนขบวนออกจากโรงเจในเวลา 09.09 น. ซึ่งขบวนจะเคลื่อนผ่านเส้นทางถนนบ่อเริ่ม วนเข้าตลาดนครปฐม และจากนั้นก็จะเคลื่อนมายังบริเวณริมคลองเจดีย์บูชา ข้างเทศบาลนครนครปฐมเก่า เพื่อให้พระสงฆ์จีนได้ประกอบพิธี โดยระหว่างนี้ผู้ถือศีลกินเจ หรือแจอิ้ว ก็จะร่วมประกอบพิธีเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ต่ออายุ และเสริมความเป็นสิริมงคล โดยจะนำเต่าทั้งหมดไปปล่อยที่บริเวณคลองหน้าวัดบางแขม เนื่องจากเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ และเพื่อป้องกันกลุ่มบุคคลใจบาปที่มารอจับเต่า
นายอนุศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการประกอบพิธีปล่อยนก ปล่อยเต่า ถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในช่วงของการถือศีลกินเจที่ชาวไทยเชื้อสายจีนปฏิบัติสืบต่อกันมา โดยเต่านั้นถือเป็นสัตว์แห่งความเชื่อของคนจีนที่มีความเป็นมงคล มีความเกี่ยวพันกับเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยส่งเสริมความเป็นมงคลให้แก่ชีวิต และมีอายุยืนยาวโดยเชื่อว่าจะทำให้พ้นจากเคราะห์ภัยต่างๆ ได้ ซึ่งพิธีปล่อยนก ปล่อยเต่านั้นจะจัดขึ้นในทุกวันที่ 7 ของช่วงถือศีลกินเจ และหลังจากนี้ก็จะเป็นพิธีซิโกว พิธีลอยกระทงเจ และวันสุดท้ายก็จะเป็นพิธีส่งเจ้ากลับสู่สวรรค์
นอกจากนี้ ทางมูลนิธิฯ ยังได้ฝากประชาสัมพันธ์เชิญชวนสาธุชนได้ร่วมกันทำบุญสร้างซุ้มประตู และร่วมทำบุญเพื่อบูรณะศาสนสถานภายในมูลนิธิ โดยสามารถไปร่วมทำบุญกันได้ตลอดช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งการบูรณะศาสนสถานแห่งนี้จะมีการกำหนดให้ทำเพียง 200 ปีต่อหนึ่งครั้งเท่านั้น โดยประชาชนที่สนใจสามารถเข้ามาร่วมทำบุญได้ตลอดเทศกาลกินเจด้วย