ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ของรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2558 หรือ "ครม.ประยุทธ์ 3" จำนวน 19 ราย
ปรากฏว่ารัฐมนตรีหน้าใหม่ที่มีทรัพย์สินมากที่สุด คือ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง และ คู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 394,114,426 บาท โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินฝากของทั้งคู่ จำนวนถึง 141,354,350 บาท เงินลงทุน 165,270,074 บาท และเป็นทรัพย์สินอื่น ของคู่สมรส ซึ่งเป็นเครื่องประดับและของสะสมมูลค่า 10,295,000 บาท
รองลงมาคือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 146,916,928 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินในส่วนของ นายสมคิด 56,944,641 บาท ทรัพย์สินของ นางอนุรัชนี จาตุศรีพิทักษ์ คู่สมรส จำนวน 78,579,988 บาท และทรัพย์สินของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จำนวน 11,392,299 บาท
ส่วนรัฐมนตรีใหม่รายอื่นๆ เช่น นายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และคู่สมรส มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 168,550,175 บาท
พล.อ.อนันตรพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน และคู่สมรส มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 47,023,470 บาท นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 78,135,266 บาท นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข และคู่สมรส มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 99,328,225 บาท พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 92,071,271 บาท
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม และคู่สมรส มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 68,294,221 บาท นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 97,337,126 บาท นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ และคู่สมรส มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 37,883,183 บาท
สำหรับรัฐมนตรีที่มีชื่อใน"ครม.ประยุทธ์ 2" แต่ถูกสลับตำแหน่งมาอยู่ใน"ครม.ประยุทธ์ 3" ซึ่งส่วนใหญ่เป็น"บิ๊กทหาร" มีดังนี้
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และคู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 184,278,868 บาท
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และคู่สมรส มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 26,908,358 บาท
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 10,785,261 บาท โดยถือเป็นรัฐมนตรีที่มีทรัพย์สินน้อยที่สุดใน"ครม.ประยุทธ์ 3"
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคู่สมรส มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 26,116,656 บาท
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และคู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 34,967,140 บาท
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และคู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 93,993,764 บาท
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ และ คู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 138,198,595 บาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และคู่สมรส มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 28,587,503 บาท
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ และคู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 33,650,439 บาท
สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้แจงรายการบัญชีทรัพย์สิน เมื่อเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2557 นั้น มีทรัพย์สิน 128,009,790 บาท มีหนี้สิน 654,745 บาท
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีทรัพย์สิน 87,373,757.62 บาท
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มีทรัพย์สิน 37 ล้านบาท
ส่วนรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 19 ส.ค.58 มีรายละเอียดดังนี้
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ คู่สมรส มีทรัพย์สิน1,302,038,134 บาท ลดลงจากเมื่อครั้งที่เข้ารับตำแหน่งวันที่ 4 ก.ย.57 จำนวน 76,356,768 บาท นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช อดีต รมว.อุตสาหกรรม และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 61,516,307 บาท เพิ่มขึ้น 9,780,299 บาท ถือเป็นอดีตรัฐมนตรีที่มีทรัพย์สินเพิ่มมากที่สุด โดยเงินที่เพิ่มเข้ามามาจากเงินลงทุน ซึ่งเป็นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรองนายกฯ และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 88,962,529 บาท ลดลง 287,880 บาท นายสมหมาย ภาษี อดีต รมว.คลัง และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 115,612,269 บาท เพิ่มขึ้นจากเมื่อครั้งที่เข้ารับตำแหน่ง 2,274,526 บาท นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 801,989,984 บาท ลดลง 28,533,805 บาท นายพรชัย รุจิประภา อดีตรมว.ไอซีที และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 110,040,216บาท เพิ่มขึ้น 1,051,009 บาท
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตรมว.พลังงาน และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 279,396,633 บาท ลดลง 4,314,248 บาท นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน อดีตรมว.สาธารณสุข และคู่สมรส มีทรัพย์สิน148,096,087 บาท เพิ่มขึ้น 7,856,787 บาท
นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ อดีตรมช.สาธารณสุข และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 40,077,216 บาท เพิ่มขึ้น1,096,995 บาท นายอำนวย ปะติเส อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 29,534,195 บาท เพิ่มขึ้น 1,108,501 บาท นายกฤษณพงศ์ กีรติกร อดีตรมช.ศึกษาธิการ และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 54,633,254 บาท ลดลง 528,947 บาท
ยังมีบัญชีทรัพย์สินของ "บิ๊กทหาร" ที่น่าสนใจอีก 2 นาย แม้จะไม่ได้อยู่ในคณะรัฐมนตรี แต่ก็มีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพบก คือ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลโหม และอดีต ผบ.ทบ. กับ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.คนใหม่
โดย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร แจ้งบัญชี ช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมช.กลาโหม เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2557 ว่า มีทรัพย์สิน 29,242,327 บาท เป็น เงินสด 1 ล้านบาท เงินฝาก 8 บัญชี 15,373,042 บาท เงินลงทุนซึ่งส่วนใหญ่เป็นกองทุนธนาคารจำนวน 3,589,284 บาท ที่ดิน 3 แปลง 2.5 ล้านบาท บ้าน 1 หลัง 2 ล้านบาท รถยนต์ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน รวม 1,980,000 บาท ทรัพย์สินอื่นฯ 2.8 ล้านบาท อาทิ พระเลี่ยมทอง 6.5 แสนบาท มีหนี้สิน 1,920,119 บาท
ส่วนนางวิภาดา สีตบุตร คู่สมรส มีทรัพย์สิน 26,821,859 บาท เป็นเงินสด 3 แสนบาท เงินฝาก 1,309,959 บาท เงินลงทุน (สลากออมสิน) 2,001,900 บาท ที่ดิน 2 แปลง 4.5 ล้านบาท บ้าน 1 หลัง 15 ล้านบาท รถยนต์ 1 คัน 9 แสนบาท ทรัพย์สินอื่นฯ 2,810,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับ ทองคำ
ของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 490,611 บาท
รวมทั้งสามคนมีทรัพย์สิน 56,554,798 บาท หนี้สิน 1,920,119 บาท
ขณะที่ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินช่วงเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 ว่ามีทรัพย์สิน 49,911,393 บาท เป็นเงินฝาก10,903,285 บาท เงินลงทุน ส่วนใหญ่เป็นกองทุน-สหกรณ์ออมทรัพย์ 3,414,440 บาท ที่ดิน 6 แปลง 21.2 ล้านบาท บ้าน 1 หลัง 7 ล้านบาท รถยนต์ 2 คัน 5,338,000 บาท สิทธิและสัมปทาน (ประกันชีวิต) 1,035,668 บาท ทรัพย์สินอื่น 1,020,000 บาท ไม่มีหนี้สิน
ส่วนพ.อ.หญิง บุญรักษา นาควานิช คู่สมรส มีทรัพย์สิน 20,320,767 บาท เป็นเงินฝาก 8,554,421 บาท เงินลงทุน 1,645,351 บาท ที่ดิน 4 แปลง 7,000,125 บาท รถยนต์ 1 คัน 1,069,000 บาท สิทธิและสัมปทาน (ประกันชีวิต) 711,869 บาท ทรัพย์สินอื่นฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับ 1,340,000 บาท ไม่มีหนี้สิน
รวมพล.อ.ธีรชัย และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 70,232,161 บาท ไม่มีหนี้สิน