ศูนย์ข่าวภูเก็ต/หาดใหญ่-หมอกควันจากเกาะสุมาตรา ยังปกคลุมท้องฟ้าทั่วภาคใต้ ส่งผลทำเที่ยวบินดีเลย์จำนวนมาก ทั้งหาดใหญ่ กระบี่ ภูเก็ต ขณะที่ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กพุ่งเกินค่ามาตรฐานที่ภูเก็ต ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเด็ก คนชรา ทำให้มีผู้ป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น แต่หลายจังหวัดหมอกควันเริ่มลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (7 ต.ค.) สถานการณ์หมอกควันไฟ จากเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ยังคงปกคลุมพืนที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบางจังหวัดอาจเบาบางลงบ้าง แต่ก็มีอีกหลายจังหวัดได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ยังคงปกคลุมไปด้วยหมอกควัน และมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้น ซึ่งจากการตรวจสอบไปยังเว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษที่รายงานสถานการณ์และคุณภาพอากาศของประเทศไทยในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ปรากฏว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 7 ต.ค. วัดค่าฝุ่นละอองในอากาศที่บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ตอยู่ที่ 184 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณฝุ่นดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยทั่วไป
โดยผลกระทบจากหมอกควัน ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชน เกิดอาการแสบตา คันตามผิวหนัง ปวดศรีษะ โดยสาธารสุขจังหวัดภูเก็ต ได้แจ้งเตือนประชาชนเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งเตือนการสัญจรทางบก ทางเรือ ให้เพิ่มความระมัดระวัง
ทั้งนี้ ยังพบว่า โรงเรียนบางแห่ง โดยเฉพาะศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของเทศบาลนครภูเก็ต ผู้ปกครองบางรายให้ลูกหยุดเรียน เนื่องจากเกรงลูกหลานจะได้รับผลกระทบจากหมอกควันดังกล่าว โดยที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลนครภูเก็ต มีเด็กมาเรียนเพียง 40 กว่าคนเท่านั้น จากจำนวนเด็กนักเรียนที่มีมากถึง 150 คน
ล่าสุดสถานการณ์หมอกควัน และความกดอากาศต่ำ ได้ส่งผลกระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบินที่ท่าอากาศยานภูเก็ต
นายอำนวย สาระชาติ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นมา จนถึงเวลาประมาณ 10.00 น. พบว่า มีเครื่องบินมากถึง 15 ลำ ที่ต้องบินวนเพื่อรอให้สภาพอากาศเปิด ซึ่งส่วนใหญ่ สามารถลงได้ตามปกติ แต่มีจำนวน 3 ลำ ที่ต้องบินกลับไปลงที่ดอนเมือง 1 ลำ ปีนัง 1 ลำ และสนามบินเกาะสมุย 1 ลำ
นายวิทวัส ภัคดีสันติสกุล ผอ.ท่าอากาศยานกระบี่ กล่าวว่า เที่ยวบินช่วงเช้าประมาณ 2-3 เที่ยวบินไม่สามรถลงจอดได้ อย่างเช่น แอร์ เอเชีย และไลออน แอร์ ที่มีกำหนดลงในช่วงเช้า ต้องเปลี่ยนไปลงที่สนามบินสุราษฎรธานีแทน ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากปรากฏการณ์ฟ้าหลัว และหมอกควันอินโดนีเซีย ทำให้มีหมอกควันความหนาแน่นกว่าปกติ โดยช่วงบ่ายสภาพอากาศดีขึ้น เครื่องบินสามารถลงจอดได้ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ที่จังหวัดพังงา ยังพบหมอกควันกลับมาหนาแน่นเพิ่มขึ้น ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนเกิดอาการแสบจมูก ระคายเคืองตา ส่วนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หมอกควันหนาแน่นมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อประชาชน และการสัญจร แต่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หมอกควันเริ่มลดลง คุณภาพอากาศดีขึ้น โดยในช่วงเช้ายังมีปัญหาเครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้ เพราะหมอกหนาผสมรวมกับหมอกควัน ทำให้ทัศนวิสัยแย่ ขณะที่จังหวัดนราธิวาส สตูล และปัตตานี หมอกควันเริ่มลดลงแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (7 ต.ค.) สถานการณ์หมอกควันไฟ จากเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ยังคงปกคลุมพืนที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบางจังหวัดอาจเบาบางลงบ้าง แต่ก็มีอีกหลายจังหวัดได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ยังคงปกคลุมไปด้วยหมอกควัน และมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้น ซึ่งจากการตรวจสอบไปยังเว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษที่รายงานสถานการณ์และคุณภาพอากาศของประเทศไทยในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ปรากฏว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 7 ต.ค. วัดค่าฝุ่นละอองในอากาศที่บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ตอยู่ที่ 184 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณฝุ่นดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยทั่วไป
โดยผลกระทบจากหมอกควัน ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชน เกิดอาการแสบตา คันตามผิวหนัง ปวดศรีษะ โดยสาธารสุขจังหวัดภูเก็ต ได้แจ้งเตือนประชาชนเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งเตือนการสัญจรทางบก ทางเรือ ให้เพิ่มความระมัดระวัง
ทั้งนี้ ยังพบว่า โรงเรียนบางแห่ง โดยเฉพาะศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของเทศบาลนครภูเก็ต ผู้ปกครองบางรายให้ลูกหยุดเรียน เนื่องจากเกรงลูกหลานจะได้รับผลกระทบจากหมอกควันดังกล่าว โดยที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลนครภูเก็ต มีเด็กมาเรียนเพียง 40 กว่าคนเท่านั้น จากจำนวนเด็กนักเรียนที่มีมากถึง 150 คน
ล่าสุดสถานการณ์หมอกควัน และความกดอากาศต่ำ ได้ส่งผลกระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบินที่ท่าอากาศยานภูเก็ต
นายอำนวย สาระชาติ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นมา จนถึงเวลาประมาณ 10.00 น. พบว่า มีเครื่องบินมากถึง 15 ลำ ที่ต้องบินวนเพื่อรอให้สภาพอากาศเปิด ซึ่งส่วนใหญ่ สามารถลงได้ตามปกติ แต่มีจำนวน 3 ลำ ที่ต้องบินกลับไปลงที่ดอนเมือง 1 ลำ ปีนัง 1 ลำ และสนามบินเกาะสมุย 1 ลำ
นายวิทวัส ภัคดีสันติสกุล ผอ.ท่าอากาศยานกระบี่ กล่าวว่า เที่ยวบินช่วงเช้าประมาณ 2-3 เที่ยวบินไม่สามรถลงจอดได้ อย่างเช่น แอร์ เอเชีย และไลออน แอร์ ที่มีกำหนดลงในช่วงเช้า ต้องเปลี่ยนไปลงที่สนามบินสุราษฎรธานีแทน ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากปรากฏการณ์ฟ้าหลัว และหมอกควันอินโดนีเซีย ทำให้มีหมอกควันความหนาแน่นกว่าปกติ โดยช่วงบ่ายสภาพอากาศดีขึ้น เครื่องบินสามารถลงจอดได้ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ที่จังหวัดพังงา ยังพบหมอกควันกลับมาหนาแน่นเพิ่มขึ้น ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนเกิดอาการแสบจมูก ระคายเคืองตา ส่วนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หมอกควันหนาแน่นมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อประชาชน และการสัญจร แต่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หมอกควันเริ่มลดลง คุณภาพอากาศดีขึ้น โดยในช่วงเช้ายังมีปัญหาเครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้ เพราะหมอกหนาผสมรวมกับหมอกควัน ทำให้ทัศนวิสัยแย่ ขณะที่จังหวัดนราธิวาส สตูล และปัตตานี หมอกควันเริ่มลดลงแล้ว
