ศูนย์ข่าวภูมิภาค - จังหวัดระยองระดมเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำกว่า 10 เครื่องในหลายพื้นที่เพื่อเตรียมรับมือพายุ "มูจีแก" หวั่นถล่มซ้ำรอย "หว่ามก๋อ" ด้าน ปภ.พิษณุโลก สั่งเฝ้าระวังน้ำป่า 5 อำเภอเสี่ยง ขณะที่ อ.เนินมะปราง ระดับน้ำไหลแรงและเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
วานนี้ (6 ต.ค.) จากสถานการณ์พายุมูจีแกส่งผลกระทบให้มีฝนตกหนักและเกิดภาวะน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง ทางศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ โดย พล.ร.ท.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 จึงได้สั่งการให้หมวดบินเฉพาะกิจนำเฮลิคอปเตอร์ แบบซีฮอว์ค พร้อมเจ้าหน้าที่ขึ้นบินสำรวจความเสียหาย พร้อมประสานหน่วยบรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พล.ร.ท.ธนะกาญจน์ ใคร่ครวญ ผบ.หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน นำกำลังหนุนจากกองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน ร่วมกับหน่วยบรรเทาสาธารณภัย กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ จำนวน 120 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์ และผู้ควบคุม เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนอยู่ในขณะนี้
ด้านนายสมศักดิ์ สุวรรณจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ระยองขณะนี้ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่ อ.นิคมพัฒนา ที่มีรอยต่อจาก จ.ชลบุรี ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นมาก และขณะนี้ได้เรียกประชุมทุกภาคส่วนในการหารือเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วม ที่ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดน้ำได้เคลื่อนจาก อ.นิคมพัฒนา มาถึง ต.ทับมา อ.เมืองระยอง แล้วสูงประมาณ 25 เซนติเมตร และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
ทางด้านนายประเสริฐ วงษ์ศรี นายกเทศมนตรีตำบลทับมา อ.เมืองระยอง กล่าวว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุโซนร้อนมูจีแกในพื้นที่ ต.ทับมา ซึ่งตกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.ทำให้น้ำในคลองทับมา และบริเวณอ่างเก็บน้ำเขาโบสถ์ สูงประมาณ 3.50 เมตร คาดว่าปริมาณน้ำฝนจะมีแนวโน้มสูงกว่าช่วงที่เกิดพายุหว่ามก๋อ เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาด้วยซ้ำไป ซึ่งจะทำให้น้ำในคลองทับมา ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลตำบลทับมา ในเที่ยงวันเดียวกันนี้
จึงประกาศให้ขนย้ายสิ่งของไว้ในที่สูง พร้อมเตรียมทราย และกระสอบมาให้ประชาชนไว้ป้องกันน้ำท่วมรวม 10 จุด คือ ที่เทศบาลตำบลทับมา บริเวณห้างแม็คโคร บ้านหนองมะหาด หมู่บ้านกรุงไทย หมู่บ้านสวนแก้ว หมู่บ้านโมเดิร์นโฮม หมู่บ้านศักดิ์ทิพย์ ร้านอาหารต้นทางรัก ศูนย์สาธิตหมู่ 1 และหมู่บ้านอยู่สบาย
นายประสานต์ พฤกษาชาติ ผอ.โครงการชลประทานระยอง กล่าวว่า ได้เกิดฝนตกหนักเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเขต อ.นิคมพัฒนา มีฝนตกหนักมาก และในพื้นที่ อ.บ้านค่าย วัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 145 มิลลิเมตร มวลน้ำก้อนนี้จาก อ.นิคมพัฒนา ก็จะไหลลงคลองทับมา ส่วนมวลน้ำของ อ.บ้านค่าย จะไหลลงแม่น้ำระยองออกสู่ทะเล ส่วนมวลน้ำจากนิคมพัฒนาที่ไหลลงคลองทับมา คาดว่าจะทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ ต.ทับมา หนักกว่าครั้งที่เกิดพายุหว่ามก๋อ เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะนี้เร่งดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบกว่า 10 ตัวในหลายจุด พร้อมเตรียมเครื่องสำรองไว้อีกหลายตัว
ล่าสุดน้ำได้ไหลเข้าท่วมบริเวณวัดทับมาแล้ว กำลังจะไหลข้ามถนนสาย 36 บริเวณสะพานหน้าวัดทับมา ส่วนที่ อ.บ้านค่าย น้ำจะไหลลงแม่น้ำระยอง ออกสู่ทะเลซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนมากนัก เนื่องจากน้ำป่ามาเร็ว และไปเร็ว
**สั่ง5อำเภอพิษณุโลกเตรียมรับมือน้ำป่า
นางรติรส มีคำแหง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) พิษณุโลก เปิดเผยว่า หลังจากได้รับผลกระทบจากพายุมูจีแก ทำให้มีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ประกอบกับมีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ราบเชิงเขา 5 อำเภอ คือ อ.นครไทย อ.ชาติตระการ อ.วังทอง อ.วัดโบสถ์ และ อ.เนินมะปราง จึงได้สั่งการให้หน่วยงานเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ล่าสุดได้รับแจ้งว่าที่ อ.เนินมะปราง น้ำในลำคลองชมภู ไหลแรงมากและปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล้นฝั่งในบางพื้นที่ จึงประกาศให้ 3 หมู่บ้านที่ลำคลองชมภูไหลผ่านเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก
**ผวจ.สุโขทัยสั่งทุกหน่วยเก็บน้ำใช้แก้แล้ง
นายปิติ แก้วสลับสี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยนายมงคล สุภากาย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุโขทัย ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางน้ำจากหาดสะพานจันทร์ หมู่ที่ 9 ต.ในเมือง อ.สวรรคโลก เลาะตลอดเส้นทางน้ำ แม่น้ำยมฝั่งขวา ถึงแก้มลิงทะเลหลวง เพื่อเตรียมขุดลอกปรับพื้นที่แม่น้ำยม 2 จุด คือ 6 กิโลเมตร จาก ต.วังไม้ขอน ถึง ต.วังพิณพาทย์ อ.สวรรคโลก และ ต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง โดยใช้แบคโฮขุดดินขึ้นมาทำคันตลิ่งที่ต่ำ ป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร เช่น นาข้าว และไร่อ้อย ของประชาชน
จากนั้นจะยกบานประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์จาก 25 เซนติเมตร เป็น 50 เซนติเมตร เปิดทางน้ำเข้าเพิ่มปริมาณทะเลหลวง ซึ่งขณะนี้เหลือ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้เต็มความจุ 32 ล้านลูกบาศก์เมตร เตรียมบรรเทาสถานการณ์ภัยแล้งต่อเนื่องถึงปีหน้า โดยคาดว่าพายุมูจีแกลูกนี้เป็นจะลูกสุดท้าย อย่างไรก็ตาม น้ำต้นทุนในจังหวัดสุโขทัยขณะนี้ มีเพียง 33% จาก 75% ของปีที่แล้ว จึงต้องบริหารจัดการกักเก็บให้มากที่สุด
**อบต.กาฬสินธุ์-เกษตรกรหารือรับมือภัยแล้ง
วันเดียวกันที่ศูนย์อินทรง บ้านนาเชือก ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายทรงศักดิ์ ภูขามคม นายก อบต.นาเชือก กล่าวว่า แม้ช่วงนี้จะมีพายุเข้ามาในประเทศไทยและทำให้ฝนตกในพื้นที่ แต่จากการติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว พบว่า ยังอยู่ในระดับวิกฤต ซึ่งได้สร้างความวิตกกังวลให้กับเกษตรกรในพื้นที่เขตชลประทานอย่างมาก และเชื่อว่าหลังหมดพายุลูกนี้ จ.กาฬสินธุ์ ก็จะเข้าสู่ภาวะฝนทิ้งช่วง
วานนี้ (6 ต.ค.) จากสถานการณ์พายุมูจีแกส่งผลกระทบให้มีฝนตกหนักและเกิดภาวะน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง ทางศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ โดย พล.ร.ท.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 จึงได้สั่งการให้หมวดบินเฉพาะกิจนำเฮลิคอปเตอร์ แบบซีฮอว์ค พร้อมเจ้าหน้าที่ขึ้นบินสำรวจความเสียหาย พร้อมประสานหน่วยบรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พล.ร.ท.ธนะกาญจน์ ใคร่ครวญ ผบ.หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน นำกำลังหนุนจากกองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน ร่วมกับหน่วยบรรเทาสาธารณภัย กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ จำนวน 120 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์ และผู้ควบคุม เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนอยู่ในขณะนี้
ด้านนายสมศักดิ์ สุวรรณจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ระยองขณะนี้ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่ อ.นิคมพัฒนา ที่มีรอยต่อจาก จ.ชลบุรี ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นมาก และขณะนี้ได้เรียกประชุมทุกภาคส่วนในการหารือเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วม ที่ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดน้ำได้เคลื่อนจาก อ.นิคมพัฒนา มาถึง ต.ทับมา อ.เมืองระยอง แล้วสูงประมาณ 25 เซนติเมตร และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
ทางด้านนายประเสริฐ วงษ์ศรี นายกเทศมนตรีตำบลทับมา อ.เมืองระยอง กล่าวว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุโซนร้อนมูจีแกในพื้นที่ ต.ทับมา ซึ่งตกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.ทำให้น้ำในคลองทับมา และบริเวณอ่างเก็บน้ำเขาโบสถ์ สูงประมาณ 3.50 เมตร คาดว่าปริมาณน้ำฝนจะมีแนวโน้มสูงกว่าช่วงที่เกิดพายุหว่ามก๋อ เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาด้วยซ้ำไป ซึ่งจะทำให้น้ำในคลองทับมา ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลตำบลทับมา ในเที่ยงวันเดียวกันนี้
จึงประกาศให้ขนย้ายสิ่งของไว้ในที่สูง พร้อมเตรียมทราย และกระสอบมาให้ประชาชนไว้ป้องกันน้ำท่วมรวม 10 จุด คือ ที่เทศบาลตำบลทับมา บริเวณห้างแม็คโคร บ้านหนองมะหาด หมู่บ้านกรุงไทย หมู่บ้านสวนแก้ว หมู่บ้านโมเดิร์นโฮม หมู่บ้านศักดิ์ทิพย์ ร้านอาหารต้นทางรัก ศูนย์สาธิตหมู่ 1 และหมู่บ้านอยู่สบาย
นายประสานต์ พฤกษาชาติ ผอ.โครงการชลประทานระยอง กล่าวว่า ได้เกิดฝนตกหนักเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเขต อ.นิคมพัฒนา มีฝนตกหนักมาก และในพื้นที่ อ.บ้านค่าย วัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 145 มิลลิเมตร มวลน้ำก้อนนี้จาก อ.นิคมพัฒนา ก็จะไหลลงคลองทับมา ส่วนมวลน้ำของ อ.บ้านค่าย จะไหลลงแม่น้ำระยองออกสู่ทะเล ส่วนมวลน้ำจากนิคมพัฒนาที่ไหลลงคลองทับมา คาดว่าจะทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ ต.ทับมา หนักกว่าครั้งที่เกิดพายุหว่ามก๋อ เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะนี้เร่งดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบกว่า 10 ตัวในหลายจุด พร้อมเตรียมเครื่องสำรองไว้อีกหลายตัว
ล่าสุดน้ำได้ไหลเข้าท่วมบริเวณวัดทับมาแล้ว กำลังจะไหลข้ามถนนสาย 36 บริเวณสะพานหน้าวัดทับมา ส่วนที่ อ.บ้านค่าย น้ำจะไหลลงแม่น้ำระยอง ออกสู่ทะเลซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนมากนัก เนื่องจากน้ำป่ามาเร็ว และไปเร็ว
**สั่ง5อำเภอพิษณุโลกเตรียมรับมือน้ำป่า
นางรติรส มีคำแหง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) พิษณุโลก เปิดเผยว่า หลังจากได้รับผลกระทบจากพายุมูจีแก ทำให้มีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ประกอบกับมีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ราบเชิงเขา 5 อำเภอ คือ อ.นครไทย อ.ชาติตระการ อ.วังทอง อ.วัดโบสถ์ และ อ.เนินมะปราง จึงได้สั่งการให้หน่วยงานเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ล่าสุดได้รับแจ้งว่าที่ อ.เนินมะปราง น้ำในลำคลองชมภู ไหลแรงมากและปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล้นฝั่งในบางพื้นที่ จึงประกาศให้ 3 หมู่บ้านที่ลำคลองชมภูไหลผ่านเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก
**ผวจ.สุโขทัยสั่งทุกหน่วยเก็บน้ำใช้แก้แล้ง
นายปิติ แก้วสลับสี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยนายมงคล สุภากาย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุโขทัย ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางน้ำจากหาดสะพานจันทร์ หมู่ที่ 9 ต.ในเมือง อ.สวรรคโลก เลาะตลอดเส้นทางน้ำ แม่น้ำยมฝั่งขวา ถึงแก้มลิงทะเลหลวง เพื่อเตรียมขุดลอกปรับพื้นที่แม่น้ำยม 2 จุด คือ 6 กิโลเมตร จาก ต.วังไม้ขอน ถึง ต.วังพิณพาทย์ อ.สวรรคโลก และ ต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง โดยใช้แบคโฮขุดดินขึ้นมาทำคันตลิ่งที่ต่ำ ป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร เช่น นาข้าว และไร่อ้อย ของประชาชน
จากนั้นจะยกบานประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์จาก 25 เซนติเมตร เป็น 50 เซนติเมตร เปิดทางน้ำเข้าเพิ่มปริมาณทะเลหลวง ซึ่งขณะนี้เหลือ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้เต็มความจุ 32 ล้านลูกบาศก์เมตร เตรียมบรรเทาสถานการณ์ภัยแล้งต่อเนื่องถึงปีหน้า โดยคาดว่าพายุมูจีแกลูกนี้เป็นจะลูกสุดท้าย อย่างไรก็ตาม น้ำต้นทุนในจังหวัดสุโขทัยขณะนี้ มีเพียง 33% จาก 75% ของปีที่แล้ว จึงต้องบริหารจัดการกักเก็บให้มากที่สุด
**อบต.กาฬสินธุ์-เกษตรกรหารือรับมือภัยแล้ง
วันเดียวกันที่ศูนย์อินทรง บ้านนาเชือก ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายทรงศักดิ์ ภูขามคม นายก อบต.นาเชือก กล่าวว่า แม้ช่วงนี้จะมีพายุเข้ามาในประเทศไทยและทำให้ฝนตกในพื้นที่ แต่จากการติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว พบว่า ยังอยู่ในระดับวิกฤต ซึ่งได้สร้างความวิตกกังวลให้กับเกษตรกรในพื้นที่เขตชลประทานอย่างมาก และเชื่อว่าหลังหมดพายุลูกนี้ จ.กาฬสินธุ์ ก็จะเข้าสู่ภาวะฝนทิ้งช่วง
