พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมร่วมระหว่าง คสช.-ครม. และ สนช. ถึงข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เรื่องการเตรียมตัวรับมือ พายุดีเปรสชั่นหว่ามก๋อ ว่า ขณะนี้พายุหว่ามก๋อ อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ยังคงส่งผลต่อประเทศไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยท่านนายกฯ ต้องการให้ประชาชนติดตามข่าวสาร เพื่อให้เกิดความระมัดระวัง โดยหน่วยงานราชการทั้งทหาร กรมบรรเทาและป้องกันสาธารณภัย ต้องเตรียมความพร้อมทั้งบุคลากรและเครื่องมือ เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที ทุกอย่างต้องทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
นอกจากนี้ท่านนายกฯ ยังกล่าวอีกว่า อย่าคิดถึงแต่เรื่องแก้ปัญหาน้ำท่วม ต้องคิดด้วยว่า มันอาจเป็นฝนลูกสุดท้ายของปีนี้ อย่าคิดเพียงระบายน้ำที่เกิดฝนตก ต้องเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด ซึ่งส่วนนี้คือสิ่งสำคัญเพื่อสามารถผ่านพ้นฤดูแล้งปีหน้าไปให้ได้ เนื่องจากสถานการณืฝนตกของปีนี้เฉลี่ยแล้วตกต่ำกว่าปีที่แล้วถึง 25% น้ำในเขื่อนใช้ได้เพียง 26% โดยเฉพาะเขื่อนในลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่ใช้ได้เพียง 12% ซึ่งหากพิจารณาจากตัวเลขดังกล่าว เห็นได้ว่า ฤดูแล้งหน้ามีปัญหาแน่นอน
"รัฐบาลไม่อยากแก้ปัญหาเหล่านี้เมื่อปัญหามาถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมการตั้งแต่เนิ่น โดยการช่วยเหลือประชาชนแบบประคับประคอง ไม่ใช่แค่เพียงการให้ความรู้แก่พี่น้องประชาชน เพราะเป็นเพียงการบอกผ่านไปเฉยๆ เนื่องจากประชาชนไม่เคยปฏิบัติแบบนี้มาก่อน แต่ต้องชี้แจงแบบลงไปประกบเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืช อะไรที่ปลูกได้ อะไรไม่ควรปลูก ซึ่งในช่วงท้ายอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการปลูกพืชเป็นการทำอย่างอื่นแทน และท่านได้เร่งรัดในพื้นที่ที่เปป็นสวนผลไม้ ให้รัฐช่วยขุดบ่อน้ำบาดาลในสวนผลไม้ เนื่องจากปีนี้ราคาผลไม้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก" พล.ต.สรรเสริญ ระบุ
นอกจากนี้ท่านนายกฯ ยังกล่าวอีกว่า อย่าคิดถึงแต่เรื่องแก้ปัญหาน้ำท่วม ต้องคิดด้วยว่า มันอาจเป็นฝนลูกสุดท้ายของปีนี้ อย่าคิดเพียงระบายน้ำที่เกิดฝนตก ต้องเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด ซึ่งส่วนนี้คือสิ่งสำคัญเพื่อสามารถผ่านพ้นฤดูแล้งปีหน้าไปให้ได้ เนื่องจากสถานการณืฝนตกของปีนี้เฉลี่ยแล้วตกต่ำกว่าปีที่แล้วถึง 25% น้ำในเขื่อนใช้ได้เพียง 26% โดยเฉพาะเขื่อนในลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่ใช้ได้เพียง 12% ซึ่งหากพิจารณาจากตัวเลขดังกล่าว เห็นได้ว่า ฤดูแล้งหน้ามีปัญหาแน่นอน
"รัฐบาลไม่อยากแก้ปัญหาเหล่านี้เมื่อปัญหามาถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมการตั้งแต่เนิ่น โดยการช่วยเหลือประชาชนแบบประคับประคอง ไม่ใช่แค่เพียงการให้ความรู้แก่พี่น้องประชาชน เพราะเป็นเพียงการบอกผ่านไปเฉยๆ เนื่องจากประชาชนไม่เคยปฏิบัติแบบนี้มาก่อน แต่ต้องชี้แจงแบบลงไปประกบเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืช อะไรที่ปลูกได้ อะไรไม่ควรปลูก ซึ่งในช่วงท้ายอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการปลูกพืชเป็นการทำอย่างอื่นแทน และท่านได้เร่งรัดในพื้นที่ที่เปป็นสวนผลไม้ ให้รัฐช่วยขุดบ่อน้ำบาดาลในสวนผลไม้ เนื่องจากปีนี้ราคาผลไม้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก" พล.ต.สรรเสริญ ระบุ
