ASTVผู้จัดการรายวัน – ตลาดกล้องปรับตัวรับสมาร์ทโฟนดูดแชร์การถ่ายภาพ ฟูจิ เปิดตัว เครื่อง คิวพีเอส รับพริ้นท์ภาพจากมือถือ รองรับตลาด จับมือ “บิ๊กคาเมร่า” เชนร้านกล้องรายใหญ่ วางเครื่องบริการเป็นเชนแรก เป้าหมาย 250 เครื่องใน 230 สาขาสิ้นเดือนนี้
นายสิทธิเวช เศวตรพัชร์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล อิมเมจจิ้ง บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากการเติบโตของสมาร์ทโฟนที่มีต่อเนื่องส่งผลให้พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการถ่ายพที่นิยมใช้สมาร์ทโฟนมากกว่ากล้องทั่วไป เพราะสะดวก และง่าย และถ่ายได้ปริมาณมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดกล้องที่มีการเติบโตลดลงด้วย แต่ตัวเลขล่าสุดจากจีเอฟเคยังยืนยันว่า ในเดือนกรกฎาคม ฟูจิยังเป็นเจ้าตลาดกล้องด้วยส่วนแบ่ง 46% แต่ฟูจิก็ต้องพัฒนาหาตลาดใหม่ๆต่อเนื่องเพื่อขยายธุรกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตลาดรวมกล้องปี 2557 มีประมาณ 380,000 ตัว ซึ่งเป็นการรวมกล้องคอมแพกต์ กล้องดีเอสแอลอาร์ และกล้องมิเรอร์เลส แล้ว พบว่าตลาดรวมลดลงประมาณ 51% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,340 ล้านบาท ซึ่งลดลงประมาณ 21% เมื่อเทียบกับปี 2556 หากแยกเป็นกลุ่มพบว่า กล้องคอมแพกต์ลดลงอย่างมากถึง 53% ในเชิงมูลค่า ส่วนกล้องดีเอสแอลอาร์แม้จะเติบโตแต่ก็เติบโตลดลงเช่นกัน 4% ในเชิงมูลค่า และประมาณ 14% ในเชิงปริมาณ
อย่างไรก็ตาม นายสิทธิเวช กล่าวว่า แม้การถ่ายภาพจากสมาร์ทโฟนจะเป็นที่นิยมแต่ส่วนใหญ่แล้วการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนมักจะไม่ได้อัดภาพออกมาเก็บไว้ มักจะแชร์ภาพในโซเชียลมีเดียเป็นหลัก ขณะที่ยังมีบางกลุ่มที่ยังต้องการถ่ายภาพและอัดภาพออกมาเก็บไว้หรือไม่ก็ส่งต่อให้คนอื่นที่มีความพิเศษ ที่สะดวกและรวดเร็ว เช่นเดียวกับการถ่ายด้วยกล้องทั่วไป แต่ไม่ได้ต้องการอัดภาพทั้งหมด เพราะมากเกินไป
ล่าสุดฟูจิได้พัฒนาเครื่องพิมพ์ ควิก พริ้นท์ สเตชั่น หรือ คิวพีเอส ( Quick Print Station / QPS) เป็นเครื่องพริ้นท์พิมพ์ภาพที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายดังกล่าว สามารถพิมพ์ภาพลงบนกระดาษภาพได้รวดเร็ว เหมือนการอัดภาพแบบซิลเวอร์ฮาไลด์ และรับภาพได้ทันที ขนาด 4 คูณ 6 นิ้ว ราคา 7 บาทต่อภาพ มีราคาประมาณ 69,000 บาทต่อเครื่อง ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นเราเริ่มวางตลาดแล้ว ส่วนในไทยในตลาดยังไม่มีรายใดทำ มีฟูจิเป็นรายแรกที่ร่วมมือกับเชนร้านกล้องรายใหญ่อย่าง บิ๊กคาเมร่าเป็นรายแรก ซึ่งเป็นเฟสแรกก่อนที่จะมีการขยายช่องทางอื่นต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายค้าปลีก หรือร้านกล้อง ปัจจุบัน ฟูจิมีแล็บสีที่เหลืออยู่ประมาณ 700 กว่าแล็ป จากตลาดรวมกว่า 1,200 แล็บ
*** บิ๊กคาเมร่า ขยายธุรกิจ
นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯลงทุนไปมากกว่า 20 ล้านบาท เพื่อรองรับเครื่อง QPS นี้ ปัจจุบันวางเครื่องนี้ให้บริการที่ร้าบิ๊กคาเมร่าแล้ว 130 สาขา ตั้งแต่เดือนที่แล้ว และเป้าหมายจะวางให้ครบ 230 สาขารวม 250 เครื่อง ภายในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งถือเป็นบริการใหม่ในร้านที่จะเข้ามาตอบสนองตลาดได้อย่างดี และคาดว่าภายในปีครึ่งคงจะคุ้มทุน
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจหลักของบิ๊กคาเมร่า ยังคงเป็นการจำหน่ายกล้อง ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 80% จากรายได้รวม ส่วนอีก 15% มาจากอุปกรณ์เสริม และบริการต่างๆ ส่วนอีก 5% มาจากการจำหน่ายมือถือ ที่เพิ่งเริ่มไม่นานนี้ ทั้งนี้ผลประกอบการบิ๊กคาเมร่า ไตรมาสแรก มีรายได้ 982 ล้านบาท เติบโต 20% เทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 2557 มีรายได้รวม 820 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 72 ล้านบาท เติบโต 102% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 2557 มีกำไรสุทธิ 36 ล้านบาท ส่วนไตรมาสที่สองเติบโต 40% คาดว่าทั้งปีจะมีการเติบโตเฉลี่ย 10-20% โดยทั้งปีตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ 3,800 ล้านบาท
สำหรับบริการใหม่คือ เครื่อง QPS จากฟูจิครั้งนี้ จะยิ่งทำให้บิ๊กคาเมร่ามีความแตกต่างจากเชนร้านกล้องรายอื่นมากขึ้น และเป็นการสร้างความแข็งแกร่งในการขยายรายได้ด้วย ซึ่งหากมองคร่าวๆแล้ว ปัจจุบันนี้คนไทยใช้สมาร์ทโฟนมากถึง 30 ล้านเครื่อง ซึ่งเป็นจำนวนที่มาก เช่นเดียวกับภาพที่ถ่ายออกมาต้องมีมากมหาศาล โอกาสที่จะรองรับความต้องการดังกล่าวแม้จะแค่ 1% ก็ถือว่ามากแล้ว
“เครื่องนี้มีขนาดเล็กพกพาได้ สั่งงานผ่านจอระบบสัมผัส ด้วยรูปแบบไอคอนต่างๆ เป็นภาษาไทย รอรับภาพได้ เพียงแค่โหลดแอพพลิเคชั่น Order-it Mobile ที่รองรับระบบ iOS และ Android ยังสามารถพิมพ์รูปติดบัตรแบบด่วนได้ และพิมพ์ภาพผ่าน SD CARD และ USB ได้ด้วย” นายธนสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การลงทุนประมาณ 20 ล้านบาทครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนลงทุนทั้งหมดในปี 2558 นี้ ที่ตั้งงบรวมไว้ประมาณ 100 ล้านบาท ที่ใช้ในการขยายสาขาบิ๊กคาเมร่า อีกประมาณ 10 สาขาตามศูนย์การค้าทั่วไป และเป็นงบปรับปรุงสาขาเก่า ปัจจุบันมีรวม 230 สาขา และยังมีร้าน Big Mobile ที่จำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือประมาณ 23 สาขา และงบการตลาดประชาสัมพันธ์
นายสิทธิเวช เศวตรพัชร์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล อิมเมจจิ้ง บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากการเติบโตของสมาร์ทโฟนที่มีต่อเนื่องส่งผลให้พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการถ่ายพที่นิยมใช้สมาร์ทโฟนมากกว่ากล้องทั่วไป เพราะสะดวก และง่าย และถ่ายได้ปริมาณมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดกล้องที่มีการเติบโตลดลงด้วย แต่ตัวเลขล่าสุดจากจีเอฟเคยังยืนยันว่า ในเดือนกรกฎาคม ฟูจิยังเป็นเจ้าตลาดกล้องด้วยส่วนแบ่ง 46% แต่ฟูจิก็ต้องพัฒนาหาตลาดใหม่ๆต่อเนื่องเพื่อขยายธุรกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตลาดรวมกล้องปี 2557 มีประมาณ 380,000 ตัว ซึ่งเป็นการรวมกล้องคอมแพกต์ กล้องดีเอสแอลอาร์ และกล้องมิเรอร์เลส แล้ว พบว่าตลาดรวมลดลงประมาณ 51% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,340 ล้านบาท ซึ่งลดลงประมาณ 21% เมื่อเทียบกับปี 2556 หากแยกเป็นกลุ่มพบว่า กล้องคอมแพกต์ลดลงอย่างมากถึง 53% ในเชิงมูลค่า ส่วนกล้องดีเอสแอลอาร์แม้จะเติบโตแต่ก็เติบโตลดลงเช่นกัน 4% ในเชิงมูลค่า และประมาณ 14% ในเชิงปริมาณ
อย่างไรก็ตาม นายสิทธิเวช กล่าวว่า แม้การถ่ายภาพจากสมาร์ทโฟนจะเป็นที่นิยมแต่ส่วนใหญ่แล้วการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนมักจะไม่ได้อัดภาพออกมาเก็บไว้ มักจะแชร์ภาพในโซเชียลมีเดียเป็นหลัก ขณะที่ยังมีบางกลุ่มที่ยังต้องการถ่ายภาพและอัดภาพออกมาเก็บไว้หรือไม่ก็ส่งต่อให้คนอื่นที่มีความพิเศษ ที่สะดวกและรวดเร็ว เช่นเดียวกับการถ่ายด้วยกล้องทั่วไป แต่ไม่ได้ต้องการอัดภาพทั้งหมด เพราะมากเกินไป
ล่าสุดฟูจิได้พัฒนาเครื่องพิมพ์ ควิก พริ้นท์ สเตชั่น หรือ คิวพีเอส ( Quick Print Station / QPS) เป็นเครื่องพริ้นท์พิมพ์ภาพที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายดังกล่าว สามารถพิมพ์ภาพลงบนกระดาษภาพได้รวดเร็ว เหมือนการอัดภาพแบบซิลเวอร์ฮาไลด์ และรับภาพได้ทันที ขนาด 4 คูณ 6 นิ้ว ราคา 7 บาทต่อภาพ มีราคาประมาณ 69,000 บาทต่อเครื่อง ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นเราเริ่มวางตลาดแล้ว ส่วนในไทยในตลาดยังไม่มีรายใดทำ มีฟูจิเป็นรายแรกที่ร่วมมือกับเชนร้านกล้องรายใหญ่อย่าง บิ๊กคาเมร่าเป็นรายแรก ซึ่งเป็นเฟสแรกก่อนที่จะมีการขยายช่องทางอื่นต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายค้าปลีก หรือร้านกล้อง ปัจจุบัน ฟูจิมีแล็บสีที่เหลืออยู่ประมาณ 700 กว่าแล็ป จากตลาดรวมกว่า 1,200 แล็บ
*** บิ๊กคาเมร่า ขยายธุรกิจ
นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯลงทุนไปมากกว่า 20 ล้านบาท เพื่อรองรับเครื่อง QPS นี้ ปัจจุบันวางเครื่องนี้ให้บริการที่ร้าบิ๊กคาเมร่าแล้ว 130 สาขา ตั้งแต่เดือนที่แล้ว และเป้าหมายจะวางให้ครบ 230 สาขารวม 250 เครื่อง ภายในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งถือเป็นบริการใหม่ในร้านที่จะเข้ามาตอบสนองตลาดได้อย่างดี และคาดว่าภายในปีครึ่งคงจะคุ้มทุน
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจหลักของบิ๊กคาเมร่า ยังคงเป็นการจำหน่ายกล้อง ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 80% จากรายได้รวม ส่วนอีก 15% มาจากอุปกรณ์เสริม และบริการต่างๆ ส่วนอีก 5% มาจากการจำหน่ายมือถือ ที่เพิ่งเริ่มไม่นานนี้ ทั้งนี้ผลประกอบการบิ๊กคาเมร่า ไตรมาสแรก มีรายได้ 982 ล้านบาท เติบโต 20% เทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 2557 มีรายได้รวม 820 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 72 ล้านบาท เติบโต 102% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 2557 มีกำไรสุทธิ 36 ล้านบาท ส่วนไตรมาสที่สองเติบโต 40% คาดว่าทั้งปีจะมีการเติบโตเฉลี่ย 10-20% โดยทั้งปีตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ 3,800 ล้านบาท
สำหรับบริการใหม่คือ เครื่อง QPS จากฟูจิครั้งนี้ จะยิ่งทำให้บิ๊กคาเมร่ามีความแตกต่างจากเชนร้านกล้องรายอื่นมากขึ้น และเป็นการสร้างความแข็งแกร่งในการขยายรายได้ด้วย ซึ่งหากมองคร่าวๆแล้ว ปัจจุบันนี้คนไทยใช้สมาร์ทโฟนมากถึง 30 ล้านเครื่อง ซึ่งเป็นจำนวนที่มาก เช่นเดียวกับภาพที่ถ่ายออกมาต้องมีมากมหาศาล โอกาสที่จะรองรับความต้องการดังกล่าวแม้จะแค่ 1% ก็ถือว่ามากแล้ว
“เครื่องนี้มีขนาดเล็กพกพาได้ สั่งงานผ่านจอระบบสัมผัส ด้วยรูปแบบไอคอนต่างๆ เป็นภาษาไทย รอรับภาพได้ เพียงแค่โหลดแอพพลิเคชั่น Order-it Mobile ที่รองรับระบบ iOS และ Android ยังสามารถพิมพ์รูปติดบัตรแบบด่วนได้ และพิมพ์ภาพผ่าน SD CARD และ USB ได้ด้วย” นายธนสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การลงทุนประมาณ 20 ล้านบาทครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนลงทุนทั้งหมดในปี 2558 นี้ ที่ตั้งงบรวมไว้ประมาณ 100 ล้านบาท ที่ใช้ในการขยายสาขาบิ๊กคาเมร่า อีกประมาณ 10 สาขาตามศูนย์การค้าทั่วไป และเป็นงบปรับปรุงสาขาเก่า ปัจจุบันมีรวม 230 สาขา และยังมีร้าน Big Mobile ที่จำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือประมาณ 23 สาขา และงบการตลาดประชาสัมพันธ์