00 ในที่สุดผ่านมาสองสัปดาห์ ก็สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยที่ลอบวางระเบิดที่ศาลพระพรหมแยกราชประสงค์ และเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่สะพานสาทรได้แล้วจำนวนหนึ่งราย เป็นชายที่ถือหนังสือเดินทางตุรกี งานนี้เป็นการสนธิกำลังกันระหว่างตำรวจ และทหาร เป็นการบุกเข้าไปจับกุมที่อพาทเมนต์แห่งหนึ่งย่านหนองจอก งานนี้ถือว่ารัฐบาลไทย โดยเฉพาะตำรวจไทย สามารถคลายความกดดันลงไปได้ระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็เมื่อมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ ก็ยังไม่มีข้อสงสัยเรื่อง "จับแพะ" ตามมาทันที ทำให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เสียงดังทันที อธิบายเป็นฉากๆว่าหลบมากบดานในไทยตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.ปีที่แล้ว และมีการร่วมก่อเหตุหลายครั้ง และที่สำคัญก็คือมี "ผู้ร่วมขบวนการนับสิบคน"
00 แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ คนพวกนี้ทั้งผู้ต้องสงสัยชาวตุรกีที่ถูกจับได้คนดังกล่าวก็ไม่ใช่เป็น "กลุ่มผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ" แต่เหตุจูงใจที่ลงมือเพราะ "เจ็บแค้นแทนพรรคพวก" ฟังดูแล้วมันก็ "ทะแม่ง" พิกล และผลการสอบสวนก็ดูเหมือนจะขีดวงเอาเพียงแค่การลงมือเชื่อมโยงกับคนไทยที่เป็นขบวนการก่อเหตุป่วนเท่านั้น ซึ่งหากย้อนกลับไปพิจารณาคำพูดของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. หรือแม้แต่คำพูดของ โฆษกรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ที่กล่าวหลังสิ้นเสียงระเบิดในทำนองว่า เป็นฝีมือของกลุ่มอำนาจที่เสียประโยชน์
00 แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุร้ายแบบนี้แน่นอน ไม่ว่าจะมาจากฝีมือของพวกกลุ่มการเมืองภายใน หรือกลุ่มก่อการ้ายข้ามชาติหรือไม่ เพราะนี่คือการทำร้ายประเทศไทยแบบหนักหน่วง แต่อย่างไรก็ตาม ดีกรีความรุนแรงหรือผลกระทบในภายหน้าก็ต่างกันลิบลับด้วย หากนี่คือการ "ก่อการร้ายข้ามชาติ" เพราะหากเป็นอย่างหลังทุกอย่างก็จะยิ่งซับซ้อน ที่สำคัญก็จะถูก "ยกระดับ" กลายเป็นเรื่อง"สากล"ทันที เพราะจะไปเกี่ยวข้องแทรกแซงจากมหาอำนาจ จะกระทบไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไทยก็จะอยู่ไม่เป็นสุข ก็ได้แต่ภาวนาว่า นี่เป็นแค่การลงมือของ "ขบวนการป่วนภายใน" เท่านั้นจริงๆ
00 แน่นอนว่ายามนี้คำพูดที่ "ละเอียดอ่อน" ที่สุดในเวลานี้ก็คือคำว่า "อุยกูร์" ที่ฝ่ายไทยตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ลงมาจนถึง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ก็ไม่ต้องการให้เอ่ยถึง รวมทั้งทางการจีน ก็ยิ่งไม่ต้องการให้โยงไปถึง เพราะถึงขนาดเคยตำหนิสื่อไทยบางสื่อที่ชี้ว่าอาจเป็นฝีมือของพวก "อุยกูร์" ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหาแบ่งแยกดินแดน และทางการไทยเคยส่งผู้อพยพกลับไปยังจีนกว่าร้อยคน และถูกหลายประเทศประท้วงและตำหนิอย่างรุนแรง โดยเฉพาะหากจำกันได้ เพิ่งมีการประท้วงทำลายสถานทูตไทยในตุรกีที่มีเชื้อสายเดียวกันมาแล้ว !!
00 ดังนั้น การจับกุมผู้ต้องสงสัยคราวนี้ ขั้นตอนต่อไปก็ยิ่งเป็น "งานยาก" ต่อเนื่องในการหาเหตุผลอธิบายว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อผู้ต้องสงสัยเป็น "ชาวตุรกี" แม้จะเข้าใจว่านี่มันเรื่อง "ละเอียดอ่อน"เป็นเรื่องความมั่นคง แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานความจริง เพราะหากบิดเบือนไปอีกทางมันก็ยิ่งเสียหาย แต่ถึงอย่างไรในเบื้องต้นก็ต้องให้เครดิต ว่าที่ ผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่คุมคดีนี้มาตั้งแต่ต้น ก็หวังว่าจะทำให้กระจ่างทั้งหมด !!
00 แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ คนพวกนี้ทั้งผู้ต้องสงสัยชาวตุรกีที่ถูกจับได้คนดังกล่าวก็ไม่ใช่เป็น "กลุ่มผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ" แต่เหตุจูงใจที่ลงมือเพราะ "เจ็บแค้นแทนพรรคพวก" ฟังดูแล้วมันก็ "ทะแม่ง" พิกล และผลการสอบสวนก็ดูเหมือนจะขีดวงเอาเพียงแค่การลงมือเชื่อมโยงกับคนไทยที่เป็นขบวนการก่อเหตุป่วนเท่านั้น ซึ่งหากย้อนกลับไปพิจารณาคำพูดของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. หรือแม้แต่คำพูดของ โฆษกรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ที่กล่าวหลังสิ้นเสียงระเบิดในทำนองว่า เป็นฝีมือของกลุ่มอำนาจที่เสียประโยชน์
00 แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุร้ายแบบนี้แน่นอน ไม่ว่าจะมาจากฝีมือของพวกกลุ่มการเมืองภายใน หรือกลุ่มก่อการ้ายข้ามชาติหรือไม่ เพราะนี่คือการทำร้ายประเทศไทยแบบหนักหน่วง แต่อย่างไรก็ตาม ดีกรีความรุนแรงหรือผลกระทบในภายหน้าก็ต่างกันลิบลับด้วย หากนี่คือการ "ก่อการร้ายข้ามชาติ" เพราะหากเป็นอย่างหลังทุกอย่างก็จะยิ่งซับซ้อน ที่สำคัญก็จะถูก "ยกระดับ" กลายเป็นเรื่อง"สากล"ทันที เพราะจะไปเกี่ยวข้องแทรกแซงจากมหาอำนาจ จะกระทบไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไทยก็จะอยู่ไม่เป็นสุข ก็ได้แต่ภาวนาว่า นี่เป็นแค่การลงมือของ "ขบวนการป่วนภายใน" เท่านั้นจริงๆ
00 แน่นอนว่ายามนี้คำพูดที่ "ละเอียดอ่อน" ที่สุดในเวลานี้ก็คือคำว่า "อุยกูร์" ที่ฝ่ายไทยตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ลงมาจนถึง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ก็ไม่ต้องการให้เอ่ยถึง รวมทั้งทางการจีน ก็ยิ่งไม่ต้องการให้โยงไปถึง เพราะถึงขนาดเคยตำหนิสื่อไทยบางสื่อที่ชี้ว่าอาจเป็นฝีมือของพวก "อุยกูร์" ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหาแบ่งแยกดินแดน และทางการไทยเคยส่งผู้อพยพกลับไปยังจีนกว่าร้อยคน และถูกหลายประเทศประท้วงและตำหนิอย่างรุนแรง โดยเฉพาะหากจำกันได้ เพิ่งมีการประท้วงทำลายสถานทูตไทยในตุรกีที่มีเชื้อสายเดียวกันมาแล้ว !!
00 ดังนั้น การจับกุมผู้ต้องสงสัยคราวนี้ ขั้นตอนต่อไปก็ยิ่งเป็น "งานยาก" ต่อเนื่องในการหาเหตุผลอธิบายว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อผู้ต้องสงสัยเป็น "ชาวตุรกี" แม้จะเข้าใจว่านี่มันเรื่อง "ละเอียดอ่อน"เป็นเรื่องความมั่นคง แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานความจริง เพราะหากบิดเบือนไปอีกทางมันก็ยิ่งเสียหาย แต่ถึงอย่างไรในเบื้องต้นก็ต้องให้เครดิต ว่าที่ ผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่คุมคดีนี้มาตั้งแต่ต้น ก็หวังว่าจะทำให้กระจ่างทั้งหมด !!
