พล.ต. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สนับสนุนแนวทางปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม ของพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ คนใหม่ โดยนโยบายหนึ่งคือ การลดระยะเวลาการเรียนภาควิชาการลง โดยให้เลิกในเวลาบ่ายสอง แต่ทั้งนี้ต้องไม่กระทบเนื้อหาหลักที่เด็กๆ ควรเรียนรู้ ซึ่งหมายความว่า คุณครูอาจารย์ต้องใช้ความสามารถในการอธิบาย และบูรณาการให้ครบถ้วนอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
"เวลาที่โรงเรียนเลิก ยังคงเป็นเวลาเดิม ตามกำหนดของแต่ละแห่ง ซึ่งมักจะเป็นช่วงบ่ายสี่โมงเป็นต้นไป โดยช่วงเวลาตั้งแต่บ่ายสองโมงจนกว่าจะถึงเวลาโรงเรียนเลิก ทางโรงเรียนจะจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ให้นักเรียนแทน ทั้งนี้ท่านนายกฯ ฝาก สพฐ.ว่า ควรจัดกิจกรรมหลากหลาย ที่ช่วยเพิ่มพูนทักษะการคิด วิเคราะห์ ความมีน้ำใจต่อกัน การทำงานเป็นทีม และที่สำคัญควรมีกิจกรรมกระตุ้นให้เด็กได้ค้นหาศักยภาพ และความชอบของตนเอง เพราะท่านนายกฯเชื่อว่า เด็กทุกคนมีความพิเศษ มีความสามารถในแบบฉบับของตนเอง"
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่านนายกฯ แนะนำว่า การจัดกิจกรรมไม่จำเป็นต้องเปิดให้เฉพาะห้องเดียวกัน หรือระดับชั้นเดียวกัน บางกิจกรรมสามารถศึกษาหรือทำร่วมกันหลายระดับชั้นได้ เพื่อให้เด็กๆ รู้จักการปรับตัว การช่วยเหลือดูแลกัน การมีปฏิสัมพันธ์กับคนหลายช่วงวัย ซึ่งเป็นการจำลองสภาพจริงในสังคมให้เด็กได้เรียนรู้ ซึ่งจะยิ่งช่วยเพิ่มทักษะในการแก้ปัญหาให้กับเด็กไทย
"ท่านนายกฯ อยากให้ผู้ปกครอง สบายใจว่า มิใช่ โรงเรียนจะเลิกเร็ว แล้วกลายเป็นผลักภาระให้ผู้ปกครอง โรงเรียนยังคงต้องทำหน้าที่ให้การศึกษา แต่เป็นการศึกษาที่ไม่ได้เน้นแค่วิชาการ จนขาดทักษะด้านอื่นที่จำเป็นและสำคัญมาก คือทักษะการใช้ชีวิตและการรู้จักตนเอง"
**มอบนโยบายกศน.ยึดหลัก 4 S
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวในการมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)ในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือว่า ตนต้องการเห็นคุณภาพการศึกษาของคนไทยให้แข่งขันกับสากลได้ เพราะ กศน. จะต้องดูแลคน 60 ล้านคน ที่อยู่นอกระบบให้ได้รับการศึกษาตลอดชีวิตโดยหลักการทำงานต้องยึดหลัก 4S คือ
1.Service Mind การมีใจบริการ ต้องดูแลผู้รับบริการประหนึ่งเป็นลูกหลาน ให้ได้เรียน ได้เล่น ได้รู้อย่างเต็มที่
2. Speed มีความรวดเร็วในการทำงาน แต่ต้องได้ประสิทธิผล คือ ทั้งจำนวน และคุณภาพ เช่น ที่เคยมอบนโยบายให้เปิดมุมเด็กในห้องสมุดซึ่งพบว่าหลายแห่งก็รับนโยบายไปดำเนินการแล้ว ขณะเดียวกันขอให้ลงไปดูเรื่องการอ่านของผู้สูงอายุด้วยที่บางรายพออายุมากไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ ถึงเวลาก็ลืม อ่านไม่ได้
3.Smart ทำอะไรด้วยความถูกต้อง ชัดเจนและซื่อตรง โดยเฉพาะผู้บริหาร กศน. ควรมีบุคลิกภาพที่ดี มีทักษะภาษาที่ดีใช้ถูกต้องเหมาะสมทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
และ 4.Systematic ทำงานอย่างเป็นระบบ โดยแม้ผู้บริหารจะไม่อยู่งานต่างๆ ก็สามารถเดินหน้าต่อได้ รวมถึงขอจัดทำระบบข้อมูลเด็กออกกลางคันด้วย
"ผมย้ำเสมอถึงเรื่องการปฏิบัติตนของข้าราชการและบุคลากร ว่าต้องไม่มีการทุจริต การวิ่งเต้นตำแหน่ง ผมเรียกว่า เป็นการประพฤติชั่ว และจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นในช่วงที่ผมเป็นปลัดกระทรวง ถึงแม้เรื่องเหล่านี้ จะมีมานานจนมองว่าเป็นเรื่องปกติกัน แต่ผมยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องปกติ โดยเฉพาะตำแหน่งผู้บริหาร กว่าจะขึ้นมาได้ยากลำบาก และเมื่อขึ้นมาแล้ว หมายถึงเขามอบความไว้วางใจให้แก่เรา ขอให้รักษาเกียรติและศักดิ์ศรีตนเอง มีจริยธรรมและธรรมาภิบาล ซึ่งนับแต่นั่งเป็นปลัดกระทรวงมา 4 เดือน มีเรื่องร้องเรียนมาถึงผมจำนวนมาก ทั้งเรื่องทุจริต เจ้านายลุแก่อำนาจ ใช้คำหยาบ คายกับลูกน้อง หรือกระทั่งบางรายมีภรรยาเข้ามายุ่มย่ามในที่ทำงาน เป็นต้น ผมได้ส่งเรื่องให้ต้นสังกัดไปตรวจสอบทั้งหมด" ปลัด ศธ. กล่าว
"เวลาที่โรงเรียนเลิก ยังคงเป็นเวลาเดิม ตามกำหนดของแต่ละแห่ง ซึ่งมักจะเป็นช่วงบ่ายสี่โมงเป็นต้นไป โดยช่วงเวลาตั้งแต่บ่ายสองโมงจนกว่าจะถึงเวลาโรงเรียนเลิก ทางโรงเรียนจะจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ให้นักเรียนแทน ทั้งนี้ท่านนายกฯ ฝาก สพฐ.ว่า ควรจัดกิจกรรมหลากหลาย ที่ช่วยเพิ่มพูนทักษะการคิด วิเคราะห์ ความมีน้ำใจต่อกัน การทำงานเป็นทีม และที่สำคัญควรมีกิจกรรมกระตุ้นให้เด็กได้ค้นหาศักยภาพ และความชอบของตนเอง เพราะท่านนายกฯเชื่อว่า เด็กทุกคนมีความพิเศษ มีความสามารถในแบบฉบับของตนเอง"
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่านนายกฯ แนะนำว่า การจัดกิจกรรมไม่จำเป็นต้องเปิดให้เฉพาะห้องเดียวกัน หรือระดับชั้นเดียวกัน บางกิจกรรมสามารถศึกษาหรือทำร่วมกันหลายระดับชั้นได้ เพื่อให้เด็กๆ รู้จักการปรับตัว การช่วยเหลือดูแลกัน การมีปฏิสัมพันธ์กับคนหลายช่วงวัย ซึ่งเป็นการจำลองสภาพจริงในสังคมให้เด็กได้เรียนรู้ ซึ่งจะยิ่งช่วยเพิ่มทักษะในการแก้ปัญหาให้กับเด็กไทย
"ท่านนายกฯ อยากให้ผู้ปกครอง สบายใจว่า มิใช่ โรงเรียนจะเลิกเร็ว แล้วกลายเป็นผลักภาระให้ผู้ปกครอง โรงเรียนยังคงต้องทำหน้าที่ให้การศึกษา แต่เป็นการศึกษาที่ไม่ได้เน้นแค่วิชาการ จนขาดทักษะด้านอื่นที่จำเป็นและสำคัญมาก คือทักษะการใช้ชีวิตและการรู้จักตนเอง"
**มอบนโยบายกศน.ยึดหลัก 4 S
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวในการมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)ในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือว่า ตนต้องการเห็นคุณภาพการศึกษาของคนไทยให้แข่งขันกับสากลได้ เพราะ กศน. จะต้องดูแลคน 60 ล้านคน ที่อยู่นอกระบบให้ได้รับการศึกษาตลอดชีวิตโดยหลักการทำงานต้องยึดหลัก 4S คือ
1.Service Mind การมีใจบริการ ต้องดูแลผู้รับบริการประหนึ่งเป็นลูกหลาน ให้ได้เรียน ได้เล่น ได้รู้อย่างเต็มที่
2. Speed มีความรวดเร็วในการทำงาน แต่ต้องได้ประสิทธิผล คือ ทั้งจำนวน และคุณภาพ เช่น ที่เคยมอบนโยบายให้เปิดมุมเด็กในห้องสมุดซึ่งพบว่าหลายแห่งก็รับนโยบายไปดำเนินการแล้ว ขณะเดียวกันขอให้ลงไปดูเรื่องการอ่านของผู้สูงอายุด้วยที่บางรายพออายุมากไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ ถึงเวลาก็ลืม อ่านไม่ได้
3.Smart ทำอะไรด้วยความถูกต้อง ชัดเจนและซื่อตรง โดยเฉพาะผู้บริหาร กศน. ควรมีบุคลิกภาพที่ดี มีทักษะภาษาที่ดีใช้ถูกต้องเหมาะสมทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
และ 4.Systematic ทำงานอย่างเป็นระบบ โดยแม้ผู้บริหารจะไม่อยู่งานต่างๆ ก็สามารถเดินหน้าต่อได้ รวมถึงขอจัดทำระบบข้อมูลเด็กออกกลางคันด้วย
"ผมย้ำเสมอถึงเรื่องการปฏิบัติตนของข้าราชการและบุคลากร ว่าต้องไม่มีการทุจริต การวิ่งเต้นตำแหน่ง ผมเรียกว่า เป็นการประพฤติชั่ว และจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นในช่วงที่ผมเป็นปลัดกระทรวง ถึงแม้เรื่องเหล่านี้ จะมีมานานจนมองว่าเป็นเรื่องปกติกัน แต่ผมยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องปกติ โดยเฉพาะตำแหน่งผู้บริหาร กว่าจะขึ้นมาได้ยากลำบาก และเมื่อขึ้นมาแล้ว หมายถึงเขามอบความไว้วางใจให้แก่เรา ขอให้รักษาเกียรติและศักดิ์ศรีตนเอง มีจริยธรรมและธรรมาภิบาล ซึ่งนับแต่นั่งเป็นปลัดกระทรวงมา 4 เดือน มีเรื่องร้องเรียนมาถึงผมจำนวนมาก ทั้งเรื่องทุจริต เจ้านายลุแก่อำนาจ ใช้คำหยาบ คายกับลูกน้อง หรือกระทั่งบางรายมีภรรยาเข้ามายุ่มย่ามในที่ทำงาน เป็นต้น ผมได้ส่งเรื่องให้ต้นสังกัดไปตรวจสอบทั้งหมด" ปลัด ศธ. กล่าว