นครศรีธรรมราช-ตัวแทนชาวสวนปาล์มน้ำมันนครศรีฯ ยื่นหนังสือถึง "บิ๊กตู่" ร้องแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ และให้ใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด นับถอยหลัง 15 วัน หากไม่ชัดเจนเตรียมเคลื่อนไหวชุมนุม ด้านเกษตรกรชาวสวนปาล์มกระบี่ เตรียมเคลื่อนไหว หลังราคาร่วงหนักเหลือแค่ 2.90 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (27 ส.ค.) นายสมพร ศรีเพชร นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพารา-ปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย และตัวแทนชาวสวนปาล์ม ได้ยื่นหนังสือผ่านนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเรียกร้องให้แก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
นายสมพรกล่าวว่า ในทางปฏิบัติยังไม่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เพราะโรงสกัดน้ำมันปาล์มและผู้รวบรวม (ลานเท) ยังปิดป้ายแสดงราคารับซื้อไม่ถูกต้อง ไม่ชัดเจน เกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรม โรงงานยกเรื่องเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มมาเอาเปรียบกดราคาเกษตรกร เพราะไม่มีเครื่องมือวัดที่ชัดเจน จึงคาดคะเนด้วยตาเปล่าเท่านั้น และรับซื้อปาล์มต่ำกว่าราคา 3 บาท บางลานเทหยุดรับซื้อ ทำให้เกษตรกรได้รับความเสียหายอย่างหนัก
"รัฐบาลไม่เคยเอาผิดโรงงาน หรือลานเท เรื่องการรับซื้อต่ำกว่าราคาแนะนำ ซึ่งเป็นราคาที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยสินค้าและบริการออกประกาศเป็นกฎหมาย ทำให้โรงงานและลานเทเอาเปรียบเกษตรกร ทำให้เกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรม"
ทั้งนี้ กลุ่มสหกรณ์ 8 สหกรณ์ใน จ.นครศรีธรรมราช และสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน จังหวัดนครศรีธรรมราช หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งปาล์มน้ำมันเป็นสินค้าควบคุม เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันได้รับความเป็นธรรม เป็นการคืนความสุขให้ประชาชนต่อไป โดยจะให้เวลาแก้ไขปัญหา 15 วัน หากยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจะนัดชุมนุมเพื่อเรียกร้องต่อไป
นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า การยื่นข้อเรียกร้อง เป็นสิทธิของเกษตรกรที่สามารถทำได้ เมื่อผู้ว่าฯ รับหนังสือมาแล้ว ก็จะส่งไปให้รัฐบาล เพื่อพิจารณาแก้ไขต่อไป
ส่วนที่จะมีการชุมนุมเรียกร้องหากข้อเสนอไม่ได้รับการแก้ไขนั้น ขอให้ตัวแทนไปศึกษากฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยการชุมนุมในที่สาธารณะ พ.ศ.2558 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว ต้องไปศึกษาข้อห้าม ข้อปฏิบัติต่างๆ ให้ดี และก่อนการชุมนุมต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง
ด้านนายชโยดม สุวรรณวัฒนะ แกนนำเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาผลปาล์มได้ร่วงลงมาอย่างหนักอีกรอบ ล่าสุดอยู่ที่ 2.90 บาท ขณะที่บางโรงงานรับซื้ออยู่ที่ 3.10 บาทต้นๆ จากราคาผลปาล์มที่รัฐบาลประกันราคาไว้ที่หน้าโรงงานรับซื้อ 4.20 บาท ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนัก แม้ว่าจะมีมาตรการออกมา แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ทราบว่า สาเหตุเพราะเงิน 2,600 ล้านบาท ที่นำมาอุดหนุนหมด และมีสต็อกน้ำมันปาล์มล้นมากถึง 4 แสนกว่าตัน แต่สวนทางกับเกษตรกรที่ช่วงนี้ปาล์มออกมาน้อย ซึ่งไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด
สำหรับแนวทางการเคลื่อนไหว ในขณะนี้จะยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ผ่านไปยังรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เร่งหาแนวทางแก้ไขโดยด่วน โดยจะกำหนดวันยื่นอีกครั้ง ส่วนระยะยาว ต้องการให้รัฐบาล เร่งวางแนวทางการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม เพราะที่ผ่านมา รัฐบาลส่งเสริมให้ปลูกปาล์ม 1 ล้านไร่
"ขณะนี้ครบ 4 ปี และปาล์มเริ่มออกผล ทำให้มีผลผลิตน้ำมันออกมาจำนวนมหาศาล ขณะที่รัฐบาลยังไม่มีแนวทางรองรับ เบื้องต้นสิ่งที่อยากจะฝาก คือ 1.ให้นำน้ำมันปาล์มไปผลิตกระแสไฟฟ้าให้มากขึ้น 2.นำน้ำมันปาล์มไปผสมดีเซลเป็นน้ำมัน บี 10 และ 3.ห้ามนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ รวมถึงควบคุมดูแลการขนน้ำมันเถื่อนที่อาจมีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศด้วย" นายชโยดม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (27 ส.ค.) นายสมพร ศรีเพชร นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพารา-ปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย และตัวแทนชาวสวนปาล์ม ได้ยื่นหนังสือผ่านนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเรียกร้องให้แก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
นายสมพรกล่าวว่า ในทางปฏิบัติยังไม่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เพราะโรงสกัดน้ำมันปาล์มและผู้รวบรวม (ลานเท) ยังปิดป้ายแสดงราคารับซื้อไม่ถูกต้อง ไม่ชัดเจน เกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรม โรงงานยกเรื่องเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มมาเอาเปรียบกดราคาเกษตรกร เพราะไม่มีเครื่องมือวัดที่ชัดเจน จึงคาดคะเนด้วยตาเปล่าเท่านั้น และรับซื้อปาล์มต่ำกว่าราคา 3 บาท บางลานเทหยุดรับซื้อ ทำให้เกษตรกรได้รับความเสียหายอย่างหนัก
"รัฐบาลไม่เคยเอาผิดโรงงาน หรือลานเท เรื่องการรับซื้อต่ำกว่าราคาแนะนำ ซึ่งเป็นราคาที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยสินค้าและบริการออกประกาศเป็นกฎหมาย ทำให้โรงงานและลานเทเอาเปรียบเกษตรกร ทำให้เกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรม"
ทั้งนี้ กลุ่มสหกรณ์ 8 สหกรณ์ใน จ.นครศรีธรรมราช และสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน จังหวัดนครศรีธรรมราช หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งปาล์มน้ำมันเป็นสินค้าควบคุม เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันได้รับความเป็นธรรม เป็นการคืนความสุขให้ประชาชนต่อไป โดยจะให้เวลาแก้ไขปัญหา 15 วัน หากยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจะนัดชุมนุมเพื่อเรียกร้องต่อไป
นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า การยื่นข้อเรียกร้อง เป็นสิทธิของเกษตรกรที่สามารถทำได้ เมื่อผู้ว่าฯ รับหนังสือมาแล้ว ก็จะส่งไปให้รัฐบาล เพื่อพิจารณาแก้ไขต่อไป
ส่วนที่จะมีการชุมนุมเรียกร้องหากข้อเสนอไม่ได้รับการแก้ไขนั้น ขอให้ตัวแทนไปศึกษากฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยการชุมนุมในที่สาธารณะ พ.ศ.2558 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว ต้องไปศึกษาข้อห้าม ข้อปฏิบัติต่างๆ ให้ดี และก่อนการชุมนุมต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง
ด้านนายชโยดม สุวรรณวัฒนะ แกนนำเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาผลปาล์มได้ร่วงลงมาอย่างหนักอีกรอบ ล่าสุดอยู่ที่ 2.90 บาท ขณะที่บางโรงงานรับซื้ออยู่ที่ 3.10 บาทต้นๆ จากราคาผลปาล์มที่รัฐบาลประกันราคาไว้ที่หน้าโรงงานรับซื้อ 4.20 บาท ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนัก แม้ว่าจะมีมาตรการออกมา แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ทราบว่า สาเหตุเพราะเงิน 2,600 ล้านบาท ที่นำมาอุดหนุนหมด และมีสต็อกน้ำมันปาล์มล้นมากถึง 4 แสนกว่าตัน แต่สวนทางกับเกษตรกรที่ช่วงนี้ปาล์มออกมาน้อย ซึ่งไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด
สำหรับแนวทางการเคลื่อนไหว ในขณะนี้จะยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ผ่านไปยังรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เร่งหาแนวทางแก้ไขโดยด่วน โดยจะกำหนดวันยื่นอีกครั้ง ส่วนระยะยาว ต้องการให้รัฐบาล เร่งวางแนวทางการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม เพราะที่ผ่านมา รัฐบาลส่งเสริมให้ปลูกปาล์ม 1 ล้านไร่
"ขณะนี้ครบ 4 ปี และปาล์มเริ่มออกผล ทำให้มีผลผลิตน้ำมันออกมาจำนวนมหาศาล ขณะที่รัฐบาลยังไม่มีแนวทางรองรับ เบื้องต้นสิ่งที่อยากจะฝาก คือ 1.ให้นำน้ำมันปาล์มไปผลิตกระแสไฟฟ้าให้มากขึ้น 2.นำน้ำมันปาล์มไปผสมดีเซลเป็นน้ำมัน บี 10 และ 3.ห้ามนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ รวมถึงควบคุมดูแลการขนน้ำมันเถื่อนที่อาจมีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศด้วย" นายชโยดม กล่าว