ASTV ผู้จัดการรายวัน-มาร์เก็ตติ้งสาวพร้อมแม่ เข้ามอบตัวสู้คดีโอนหุ้น "เสี่ยชูวงษ์" ยันได้รับโอนโดยเสน่หาอย่างถูกต้อง ยอมรับรู้จัก "บรรยิน" แต่ไม่สนิทสนม ด้านพนักงานสอบสวนคุมตัวฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมคัดค้านประกัน เหตุคดีมีมูลค่าความเสียหายสูง แต่ล่าสุดศาลให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์คนละ 3 ล้านบาท มีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ เผยพริตตี้สาวนัดเข้ามอบตัววันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (26 ส.ค.) น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือป้อนข้าว อายุ 26 ปี มาร์เก็ตติ้งสาว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.562/2558 ลงวันที่ 24 ส.ค.2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และ น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 52 ปี มารดา น.ส.อุรชา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.561/2558 ลงวันที่ 24 ส.ค.2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร กรณีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ พร้อมด้วย นายเดชา ขุนทอง ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
น.ส.อุรชา กล่าวว่า ขอยืนยันว่าหุ้นที่ได้รับโอนมาจากนายชูวงษ์ ได้มาโดยสุจริต มีการดำเนินการตามขั้นตอนการโอนหุ้นอย่างถูกต้องทุกอย่าง ซึ่งตนได้รับการโอนหุ้นดังกล่าวมาโดยเสน่หา ส่วนพยานบุคคล ตนไม่มี แต่คิดว่าพยานเอกสารมีความสำคัญมากกว่า
สำหรับนายชูวงษ์ กับ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ตนยอมรับว่ารู้จักกับบุคคลทั้งสอง แต่รู้จักกับนายชูวงษ์มาก่อน ส่วน พ.ต.ท.บรรยิน ตนรู้จัก แต่ไม่ได้มีความสนิทสนมเป็นพิเศษ
เมื่อถามถึงกรณีปากกาที่นายชูวงษ์ ใช้ในการเซ็นเอกสารเกี่ยวกับการโอนหุ้น น.ส.อุรชา กล่าวว่า ในส่วนนี้ตนไม่ทราบว่านายชูวงษ์ ใช้ปากกาชนิดใด เนื่องจากตนได้ตรวจสอบเพียงความสมบูรณ์ของข้อความและลายเซ็นในเอกสารเท่านั้น จึงไม่สามารถบอกได้ว่านายชูวงษ์ ใช้ปากกาชนิดใดเป็นชนิดที่ลบได้หรือไม่
เมื่อถามว่า ในฐานะที่ทำงานเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น ปากกาชนิดพิเศษที่ พ.ต.ท.บรรยิน นำมาอ้างกับผู้สื่อข่าวตอนมอบตัวว่าสามารถใช้เซ็นลงในใบโอนหุ้นได้หรือไม่ น.ส.อุรชา กล่าวว่า สามารถใช้ปากกาทุกชนิดเซ็นได้
ด้าน พ.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวว่า เมื่อทาง น.ส.ศรีธรา และ น.ส.อุรชา ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเอง ขั้นตอนหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ก่อนที่จะนำทั้งสองมาพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติอาชญากรตามขั้นตอนการสอบสวนดำเนินคดีที่บริเวณหน้าห้องขัง บก.ป. ก่อนจะมีการแยกกันสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสอง โดยในระหว่างการสอบปากคำ น.ส.ศรีธรามีน้ำตาคลอหน่วยและสีหน้าที่เศร้าหมอง ส่วน น.ส.อุรชา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ภายในห้องขัง
ต่อมาเวลา 13.20 น. เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเสร็จสิ้นโดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว น.ส.ศรีธรา และ น.ส.อุรชา เดินทางไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อผลัดฟ้องฝากขังเป็นครั้งแรกมีกำหนด 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.-6 ก.ย.2558 โดยผู้ต้องหาทั้งสองปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนที่เฝ้ารอทำข่าว ก่อนจะเดินขึ้นรถตู้ของทางตำรวจเดินทางออกจาก บก.ป.ไป ขณะที่ทนายความของผู้ต้องหาได้เตรียมยื่นเรื่องขอประกันตัวในชั้นศาลแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเกรงว่าหากได้รับการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองอาจจะหลบหนี และคดีดังกล่าวมีมูลค่าความเสียหายสูง โดยการประกันตัวในชั้นศาลนั้น คงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่
นอกจากนี้ ในส่วน น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล หรือน้ำตาล พริ้ตตี้และแคดดี้สาว ผู้ต้องหาที่เหลือเพียงรายเดียวในคดีนี้ ซึ่งยังไม่ได้เดินทางเข้ามามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนนั้น ในเบื้องต้นมีรายงานว่านายเสกสรรค์ เสนาชู ทนายความของ น.ส.กัญฐญา ได้ประสานติดต่อมายังพนักงานสอบสวนแล้วว่า น.ส.กัญฐณาจะเดินทางเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีดังกล่าวในวันนี้ (27 ส.ค.) เวลา 09.00 น.
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.ศรีธรา และ น.ส.อุรชา โดยตีราคาหลักทรัพย์ประกันตัวคนละ 3 ล้านบาท และมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (26 ส.ค.) น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือป้อนข้าว อายุ 26 ปี มาร์เก็ตติ้งสาว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.562/2558 ลงวันที่ 24 ส.ค.2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และ น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 52 ปี มารดา น.ส.อุรชา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.561/2558 ลงวันที่ 24 ส.ค.2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร กรณีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ พร้อมด้วย นายเดชา ขุนทอง ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
น.ส.อุรชา กล่าวว่า ขอยืนยันว่าหุ้นที่ได้รับโอนมาจากนายชูวงษ์ ได้มาโดยสุจริต มีการดำเนินการตามขั้นตอนการโอนหุ้นอย่างถูกต้องทุกอย่าง ซึ่งตนได้รับการโอนหุ้นดังกล่าวมาโดยเสน่หา ส่วนพยานบุคคล ตนไม่มี แต่คิดว่าพยานเอกสารมีความสำคัญมากกว่า
สำหรับนายชูวงษ์ กับ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ตนยอมรับว่ารู้จักกับบุคคลทั้งสอง แต่รู้จักกับนายชูวงษ์มาก่อน ส่วน พ.ต.ท.บรรยิน ตนรู้จัก แต่ไม่ได้มีความสนิทสนมเป็นพิเศษ
เมื่อถามถึงกรณีปากกาที่นายชูวงษ์ ใช้ในการเซ็นเอกสารเกี่ยวกับการโอนหุ้น น.ส.อุรชา กล่าวว่า ในส่วนนี้ตนไม่ทราบว่านายชูวงษ์ ใช้ปากกาชนิดใด เนื่องจากตนได้ตรวจสอบเพียงความสมบูรณ์ของข้อความและลายเซ็นในเอกสารเท่านั้น จึงไม่สามารถบอกได้ว่านายชูวงษ์ ใช้ปากกาชนิดใดเป็นชนิดที่ลบได้หรือไม่
เมื่อถามว่า ในฐานะที่ทำงานเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น ปากกาชนิดพิเศษที่ พ.ต.ท.บรรยิน นำมาอ้างกับผู้สื่อข่าวตอนมอบตัวว่าสามารถใช้เซ็นลงในใบโอนหุ้นได้หรือไม่ น.ส.อุรชา กล่าวว่า สามารถใช้ปากกาทุกชนิดเซ็นได้
ด้าน พ.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวว่า เมื่อทาง น.ส.ศรีธรา และ น.ส.อุรชา ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเอง ขั้นตอนหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ก่อนที่จะนำทั้งสองมาพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติอาชญากรตามขั้นตอนการสอบสวนดำเนินคดีที่บริเวณหน้าห้องขัง บก.ป. ก่อนจะมีการแยกกันสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสอง โดยในระหว่างการสอบปากคำ น.ส.ศรีธรามีน้ำตาคลอหน่วยและสีหน้าที่เศร้าหมอง ส่วน น.ส.อุรชา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ภายในห้องขัง
ต่อมาเวลา 13.20 น. เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเสร็จสิ้นโดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว น.ส.ศรีธรา และ น.ส.อุรชา เดินทางไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อผลัดฟ้องฝากขังเป็นครั้งแรกมีกำหนด 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.-6 ก.ย.2558 โดยผู้ต้องหาทั้งสองปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนที่เฝ้ารอทำข่าว ก่อนจะเดินขึ้นรถตู้ของทางตำรวจเดินทางออกจาก บก.ป.ไป ขณะที่ทนายความของผู้ต้องหาได้เตรียมยื่นเรื่องขอประกันตัวในชั้นศาลแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเกรงว่าหากได้รับการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองอาจจะหลบหนี และคดีดังกล่าวมีมูลค่าความเสียหายสูง โดยการประกันตัวในชั้นศาลนั้น คงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่
นอกจากนี้ ในส่วน น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล หรือน้ำตาล พริ้ตตี้และแคดดี้สาว ผู้ต้องหาที่เหลือเพียงรายเดียวในคดีนี้ ซึ่งยังไม่ได้เดินทางเข้ามามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนนั้น ในเบื้องต้นมีรายงานว่านายเสกสรรค์ เสนาชู ทนายความของ น.ส.กัญฐญา ได้ประสานติดต่อมายังพนักงานสอบสวนแล้วว่า น.ส.กัญฐณาจะเดินทางเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีดังกล่าวในวันนี้ (27 ส.ค.) เวลา 09.00 น.
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.ศรีธรา และ น.ส.อุรชา โดยตีราคาหลักทรัพย์ประกันตัวคนละ 3 ล้านบาท และมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ